รีวิว THE CITY Kanchana-Bangkae (เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค) โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ระดับ Luxury เริ่ม 30-50 ล้านบาท จาก AP ใกล้ The mall บางแค มาในสไตล์ English Modern Classic มีหลังคาหน้าจั่วทรงสูงโดดเด่น ทำให้มีพื้นที่ใต้หลังคาสำหรับใช้งาน ได้กลิ่นอายความเป็นสถาปัตยกรรมอังกฤษโดยตัวโครงการมีความน่าสนใจดังนี้ค่ะ

  • ใกล้ The mall บางแค :  เพียง 1.8 กิโลเมตร ถือใกล้กว่าโครงการรอบข้างที่มีระดับราคาเดียวกัน
  • สังคมส่วนตัว : เพื่อนบ้านเพียง 26 ครอบครัว นับว่าน้อยที่สุดในโซนนี้เลย
  • มีห้องใต้หลังคา : เพราะหลังคาทรงสูงพิเศษ ทำให้มีพื้นที่เพียงพอที่จะทำเป็นห้องใต้หลังคา

รายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไร ตามไปชมกันเลย

 

ข้อมูลโครงการ

THE CITY Kanchana-Bangkae(เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค) ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2567

 ชื่อโครงการ   THE CITY Kanchana-Bangkae (เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
 ที่ดิน    14-0-89.2 ไร่
 จำนวนยูนิต    26  ยูนิต
 ประเภทบ้าน

  • ELTHAM บ้านเดี่ยว 2 ชั้น  ที่ดินเริ่มต้น 109.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 390 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องพระ / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  • CAMPTON บ้านเดี่ยว 2 ชั้น  ที่ดินเริ่มต้น 124.7 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 430 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องพระ / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  • WALENTON บ้านเดี่ยว 2 ชั้น  ที่ดินเริ่มต้น 129.3 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องพระ / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
  • OXBURGH บ้านเดี่ยว 2 ชั้น  ที่ดินเริ่มต้น 146.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 580 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องพระ / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.8 เมตร
 ราคา                      เริ่ม 30 – 50 ล้าน
 เว็บไซต์โครงการ  คลิกที่นี่
 โทร   1623

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.726270346802233 , 100.40668548068763
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่ 

แผนที่จากทางโครงการ THE CITY Kanchana-Bangkae(เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค)

โครงการ THE CITY Kanchana-Bangkae(เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค) อยู่ในโซนกาญจนาภิเษก – เพชรเกษม หากใครเคยขับรถผ่านแถวนี้จะเห็นว่ามีโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Hi-end ตั้งอยู่หลายโครงการ เพราะถนนกาญจนาภิเษก อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อย่างห้างสรรพสินค้า รวมถึงแหล่งของกินต่าง ๆ และยังเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นอื่นๆได้ง่าย เช่น ถนนบรมราชชนนี ถนนเพชรเกษม และ ถนนกัลปพฤกษ์  เราจึงคาดว่าในอนาคตจะมีอีกหลายโครงการมาเปิด เพราะยังพอมีที่ว่างให้พัฒนา

THE CITY Kanchana-Bangkae(เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค) ตั้งอยู่ในซอย ศิริสุข ซอย 1 ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ จากถนนกาญจนาภิเษกในระยะประมาณ 100 เมตร ถือว่าใกล้กับถนนใหญ่มาก ๆ และอยู่ห่างจาก The mall บางแค เพียง 1.8 กิโลเมตร ซึ่งหากเทียบกับโครงการรอบข้างที่อยู่ใน Segment เดียวกัน โครงการนี้ใกล้ The mall บางแค มากที่สุดเลย

นอกจากนี้ จากตัวโครงการยังเดินทางไปโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งได้อย่างสะดวก เช่น โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม , โรงเรียนเลิศหล้า กาญจนาภิเษก , SISB Thonburi และ Pioneers Inter Bangkhae Campus ใครที่มีลูกเรียนโรงเรียนเหล่านี้ ก็สามารถไปรับ-ส่งได้สบาย ๆ 

โครงการนี้เหมาะกับคนที่ทำงานแถว บางแค บางบอน ตลิ่งชัน เพราะเชื่อมจากถนนกาญจนาภิเษกได้ง่าย หรือกลุ่มคนที่ทำงานโซนพระราม 3  ก็สามารถใช้ถนนเส้นเพชรเกษม เชื่อมต่อไปยังถนนรัชดาภิเษก เพื่อเข้าไปยังโซนพระราม 3 ได้ไม่ยากค่ะ

ตัวช่วยในการเดินทาง

หากใครที่ต้องการเดินทางไปยังโซนจตุจักร ลาดพร้าว หรือไปสนามบินดอนเมือง จะมีตัวช่วยอย่าง ทางด่วนศรีรัชที่ห่างจากโครงการประมาณ 13.8 กิโลเมตร ให้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกขึ้นด้วย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

พื้นที่รอบข้างโครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัย และพื้นที่รอการพัฒนาที่คาดว่าน่าจะขึ้นเป็นหมู่บ้านจัดสรรอีก เพราะซอยนี้มีบรรยากาศสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัย แต่ก็ใกล้กับแหล่งอุดมความสมบูรณ์ครบครัน บนถนนกาญจนาภิเษก

