เปิดลิสต์ 12 คอนโดใหม่ ทำเลสุขุมวิทตอนปลาย (อ่อนนุช-แบริ่ง) รับกระแส Mega Projects มูลค่าแสนล้าน!

ถ้าพูดถึง “คอนโดสุขุมวิท” หลายคนคงนึกภาพออกเลยว่าเป็นทำเลที่มีคอนโดอยู่เยอะมากๆ ไม่ได้อยู่แค่บนถนนใหญ่หรือถนนรองแล้ว เพราะมีอีกหลายคอนโดอยู่ตามตรอกซอกซอยต่างๆด้วยนะ

แต่ช่วงหลังมานี้ ถ้าใครสังเกตจะเห็นว่า “สุขุมวิทตอนปลาย” อย่างโซนอ่อนนุช-แบริ่ง เริ่มเป็นที่จับตามองมากขึ้น เพราะมีคอนโดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกเพียบ!

สาเหตุก็เพราะโซนนี้กำลังมาแรงสุดๆ มี Mega Projects ขนาดใหญ่อย่าง Cloud 11, Bangkok Mall, BITEC Buri และ IMH Medical Hub ที่กำลังพลิกโฉมให้ย่านนี้กลายเป็นแหล่งอยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์แบบไม่แพ้โซนสุขุมวิทตอนต้นเลยค่ะ

วันนี้เราพามาเปิดลิสต์ 12 คอนโดใหม่ ทำเลสุขุมวิทตอนปลาย (อ่อนนุช-แบริ่ง) ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2565-2568 มาให้ดูกันแบบครบจบ มีทั้งแบบโครงการที่เพิ่งประกาศเปิดตัวไปจนถึงสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ แถมบางโครงการยังเป็นคอนโด Pet-Friendly ถูกใจสายรักสัตว์สุดๆ

ใครกำลังมองหาคอนโดโซนนี้ บอกเลยว่าห้ามพลาด! ตามไปดูพร้อมกันว่ามีโครงการไหนบ้างค่ะ

ภาพรวมทำเลสุขุมวิทตอนปลาย (อ่อนนุช-แบริ่ง)

ก่อนที่เราจะเข้าไปดูว่ามีคอนโดที่ไหนบ้าง อยากจะขอพูดถึงทำเลสุขุมวิทตอนปลาย (อ่อนนุช-แบริ่ง) กันสักหน่อยนะคะ

จริงๆแล้ว “ทำเลสุขุมวิท” สามารถแบ่งได้เป็น “โซนสุขุมวิทตอนต้น” ที่ถือเป็นทำเลใจกลางเมือง มีราคาซื้อ-ขายที่ดินมูลค่าสูง มีทั้งห้างใหญ่ โรงแรมและอาคารสำนักงานเยอะ ทำให้คอนโดส่วนใหญ่ในโซนนี้จะเป็นคอนโดหรูราคาสูง

ดังนั้นจึงเกิดการกระจายความหนาแน่นของแหล่งที่อยู่อาศัยมายัง “ทำเลสุขุมวิทตอนปลาย” ที่มีบ้านพักอาศัยดั้งเดิมค่อนข้างเยอะ แต่มีราคาที่ดินที่ถูกลง ได้ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์และการเดินทางที่ไม่แตกต่างจากโซนสุขุมวิทตอนต้น ทำให้มีโครงการคอนโดมิเนียมราคาจับต้องได้หลายแห่งในโซนนี้นั่นเอง

การเดินทางด้วยรถยนต์บนทำเล สำหรับถนนสุขุมวิท ซอยเลขคี่จะสามารถทะลุออกถนนศรีนครินทร์เป็นตัวเลือกในการวิ่งเข้า-ออกเมืองไปโซนบางกะปิ-สมุทรปราการได้ รวมถึงมีถนนบางนา-ตราด ใช้วิ่งออกไปทางชลบุรีได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีทางพิเศษบูรพาวิถีและเฉลิมมหานครใช้วิ่งเข้าเมืองไปทางพระราม 4-เพลินจิตได้ค่ะ ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าก็จะมีทั้ง BTS สายสีเขียวอ่อนและ MRT สายสีเหลืองเลย อีกทั้งมีรถ Taxi รถสองแถวหรือวินมอเตอร์ไซค์ผ่านไป-มาให้เราเรียกใช้บริการได้ นอกจากนั้นหากเป็นโครงการที่มีระยะห่างจากรถไฟฟ้าเยอะ ทางโครงการก็จะเตรียม Shuttle Bus คอยรับ-ส่งลูกบ้านจากโครงการไปยังสถานีรถไฟฟ้าต่างๆด้วยค่ะ

ทำไมคอนโดสุขุมวิทตอนปลายถึงน่าสนใจ?