  • ทิศเหนือ : ที่พักอาศัย 1-3 ชั้น
  • ทิศตะวันออก : ที่ว่างรอการพัฒนา
  • ทิศใต้ : ที่ว่างรอการพัฒนา , ที่พักอาศัย 1-2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก : ร้านค้า 1 ชั้น , สำนักงานประปานครหลวงภาษีเจริญ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • The Mall  บางแค ~ 1.8 กิโลเมตร
  • Lotus’s บางแค ~ 3.2 กิโลเมตร
  • The Explace Mall ~ 3.9กิโลเมตร
  • ตลาดบางแค ~ 4.6 กิโลเมตร
  • Makro  เพชรเกษม ~ 5.1 กิโลเมตร
  • Bic C  เพชรเกษม ~ 5.3 กิโลเมตร
  • Victoria Gardens ~ 5.6 กิโลเมตร
  • สำเพ็ง 2 ~ 5.6 กิโลเมตร
  • Seacon  บางแค  ~ 6.4 กิโลเมตร
  • Indy Market  กัลปพฤกษ์ ~ 6.5 กิโลเมตร
  • Home Pro กัลปพฤกษ์ ~ 6.6 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ~3.7 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลพญาไท 3 ~8.3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลบางปะกอก 8 ~8.7 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม ~ 5.4 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเลิศหล้า กาญจนาภิเษก ~ 6.2 กิโลเมตร
  • SISB Thonburi ~7.2 กิโลเมตร
  • Pioneers Inter Bangkhae Campus ~ 7.3 กิโลเมตร
  • British Columbia International School ~ 8.3 กิโลเมตร
  • โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ~ 10.3 กิโลเมตร

สถานที่ราชการ

  • สำนักงานเขตบางแค ~3.7 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

THE CITY Kanchana-Bangkae (เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ระดับ Hi-end จาก AP ที่สร้างบนที่ดิน 14-0-89.2 ไร่ บ้านแต่ละหลัง มีขนาดที่ดินในบ้านเริ่มต้นที่ 109 ตารางวา จนถึง 146.5 ตารางวา และมีพื้นที่ใช้สอย 390-580 ตารางเมตร ทำให้มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 26 ยูนิต ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดของบ้านโซนนี้ เพราะโครงการบ้านเดี่ยวในละแวกนี้มักมีประมาณ 50 กว่า ๆ ไปจนถึง 100 ปลาย ๆ ยูนิตเลยทีเดียว โครงการนี้จึงเหมาะกับครอบครัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง

Master Plan

โครงการ THE CITY Kanchana-Bangkae (เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค) มีการวางผังโครงการที่น่าสนใจทีเดียว ซึ่งเรามองว่ามีเรื่องที่น่าสนใจอยู่ 3 ประเด็น ดังนี้ค่ะ

ประเด็นที่หนึ่ง : ส่วนกลางทั้งหมดอยู่หน้าโครงการ เวลาที่คนเข้ามาในโครงการ จะเห็นวงเวียนและสวนส่วนกลางก่อน เป็นลำดับแรก ช่วยเสริมบรรยากาศที่ดีให้กับโครงการ หากใครที่ชอบใช้ Facility ส่วนกลาง แนะนำให้อยู่บ้านโซนเส้นประสีแดง เพื่อเข้าใช้ The club ได้สะดวก

ประเด็นที่สอง : ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะบ้านส่วนใหญ่ในโครงการอยู่ในซอยย่อย  ซึ่งแต่ละซอยมีจำนวนยูนิตที่น้อย คือ 1-6 ยูนิต แล้วซอยที่มี 6 ยูนิต มีแค่ 1 ซอยเท่านั้น นอกจากนี้ทุกซอยเป็นซอยตัน ถนนในซอยจึงมีแค่ลูกบ้านของแต่ละซอยใช้เท่านั้น

ถ้าเปรียบเทียบบ้านโซนที่ติดถนนหลักของโครงการกับในซอยย่อย ก็จะมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันไป บ้านที่ติดถนนหลักจะไม่หันหน้าชนกับเพื่อนบ้าน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว ส่วนบ้านที่อยู่ในซอยจะได้ความสงบ เพราะไม่ค่อยมีรถผ่านไปมาหน้าบ้าน และได้ตำแหน่งแปลงมุมเกือบทุกหลัง

ประเด็นที่สาม : บ้านในโครงการมีทั้งแปลงที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ, ตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งบ้านทิศเหนือฝั่งหน้าบ้านจะโดนแดดในช่วงเช้าและร่มในช่วงบ่าย ส่วนบ้านทิศใต้ฝั่งหน้าบ้านจะร่มในช่วงเช้าและโดนแดดในช่วงบ่าย การเลือกบ้านว่าหันทิศไหนดีจะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น หากเป็นคนชอบตื่นสายก็ควรเลือกบ้านที่มีตำแหน่งเตียงนอนอยู่ทางทิศใต้ เพื่อให้แสงไม่ส่องเข้าบ้านในช่วงเช้า และการวางแปลนบ้านทิศเหนือ-ใต้ จะสอดคล้องกับลมประจำฤดูของไทยมากที่สุด ช่วยให้ลมไหลเวียนเข้าบ้านได้ดี

Image 1/3
ซุ้มประตูโครงการ

ซุ้มประตูโครงการ

ซุ้มประตูโครงการมีการแยกฝั่งเข้า-ออกที่ชัดเจน โครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ พร้อมมีไม้กั้นกระดก และประตูเหล็กรางเลื่อนเพื่อความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน และมีชายคาคลุมตลอดแนว ช่วยบังแดดบังฝนให้ผู้ที่มาติดต่อเวลามาแลกบัตร ส่วนด้านข้างมีทางเท้าและประตูสำหรับคนเดินด้วยค่ะ

เมื่อผ่านซุ้มประตูทางเข้ามา จะเจอวงเวียนน้ำพุ ที่มีด้านหลังเป็นสวนสีเขียว ช่วยเสริมบรรยากาศที่ร่มรื่นให้กับโครงการ

เมื่อขับรถเลยวงเวียนมาจะเห็นว่ามีส่วนกลางของโครงการอยู่ข้างๆทั้ง 2 ฝั่ง คือสวนส่วนกลาง และ The Club หรือ Club House ของโครงการนั่นเอง

การเอา Clubhouse ไว้บนซุ้มประตูหน้าโครงการเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของโครงการ The city ทำให้ซุ้มประตู และ Clubhouse ดูอลังการ

Image 1/2
ทางเข้า Clubhouse

ทางเข้า Clubhouse

ทางขึ้นอาคาร Clubhouse ออกแบบเป็น Universal Design มีทางลาดให้ใช้วีลแชร์ได้ด้วย

Image 1/3
สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำเป็นสระกลางแจ้ง ระบบเกลือ แยกโซนเด็กไว้เป็นสัดส่วน โดยสระมีความยาวประมาณ 13×7 เมตร ลูกบ้านสามารถใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริงจังเลย  นอกจากนี้ยังมีโซนจากุชชี่อีกด้วย เนื่องจากสระว่ายน้ำอยู่ทางทิศใต้ เหมาะจะมาใช้บริการช่วงเย็นๆ เพื่อไม่ให้แดดร้อนจนเกินไป

อีกหนึ่งมุมที่เราชอบ คือ Sunken Area ข้างๆสระว่ายน้ำ เหมาะกับการมานั่งชิล ๆ ยามเย็นเลย หรือพ่อแม่ที่พาลูกมาว่ายน้ำ ก็สามารถมานั่งรอตรงนี้ได้สบาย ๆ

ข้างสระว่ายน้ำมีจุดล้างตัว ที่สามารถอาบน้ำพร้อมกัน 2 คนได้เลย

ห้องน้ำของ Clubhouse แบ่งเป็นห้องน้ำชาย-หญิง และมีห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุไว้รองรับโดยเฉพาะด้วย

Image 1/2
ห้องน้ำส่วนกลาง

ห้องน้ำส่วนกลาง

ภายในห้องน้ำส่วนกลาง มีครบทั้งห้องสุขา, ห้องอาบน้ำและ Sauna แยกชายหญิงด้วยค่ะ

ภายในห้อง Sauna รองรับการใช้งานพร้อมกันได้ประมาณ 4 คน

ในส่วนของห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุมีขนาดกว้างขวางทีเดียว สามารถเข็นวีลแชร์เข้าไปได้สบายๆ

เข้ามาใน Lobby ส่วนกลาง มีการจัดวางโซฟารูปตัว L ไว้ รองรับการใช้งานได้ 5-6 คน ลูกบ้านสามารถพาแขกมาคุยธุระบริเวณนี้แทนได้ หากไม่สะดวกพาแขกเข้าบ้าน นอกจากนี้ยังมี Meeting Room สำหรับลูกบ้านที่ต้องการจัดประชุมเล็ก ๆ ได้ด้วย

ข้างๆ Meeting Room เป็นบันไดสำหรับขึ้นไปชั้น 2 ของ Clubhouse ซึ่งประกอบไปด้วย Fitness,  Theatre และ Estate Lounge

Image 1/2
Fitness

Fitness

ห้อง Fitness มีขนาดกว้างมากพอจะวางเครื่องออกกำลังกายได้ 5-6 เครื่อง ถือว่าเพียงพอต่อการรองรับลูกบ้าน 26 ยูนิต

Image 1/3
Estate Lounge

Estate Lounge

ถัดมาที่ Estate Lounge เป็นพื้นที่พักผ่อน ที่เปิดให้ลูกบ้านมาใช้งานได้ หรือใครที่มีแพลนจัดงานเลี้ยงส่วนตัวก็สามารถจองสถานที่ไว้ก่อนได้ค่ะ เพราะโครงการเตรียมโซนเวที และบาร์สำหรับเตรียมเครื่องดื่มไว้ให้พร้อมเลย

Theatre เป็นห้องที่น่าสนใจของ Clubhouse มากๆ เพราะไม่ใช่ทุกโครงการจะเตรียมห้องดูหนังให้กับลูกบ้านแบบนี้ แถมอาร์มแชร์ในห้องก็ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงหนังเลย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 7×13 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • แบ่งสระเด็กลึกขนาด 2×3 เมตร ลึก 0.4 เมตร
  • จากุชชี่
  • Sauna
  • Lobby และ Meeting Room
  • ห้องออกกำลังกาย
  • Estate Lounge
  • Theatre

  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 192 ตารางวา
  • สนามเด็กเล่น
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 12 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 9 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
  • เข้าออกโครงการด้วยระบบ Katsan
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบไม้กั้นกระดก และรั้วเลื่อนไฟฟ้า
  • แบบบ้าน

    แบบบ้านของโครงการ THE CITY Kanchana-Bangkae (เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค) มีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ในราคาเริ่มต้น 30-50 ล้านบาท

    Image 1/3
    แบบบ้าน ELTHAM

    แบบบ้าน ELTHAM

    Type เริ่มต้น ELTHAM บ้านเดี่ยว 2 ชั้น  ที่ดินเริ่มต้น 109.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 390 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องพระ / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ

    Image 1/3
    แบบบ้าน CAMPTON

    แบบบ้าน CAMPTON

    ฟังก์ชันเท่าหลังเริ่มต้น แต่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่ขึ้นมาหน่อย คือแบบบ้าน CAMPTON บ้านเดี่ยว 2 ชั้น  ที่ดินเริ่มต้น 124.7 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 430 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องพระ / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ

    Image 1/3
    แบบบ้าน WALENTON

    แบบบ้าน WALENTON

    Type รองใหญ่ WALENTON บ้านเดี่ยว 2 ชั้น  ที่ดินเริ่มต้น 129.3 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องพระ / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ

    Image 1/4
    แบบบ้าน OXBURGH

    แบบบ้าน OXBURGH

    Type ใหญ่สุด OXBURGH บ้านเดี่ยว 2 ชั้น  ที่ดินเริ่มต้น 146.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 580 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องพระ / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ

    บ้านของโครงการ  THE CITY Kanchana-Bangkae (เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค) ออกแบบมาในสไตล์ English Modern Classic เน้นให้ตัวบ้านเป็นโทนสีเบจด้วยกระเบื้องลายอิฐ ตัดกับกรอบอะลูมิเนียมประตู หน้าต่างสีดำ ทำให้ตัวบ้านดูมีมิติมากขึ้น ที่โดดเด่นที่สุดของบ้านคือ หลังคาหน้าจั่วทรงสูงพิเศษ ที่ทำให้บ้านมีพื้นที่ใช้สอยใต้หลังคาเพิ่มขึ้น และช่วยลดความร้อนที่ถ่ายเทจากหลังคาเข้ามาในตัวบ้านได้ด้วย กลายเป็นอีก 1 จุดที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ

    วัสดุและเทคโนโลยี

    • โครงสร้างบ้าน :  Conventional รองรับการทุบต่อเติมในอนาคต
    • หลังคา : ทรงหน้าจั่วผสมปั้นหยา
    • พื้นที่จอดรถ : โครงสร้างแบบ On Ground
    • ชั้น 1 – ปูกระเบื้อง แกรนิตโต้ 80×80 QAZAN POL-A / ห้องนอนชั้นล่าง ปูพื้น SPC ขนาด 4 มม.
    • ชั้น 2 – ปูด้วยปาเก้ไม้สัก ขนาด 18 มม.
    • ชั้นลอย – ปูด้วยปาเก้ไม้สัก ขนาด 18 มม.
    • DIGITAL DOOR LOCK : สามารถสแกนผ่าน ลายนิ้วมือ / Password / Keycard / กุญแจ / Application
    • SPOT : ควบคุมแอร์ผ่านแอปพลิเคชั่น สามารถเปิด-ปิดแอร์ได้แม้ไม่อยู่บ้าน , ตั้งเวลาเปิด/ปิด ได้
    • SMART PLUG : ตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ เช่น พัดลม กาต้มน้ำ สปริงเกิล
    • CUBE CLICKER : ปุ่มขอความช่วยเหลือในห้องผู้สูงอายุ ซึ่งระบบจะแจ้งเตือนไปยังมือถือของสมาชิกในบ้าน
    • MOTION SENSOR : เปิด-ปิด ไฟอัตโนมัติเวลาเดินผ่าน เช่น บริเวณบันได และห้องนอนชั้น 1
    • MAGNETIC SENSOR: สัญญาแจ้งเตือนเมื่อเปิดประตูหน้าต่าง ทั้งชั้น 1 และ 2
    • SHOCK SENSOR : สัญญากันขโมย เมื่อมีการกระแทกประตู หน้าต่างเฉพาะ ชั้น 1
    • TOUCH SWITCH : เปิด-ปิดไฟได้ผ่านมือถือ สามารถตั้งเวลาเปิด/ปิดได้
    • IP CAMERA (CCTV) : 2 จุด ที่โรงจอดรถ และโถงรับแขก

    โครงการนี้จะมีบ้านตัวอย่างให้ชม 1 Type คือ OXBURGH ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ที่สุด จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย


    บ้าน OXBURGH

    บ้านแบบใหญ่ที่สุดของโครงการ มีที่ดินเริ่มต้น 146.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 580 ตร.ม.
    ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องพระ / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ

    Image 1/3
    แปลนชั้น 1

    แปลนชั้น 1

    แบบบ้านนี้สามารถรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่อยู่ร่วมกัน 3 Generations ได้  เพราะมีห้องนอนถึง 5 ห้อง รวมห้องนอนผู้สูงอายุที่อยู่ชั้นล่างด้วย ทุกห้องนอนมีห้องน้ำภายในตัว  แต่ที่น่าสนใจคือ บ้านหลังนี้มีทั้ง Master Bedroom และ Junior Master Bedroom จึงสามารถรองรับครอบครัวขยายในอนาคตได้อีก เช่น ลูกแต่งงานแล้วก็ยังสามารถอยู่ห้อง Junior Master Bedroom ได้ หากไม่มีแพลนแยกตัวออกไปอยู่ที่อื่น

    ส่วนมุมพักผ่อนของบ้านหลังนี้มีหลายจุดทีเดียว รองรับกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป เช่นเวลาที่พ่อแม่มีแขกมาเยี่ยมก็สามารถใช้พื้นที่รับแขกหน้าบ้านได้ ในขณะที่ลูก ๆ ก็อยู่ห้องนั่งเล่นทำการบ้าน เล่นเกมส์กันได้อย่างสนุกสนาน

    Highlight ที่แตกต่างจากบ้านโครงการอื่นก็คือ พื้นที่ใต้หลังคาที่อยู่บนชั้นลอย ซึ่งน่าจะเป็นมุมโปรดของเด็กๆ เลยนะคะ

    ประตูรั้วของบ้านเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนที่แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ทำให้ไม่กินพื้นที่ในการเลื่อนเก็บ นอกจากนี้ยังเดินระบบไฟไว้รองรับการติดตั้งระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยค่ะ

    นอกจากประตูที่จอดรถก็จะมีประตูเล็กสำหรับเดินเข้าออกแยกไว้ให้ ซึ่งตำแหน่งประตูจะตรงกับประตูหลักของบ้านพอดี เมื่อเปิดประตูเข้ามาจึงดู Grand หรูหราดีค่ะ

    Image 1/3
    พื้นที่สวนรอบบ้าน

    พื้นที่สวนรอบบ้าน

    เนื่องจากที่ดินทุกแปลงมีที่ดิน 100 ตารางวา ขึ้นไปทั้งหมด ทำให้พื้นที่รอบบ้านค่อนข้างกว้างทีเดียว ซึ่งทางโครงการจะปูหญ้า ลงไม้พุ่มและไม้ยืนขนาดเล็กไว้ให้บางส่วน ซึ่งพรรณไม้จะเข้ากับสไตล์ยุโรปของตัวบ้าน

    สำหรับบ้านตัวอย่างเป็นแปลงมุมจึงมีพื้นที่ใหญ่เป็นพิเศษ สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นชมบรรยากาศรอบ ๆ บ้านแบบนี้ได้นะคะ

    Image 1/2
    พื้นที่จอดรถ

    พื้นที่จอดรถ

    พื้นที่จอดรถ ของบ้านสามารถจอดรถในร่มได้ 4 คัน แต่หากใครมีรถคันใหญ่ เช่น Alphard ที่มีความยาวมากกว่าปกติ อาจต่อเติมชายคาให้ยาวขึ้นเพื่อให้บังแดดรถได้เต็มคัน

    สำหรับพื้นบริเวณที่จอดรถจะเป็นแบบ Slab on Ground ทั้งหมด ไม่ได้ลงเสาเข็ม แต่ก็มีการตัด Joint แยกพื้นออกจากโครงสร้างหลักของบ้านไว้ หากในอนาคตพื้นที่จอดรถมีการทรุดตัวก็จะไม่ส่งผลต่อตัวบ้านหลัก แต่หากจะต่อเติมหลังคาก็แนะนำให้ปรึกษาวิศวกรเพิ่มเติมนะคะ