ความอุดมสมบูรณ์ของทำเลสุขุมวิทตอนปลายนี้ถือว่าครบครันมากๆ เพราะมีทั้งห้างหรือ Community ใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น True Digital Park, Lotus’s อ่อนนุช, Central บางนา, Big C บางนา และ BITEC Buri รวมถึงมีอาคารสำนักงานอยู่เยอะ เช่น 66 Tower, สำนักงานใหญ่ DKSH, M Tower , Bangchak Corporation, AIA East Gateway และ Bhiraj Tower at BITEC เป็นต้น จึงถือเป็นแหล่งงานที่สำคัญของกรุงเทพฯเลย นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง เช่น รร.นานาชาติ Berkeley, Anglo Singapore, Glory Singapore, Wells, Thai Sikh, St.Andrews และ Bangkok Prep เป็นต้น ทำให้มีทั้งกลุ่มพนักงานและครอบครัวที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ออฟฟิศและโรงเรียน จึงทำให้นอกจากจะซื้อยู่อาศัยเองแล้ว ยังถือเป็นโอกาสในการซื้อเพื่อปล่อยเช่าให้กลุ่มคนบนย่านนี้ รวมถึงลงทุนซื้อเพื่อทำกำไรในตอนปล่อยขายต่อในอนาคตได้ด้วยนั่นเอง ทำให้คอนโดสุขุมวิทตอนปลายนี้เป็นโครงการที่น่าดึงดูดทั้งผู้ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและนักลงทุนค่ะ

แต่สิ่งที่ทำให้ทำเลสุขุมวิทตอนปลายกำลังเป็นที่น่าจับตามองมากขึ้น นั่นก็คือ การพัฒนาโครงการ Mega Project ขนาดใหญ่ใหม่ๆอยู่ในโซนนี้หลายแห่ง ทำให้มีความคึกคักสูงและได้ความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยมากขึ้นด้วย

• Cloud 11 (คาดเปิดปลายปี 2568) : Hub ของ Content Creator ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เพื่อรองรับและสนับสนุนเหล่า Content Creator และคนรุ่นใหม่ มีพื้นที่ใช้สอย 254,000 ตร.ม. แบ่งเป็น 7 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ Creative Office & Studio Space, Hybrid Retail, Smart Hotel และ Lifestyle Hotel จากเครือโรงแรมระดับโลก, Education, Cultural, Public Space สวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร
• Bangkok Mall (คาดเปิดบางส่วนปี 2570) : โครงการ Mixed – Use บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต พื้นที่รวม 80,000 ตร.ม., โรงภาพยนตร์ กว่า 30 โรง, พื้นที่สวนสนุกและสวนน้ำ, โครงการที่พักอาศัย, สำนักงาน พื้นที่กว่า 160,000 ตร.ม., โรงแรม และ Arena ฮอลล์แสดงคอนเสิร์ต กิจกรรมบันเทิง
• BITEC Buri (เปิดบริการเรียบร้อย) : แปลงโฉมจากศูนย์นิทรรศการและการประชุม BITEC บางนา เพื่อปรับเป็น Community Space รวบรวมสถานที่จัดงานนิทรรศการและงานแสดงสินค้า ศูนย์การประชุมนานาชาติ คอนเสิร์ตฮอลล์ ลานกิจกรรม รวมถึงพื้นที่สีเขียวบนพื้นที่กว่า 170 ไร่
• โรงพยาบาล IMH แบริ่ง (อยู่ระหว่างขอ EIA) : พัฒนาเป็น IMH Medical Hub แบ่งเป็น 2 เฟส ครอบคลุมโรงพยาบาล คลินิกเฉพาะทาง Wellness Center และ Retail space บนที่ดิน 12 ไร่ เพื่อเป็นศูนย์สุขภาพครบวงจร พร้อมศูนย์การค้าสุขภาพและศูนย์ดูแลฟื้นฟูขนาดใหญ่ รองรับมากถึง 300 เตียง

คอนโดสุขุมวิทตอนปลาย มีที่ไหนบ้าง?