    บริเวณพื้นที่จอดรถจะติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ไว้ให้ 1 ตัว และอีกจุดหนึ่งจะอยู่บริเวณห้องนั่งเล่นภายในตัวบ้าน นอกจากนี้ยังเตรียมระบบไฟรองรับการติดตั้ง EV Changer ไว้ให้ รองรับสูงสุด 22 kW. แต่จะติดตั้งได้กี่ kW. ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านด้วยค่ะ

    Image 1/2
    ประตูเข้าบ้านฝั่งที่จอดรถ

    ประตูเข้าบ้านฝั่งที่จอดรถ

    จากที่จอดรถจะมีประตูเข้าบ้านอีกทางหนึ่ง หากวันไหนที่ฝนตกเราสามารถใช้ประตูนี้เข้าบ้านได้โดยไม่เปียกฝนเลย ประตูบานนี้เป็นแบบ Digital door lock หากลูกบ้านลืมกุญแจก็กดรหัสเเทนได้

    สำหรับทางเดินไปประตูหลักจะออกแบบเป็นทางลาด รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ และสามารถเข็นกระเป๋าเดินทางขึ้นลงได้สะดวก

    ประตูทางเข้าหลักยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้านเล็กน้อย เพื่อกันฝุ่นต่างๆ เป็นประตูไม้สักบานคู่ เปิดได้กว้างประมาณ 1.45 เมตร ทำให้ขนเฟอร์นิเจอร์ เข้า-ออกได้สบาย

    สำหรับเรื่องความปลอดภัย โครงการติดตั้งระบบ Magnetic Sensor ไว้ทั้งชั้น 1 และ 2 ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อมีการเปิด-ปิด ประตู หน้าต่าง แถมชั้น 1 ยังมีระบบ Shock Sensor แจ้งเตือนเมื่อมีการกระแทกประตู-หน้าต่างอีกด้วย

    มือจับและลูกบิดใช้ของ COLT เราลองใช้งานแล้วดูแข็งแรงดี

    Image 1/4
    พื้นที่รับแขก

    พื้นที่รับแขก

    เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่รับแขกขนาดใหญ่ ที่มีฝ้าเพดานแบบ Double Volume พร้อมหน้าต่างโดยรอบ ช่วยให้แสงภายนอกเข้ามาในตัวบ้านได้อย่างทั่วถึง ตอนเราเปิดประตูเข้าไปก็รู้สึกโปร่ง สบาย ไม่อึดอัด

    พื้นที่รับแขกมีขนาดประมาณ 5.85 x 5.70 เมตร สามารถวางโซฟารูปตัว L ที่รองรับ 5-6 ที่นั่ง แถมยังวางอาร์มแชร์ 1-2 ตัวได้ด้วย ทำให้พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นจุดรวมตัวของสมาชิกในบ้านได้ดีเลย

    ถัดจากพื้นที่รับแขก เราจะเจอกับมุมพักผ่อน Semi-Outdoor, พื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหาร ที่เชื่อมต่อกัน

    มุมพักผ่อน Semi-Outdoor ข้างๆบ้านเหมาะกับคนชอบชมสวน ซึ่งมีหลังคาคลุมบังแดดบังฝน จึงสามารถใช้งานได้ตลอดวัน

    พื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัวจะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่ามุมรับแขก เราสามารถจัดมุมนี้ตามไลฟ์สไตล์เราได้ เช่น ห้องเล่นเกมส์ ห้องอ่านหนังสือ เพราะบ้านมาตรฐานจะกั้นเป็นห้องมาให้เลย หรือใครอยากให้พื้นที่ดูโปร่งโล่งแบบในบ้านตัวอย่างจะเอาประตูออกก็ได้นะคะ

    หน้าต่างข้างๆ ห้องนั่งเล่นเป็นประตูบานเลื่อนแบบ Double Lock ช่วยเสริมความปลอดภัยให้สมาชิกในบ้าน

    พื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง ดูจากขนาดพื้นที่จะสามารถวางโต๊ะกินข้าวได้ 12 ที่นั่งเลย

    ติดกับโต๊ะอาหารจะมีพื้นที่สำหรับจัดเป็น Pantry ขนาดเล็ก รองรับการเตรียมอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือใครทำขนมเป็นงานอดิเรกก็คงจะชอบมุมนี้แน่ๆเลย

    พื้นห้องครัวมีการลดระดับเล็กน้อย เราจึงสามารถทำความสะอาดครัวได้ง่ายขึ้น ขัดล้างได้ ไม่ต้องกลัวน้ำไหลย้อนไปส่วนอื่น

    Image 1/4
    ห้องครัวไทย

    ห้องครัวไทย

    ห้องครัวไทยมีขนาดใหญ่พอสมควร ได้เป็นครัวปิด ทำให้เราสามารถประกอบอาหารกลิ่นฉุน ๆ ได้ โดยไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นจะลอยเข้าบ้าน ทางโครงการให้ เคาน์เตอร์และอุปกรณ์มาครบครัน ทั้ง ซิงค์ล้างจาน, เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง พัดลมระบายอากาศ และ Hood ดูดควัน

    Image 1/3
    โซนแม่บ้าน

    โซนแม่บ้าน

    แบบบ้านนี้มีห้องนอน ห้องน้ำของแม่บ้าน และห้องซักรีดให้ด้วย ซึ่งอยู่ติดกับโซนครัว แม่บ้านจึงสามารถทำงานและอาศัยในโซนนี้ ได้เป็นสัดส่วน

    โถงทางเดินกลางบ้านมีความกว้างมาก เราจึงไม่รู้สึกอึดอัดเลยเวลาเดินไปมาภายในบ้าน บริเวณปลายทางเดินของโถงนี้มีห้องน้ำสำหรับแขก และ ห้องนอนผู้สูงอายุ

    Image 1/2
    ห้องน้ำสำหรับแขก

    ห้องน้ำสำหรับแขก

    Powder Room ออกแบบให้เหมาะกับการรองรับแขกโดยเฉพาะ จึงมีเพียงพื้นที่ส่วนแห้งไม่ได้มี Shower Box มาให้ ทางโครงการให้ชุดสุขภัณฑ์จาก Kohler มาครบครัน ทั้งอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของใต้ซิงค์ และโถสุขภัณฑ์

    เราชอบที่มีขอบปูนหลังโถสุขภัณฑ์มากเลย เพราะจะได้ใช้วางของ เช่นโทรศัพท์มือถือ เวลาเข้าห้องน้ำได้ แต่น่าเสียดายที่ห้องน้ำนี้ไม่มีหน้าต่าง ต้องพึ่งพาระบบดูดอากาศภายในบ้านค่ะ

    ห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ อยู่ใกล้ประตูทางเข้าจากที่จอดรถ จึงสะดวกต่อการเข้าถึงมาก ๆ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถขึ้นรถได้ง่าย

    ห้องนอนมีขนาดกว้างพอประมาณ มีระยะปลายเตียงประมาณ 1.3 เมตร สามารถเข็นวีลแชร์เข้าออกได้สบาย ๆ และพื้นที่ข้างเตียงก็เยอะพอให้เราวาง อาร์มแชร์ 1 ตัวได้เลยนะ เผื่อคุณปู่ ย่า  อยากจะนั่งอ่านหนังสือในห้องส่วนตัว

    พื้นห้องนอนชั้น 1 ปู SPC หน้า 4 มม. ให้ความรู้สึกเหมือนพื้นไม้  แต่ทนต่อความชื้นได้มากกว่า

    ประตูทางเข้าห้องน้ำเป็นบานเลื่อน สะดวกต่อการใช้งานมาก และเปิดได้กว้างพอที่จะเข็นวีลแชร์เข้าไปได้

    พื้นห้องน้ำออกแบบให้เรียบเสมอไปกับพื้นห้องนอน เพื่อให้เข็นวีลแชร์เข้าไปได้สะดวก แต่ไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะไหลออกมา เพราะหน้าประตูมีรางระบายน้ำที่โครงการเตรียมไว้แล้ว ภายในห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องทั้งหมดจึงทำความสะอาดง่าย

    Image 1/5
    ห้องน้ำผู้สูงอายุ

    ห้องน้ำผู้สูงอายุ

    ห้องน้ำในห้องนอนผู้สูงอายุมีขนาดกว้างมาก แยกโซนเปียกโซนแห้งไว้ด้วย แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ เพื่อความสะดวกในการใช้งานของผู้สูงอายุ

    ทางโครงการให้ชุดสุขภัณฑ์มาครบ แต่ที่เราชอบคือมีปุ่ม CUBE CLICKER มาให้ข้างๆโถสุขภัณฑ์ เมื่อผู้สูงอายุต้องการความช่วยเหลือ กดปุ่มนี้ จะมีการแจ้งเตือนไปที่มือถือของเจ้าของบ้าน ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ค่อยเห็นในบ้านโครงการอื่น ๆ

    เราชอบที่บ้านโครงการนี้ ใช้เทคโนโลยีมาช่วยให้อยู่อาศัยได้สะดวกสบายขึ้น เริ่มจาก

    • สวิตซ์ไฟเป็นแบบ Touch Switchs ป้องกันไฟดูดขณะที่มือเปียกเวลาเปิดปิดไฟ แถมเรายังสามารถควบคุมกันเปิด-ปิดไฟผ่าน Application ได้ด้วย
    • Home Panel เป็นจอควบคุมระบบ Smart Home ต่างๆ
    • Motion Sensor ไฟอัตโนมัติเวลามีคนเดินผ่าน บริเวณบันได และห้องนอนชั้น 1

    ภายในบ้านจะมีห้องเก็บของขนาดใหญ่อยู่ใต้บันได

    ภายในห้องเก็บของ สามารถเก็บของชิ้นใหญ่ ๆ เช่น กระเป๋าเดินทาง , ถุงกอล์ฟ ได้สบายๆ

    โครงสร้างของบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กมีความกว้างประมาณ 1.45 เมตร กว้างพอที่จะเดินสวนกันได้เลย ส่วนชานพักบันไดมีขนาดใหญ่ สะดวกต่อการใช้งาน

    เมื่อขึ้นมาชั้น 2 เราจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งในแบบบ้านมาตรฐานจะกั้นเป็นห้องไว้ให้เลย แต่หากใครอยากให้พื้นที่เปิดโล่งก็เปลี่ยนเป็นราวกันตกตามแบบบ้านตัวอย่างก็ได้ มุมนี้จะเป็นมุมที่มองเห็นสวนรอบบ้านด้วยจึงได้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย

    โถงชั้น 2 ค่อนข้างกว้าง หากใครมีของสะสมจะจัดเป็นมุมตั้งโชว์ตรงนี้ก็ดีนะ โถงนี้เชื่อมต่อไปยัง Master Bedroom และห้องนอนรองอื่น ๆ

    เข้ามาใน Master Bedroom จะเจอกับพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำก่อน ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่นั่งเล่นและโซนเตียงนอนที่อยู่ด้านในสุด

    บริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถจัดเป็น Walk-in Closet ได้ เราสามารถแบ่งตู้เสื้อผ้าเป็น 2 ฝั่ง แยกเป็นฝั่งสามี-ภรรยา เพื่อความสะดวกสบายในการเลือกเสื้อผ้า

    พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมานิดนึง ทำให้เราสามารถทำความสะอาดห้องน้ำได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวน้ำจะกระเด็นออกมา

    Image 1/6
    Master Bathroom

    Master Bathroom

    Master Bathroom มีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่น ๆ มาพร้อมสุขภัณฑ์ที่ครบครันกว่าเช่นกัน
    – โถสุขภัณฑ์มีขนาดใหญ่กว่าโถสุขภัณฑ์ของห้องน้ำอื่น ๆ เล็กน้อย และมีฉากกั้นกระจกมาให้เป็นสัดส่วน
    – พื้นที่อาบน้ำ มี Rain Shower ติดตั้งมาให้
    – มีอ่างอาบน้ำแบบ Stand Alone มาให้กลางห้องน้ำ
    – อ่างล้างหน้าแบบ His & Her ทำให้สามี-ภรรยาใช้งานพร้อมกันได้

    Image 1/2
    ห้องนั่งเล่นใน Master Bedroom

    ห้องนั่งเล่นใน Master Bedroom

    ขยับเข้ามาด้านในอีกนิดนึงจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น กว้างพอที่จะแบ่งเป็นมุมนั่งเล่น และมุมทำงานได้เลย โดยสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งได้ แต่ระยะห่างระหว่างทีวีค่อนข้างเยอะ จึงแนะนำให้ติดตั้งทีวีจอใหญ่ไปเลย

    อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจคือ Spot เป็นระบบเปิด-ปิดแอร์ที่อยู่ในระยะ 3 เมตร ถ้านำมาวางที่ห้อง Master Bedroom ก็สามารถควบคุมแอร์ได้ 2 ตัว ทั้งพื้นที่นั่งเล่นบริเวณนี้กับโซนเตียงนอน

    Image 1/3
    Master Bedroom

    Master Bedroom

    ห้องนอนมีขนาดกว้างมาก เมื่อวางเตียง 6 ฟุตไป แล้วยังมีที่ว่างพอที่จะวางโซฟารอบ ๆ เตียงเพิ่มได้ นอกจากนี้ยังเหลือพื้นที่ทางเดินกว้างขวาง

    ห้องนอนนี้มีระเบียงขนาด 4.75 x 1.10 เมตร เป็นแบบ Semi-Outdoor มีหลังคากันแดดกันฝน ใครที่ชอบนั่งชมบรรยากาศรอบๆบ้าน จัดมุมนี้เป็นมุมพักผ่อนได้เลยนะ ในส่วนของพื้นระเบียงมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำฝนไหลย้อนเข้าตัวบ้าน

    Image 1/3
    ห้องนอนรอง 1

    ห้องนอนรอง 1

    ห้องนอนรอง 1 สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ แล้วยังมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 1 เมตร แต่มีพื้นที่ข้างเตียงเยอะนะ ถ้าจะวางโต๊ะเขียนหนังสือแนะนำให้วางข้างเตียงได้เลย บริเวณหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า ในส่วนของห้องน้ำก็แบ่งโซนเปียกโซนแห้ง มาตามมาตรฐาน พร้อมสุขภัณฑ์ครบครัน

    Image 1/3
    ห้องนอนรอง 2

    ห้องนอนรอง 2

    สำหรับห้องนอนรอง 2 มีพื้นที่ใหญ่กว่าห้องนอนรอง 1 เล็กน้อย สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ แล้วเหลือพื้นที่ปลายเตียงประมาณ 1.5 เมตร จึงสามารถวางโต๊ะทำงานบริเวณนี้ได้ ด้านในมีพื้นที่หน้าห้องน้ำสำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบเข้ามุมได้ ห้องนี้จึงเหมาะกับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะ มากกว่าห้องนอนรอง 1 ส่วนห้องน้ำมีขนาดและฟังก์ชันไม่ต่างจากห้องนอนรอง 1 เลยค่ะ

    Image 1/3
    Junior master bedroom

    Junior master bedroom

    ปิดท้ายด้วย Junior Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่รองลงมาจาก  Master Bedroom เมื่อวางเตียงขนาด 6 ฟุตลงไปแล้ว ยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลืออีกเยอะ จนสามารถจัดมุมพักผ่อนเพิ่มได้เลย หรือใครอยากได้มุมทำงานส่วนตัวก็วางโต๊ะทำงานข้าง ๆเตียงได้นะ

    บริเวณหน้าห้องน้ำกว้างพอที่จะ Built-in ใส่ตู้เสื้อผ้าตามแนวผนังได้เลย น่าจะถูกใจคนที่มีเสื้อผ้าเยอะ

    ห้องน้ำภายในห้องนอนกว้างมากเช่นกัน มีชุดสุขภัณฑ์มาให้ครบครัน ทั้งอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของ โถสุขภัณฑ์ ฝักบัว แต่ที่พิเศษคือ โครงการให้อ่างอาบน้ำแบบฝังมาให้ด้วยซึ่งโดยทั่วไปแล้วอ่างอาบน้ำจะมีแค่ในห้อง Master Bedroom เท่านั้น แต่ที่นี่ให้มาถึง 2 ห้องเลยนะคะ

    ส่วนพื้นที่อาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.2 x 1.70 เมตร มาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำจึงใช้งานได้สบาย ๆ ภายในห้องน้ำมีหน้าต่างฝ้าบานใหญ่ ใช้ระบายอากาศ และช่วยให้แสงเข้าถึงห้องน้ำ

    จากชั้น 2 จะมีบันไดสำหรับขึ้นมายังห้องใต้หลังคา บันไดกว้างประมาณ 1 เมตร เหมาะที่จะใช้เดินทีละคน เราชอบนะ ช่วยสร้างบรรยากาศให้พื้นที่ใต้หลังคาดูลึกลับขึ้น เหมือนเป็นมุมลับสำหรับครอบครัว

    Image 1/3
    พื้นที่ใต้หลังคาบนชั้นลอย

    พื้นที่ใต้หลังคาบนชั้นลอย

    ความพิเศษของบ้าน Type นี้คือมีพื้นที่ใต้หลังคา ที่มีขนาดใหญ่ และฝ้าสูงพอสมควร เราจึงไม่รู้สึกอึดอัดเลย เหมาะกับการจัดเป็นมุมรวมตัวของลูก ๆ จะทำเป็นห้องดูหนังแบบบ้านตัวอย่างก็ดี หรือทำเป็นห้องเล่นเกมส์ก็ได้

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคา

    THE CITY Kanchana-Bangkae(เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค) ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2567

    • ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 30-50 ล้านบาท
    • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.วา/เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : THE CITY Kanchana-Bangkae(เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค) อยู่บนถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นถนนที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ทั้งแหล่งของกิน และห้างสรรพสินค้า ซึ่งโครงการนี้ใกล้ The mall บางแค เพียง 1.8 กิโลเมตร หากเทียบกับโครงการอื่น ๆ ใน Segment เดียวกัน ที่นี่ถือว่าใกล้ The Mall ที่สุดเลย

    นอกจากนี้โครงการยังเดินทางไปโรงเรียนนานาชาติ เช่น โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม , โรงเรียนเลิศหล้า กาญจนาภิเษก , SISB Thonburi และ Pioneers Inter Bangkhae Campus ได้ง่ายด้วย อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ โครงการอยู่บนถนนกาญจนาภิเษกจึงสามารถขับรถเชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้หลากหลาย ทั้ง ถนนบรมราชชนนี ถนนเพชรเกษม และ ถนนกัลปพฤกษ์  ทำให้ไปยังโซนอื่นๆ ของเมืองได้สะดวก

    ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ถือว่าให้มาครบตามมาตรฐาน คือมีไม้กระดก และประตูเหล็ก ควบคู่กับการใช้ระบบ KATSAN อ่านป้ายทะเบียนรถ นอกจากนี้ยังมี CCTV ที่ซุ้มประตูและภายในโครงการ

    สำหรับตัวบ้านมี CCTV ที่โรงจอดรถกับห้องนั่งเล่น โครงการติดตั้ง Magnetic Sensor ทั้งชั้น 1 ,2  และติดตั้ง Shock Sensor ให้เฉพาะชั้น 1

    การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

    ตัวโครงการ – เน้นความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านด้วยเพื่อนบ้านเพียง 26 ยูนิต แต่ละซอยมีจำนวนยูนิต 1-6 ยูนิต จัดวาง Clubhouse ไว้หน้าโครงการทำให้ซุ้มประตูและ Clubhouse โครงการดูยิ่งใหญ่ หรูหรา

    ตัวบ้าน – มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ ในสไตล์ English Modern Classic ที่มีหลังคาทรงสูงเป็นพิเศษ ทำให้ได้พื้นที่ใต้หลังคาเพิ่มขึ้นมา และยังช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านได้ด้วย ที่ดินรอบบ้านมีขนาดใหญ่เริ่มต้นก็ 109 ตร.ว. แล้วน่าจะถูกใจคนที่ชอบจัดสวนนะคะ

    ฟังก์ชันบ้านมี 5 ห้องนอน 6ห้องน้ำ 4ที่จอดรถ จึงเหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 5-6 คน แบบ 3 Generations ตัวบ้านมีพื้นที่มากพอที่จะรองรับกิจกรรมที่หลากหลายในเวลาเดียวกัน

    วัสดุ : จุดที่เราชอบคือโครงสร้างบ้านเป็น Conventional สามารถทุบต่อเติมได้ โดยรวมแล้ววัสดุค่อนข้างเหมาะสมกับราคา แต่เสียดายนิดเดียวว่าพื้นโรงจอดรถเป็นโครงสร้างแบบ On Ground ไม่ได้ลงเสาเข็ม หากจะต่อเติมหลังคาแนะนำให้ปรึกษาวิศวกรเพิ่มเติมค่ะ

    พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : โครงการมีความสวยงามตั้งแต่ ซุ้มประตูทางเข้า จนถึงบรรยากาศในโครงการ ตกแต่งมาในสไตล์ยุโรปเข้ากับตัวบ้าน

    สาธารณูปโภค : Facility ส่วนกลางมีฟังก์ชันหลากหลาย ทั้งห้องดูหนัง, ฟิตเนส, Lobby, Lounge, Meeting Room, สระว่ายน้ำ แต่ละฟังก์ชันมีขนาดใหญ่ๆ ทั้งนั้น เเชร์กันใช้สบาย ๆ กับเพื่อนบ้านเพียง 26 ยูนิต

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 30-50 ล้านบาท, 08 พฤษภาคม 2567 

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ใกล้ถนนกาญจนาเพียง 100 เมตร , ใกล้ The mall บางแค
    • ความปลอดภัย 8.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก ประตูเหล็กเลื่อน รปภ.หน้าหมู่บ้าน และระบบอ่านป้ายทะเบียน
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ได้ความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่ใช้สอยเยอะทั้งในบ้าน และที่ดินรอบบ้าน มีพื้นที่พักผ่อนใต้หลังคา
    • วัสดุ 7.5/10 – โดยรวมให้มาดี เหมาะกับการใช้งาน แต่โครงสร้างพื้นโรงจอดรถน่าจะลงเสาเข็มให้อีกนิด ><
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – ซุ้มประตูและบริเวณหน้าโครงการดูสวยงาม พื้นที่สีเขียวเพียงพอต่อลูกบ้าน
    • สาธารณูปโภค 9/10 – ฟังก์ชันส่วนกลางเยอะเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต
    • 8.20 / 10.00 

    THE CITY Kanchana-Bangkae(เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค) เหมาะกับใคร

    โครงการ THE CITY Kanchana-Bangkae(เดอะซิตี้ กาญจนาฯ-บางแค) เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ อยู่ร่วมกัน 3 Generation ที่มองหาบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยเยอะ ชอบความเป็นส่วนตัวสูง เพื่อนบ้านไม่เยอะ ต้องการโครงการที่มี Facility ส่วนกลางครบครัน

    ทำงานในโซนบางแค, บางบอน, ตลิ่งชัน เพราะเชื่อมจากถนนกาญจนาภิเษกได้ง่าย หรือกลุ่มคนที่ทำงานโซนพระราม 3  ก็สามารถใช้ถนนเส้นเพชรเกษม เชื่อมต่อไปยังถนนรัชดาภิเษก เพื่อเข้าไปยังโซนพระราม 3 ได้ไม่ยาก โดยมีงบประมาณ 30 – 50 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 210,000 -350,000 บาท/เดือน


    Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

    โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

    เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่