วันนี้เราได้รวบรวมคอนโดมือหนึ่ง ทำเลสุขุมวิทตอนปลาย (อ่อนนุช-แบริ่ง) ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2565-2568 โดยจะมีทั้งคอนโดที่สร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยและโครงการใหม่ๆที่เพิ่งเปิดตัวกันมาเลย รวมถึงมีคอนโด Pet-Friendly เอาใจคนรักสัตว์ด้วยนะคะ โดยจะมีทั้งหมด 12 โครงการด้วยกัน ดังนี้

1. blue Sukhumvit 89 (บลู สุขุมวิท 89)
2. HI Sukhumvit-Bangchak Station (ไฮ สุขุมวิท – บางจาก สเตชั่น)
3. GOOD DAY Sukhumvit 93 (กู๊ดเดย์ สุขุมวิท 93)
4. The Lush 21 (เดอะ ลัช 21)
5. THE COOPERS ME Sukhumvit 62 (เดอะ คูเปอร์ มี สุขุมวิท 62)
6. LIFE Udomsuk Station (ไลฟ์ อุดมสุข สเตชั่น)
7. ASPIRE Sukhumvit 103 (แอสปาย สุขุมวิท 103)
8. Origin Play Sri Udom Station (ออริจิ้น เพลย์ ศรีอุดม สเตชั่น)
9. Escent Bangna (เอสเซ็นท์ บางนา)
10. SO ORIGIN Sukhumvit 105 (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105)
11. ARLO Sukhumvit 105-Lasalle (อาโล่ สุขุมวิท 105-ลาซาล)
12. THE MUVE Sukhumvit 107 ( เดอะ มูฟ สุขุมวิท 107)

งั้นเราพาไปดูรายละเอียดแต่ละโครงการกันเลยว่าเป็นยังไง พื้นที่ส่วนกลางและห้องพักมีความน่าสนใจและเหมาะกับใคร รวมถึงถ้าใครอยากอ่านรีวิวโครงการแบบเจาะลึก เราก็ได้แปะ Link แต่ละโครงการไว้ด้านล่างให้ตามไปอ่านกันต่อได้ด้วยค่ะ

คอนโดสุขุมวิทตอนปลาย (อ่อนนุช – แบริ่ง)
เปิดตัวปี 2565-2568 มีที่ไหน?

blue Sukhumvit 89 (บลู สุขุมวิท 89)

ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท

คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ครึ่ง มีทั้งหมด 328 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถประมาณ 40% (รวมซ้อนคัน) ซึ่งปัจจุบันสร้างเสร็จเรียบร้อยและพร้อมเข้าอยู่ค่ะ โดยตั้งอยู่ในย่านอ่อนนุชที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินง่าย ปากซอยมีร้านตามสั่งและ 7-11 ร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. รวมถึงยังใช้ถนนสุขุมวิทเพื่อเข้าเมืองได้ มีทางด่วนอยู่ไม่ไกลให้ใช้งานได้สะดวก อีกทั้งอยู่ระหว่างรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว 2 สถานีคือ BTS อ่อนนุช และ BTS บางจาก ห่างประมาณ 500 – 600 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่พอเดินได้อยู่ ทำให้เดินทางได้สะดวกสบายมากๆ นอกจากนั้นตัวโครงการยังอยู่ภายในซอย จึงได้ความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่า

ตัวห้องของโครงการขายแบบ Fully Furnished ที่ออกแบบเป็นพิเศษด้วย Adaptive Function ซึ่งเป็นฟังก์ชันเด่นของแบรนด์นี้เลย เพราะทำให้ปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ให้ใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงมีส่วนกลางให้ใช้งานครบแบบต่อเนื่องกันถึง 4 ชั้น ในราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท

พื้นที่ส่วนกลาง

ออกแบบกระจายพื้นที่ส่วนกลางอยู่ทั้ง 2 อาคาร รวม 4 ชั้น ทำให้ลูกบ้านสามารถเข้าถึงส่วนกลางได้ง่ายและแบ่งโซนแยกกันชัดเจน จึงกระจายความหนาแน่นในการใช้งานได้ดีและได้มีความเป็นส่วนตัวดี

โดยอาคาร A จะเน้นเป็น Passive Facilities พื้นที่นั่งทำงานอย่าง Co-Working Space และ Meeting Zone ส่วนอาคาร B จะเน้นเป็น Active Facilities โซนออกกำลังกายอย่าง Fitness / Yoga Zone และ Swimming Pool นอกจากนั้นยังมี Private Theater Room ที่อยู่บนชั้น 7 ของทั้ง 2 อาคาร ให้เราใช้เป็นพื้นที่นั่งดูหนังหรือดูซีรีส์ร่วมกับเพื่อนๆได้เลย รวมถึงออกแบบเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียวด้านข้างทั้ง 2 อาคารเข้าด้วยกัน จึงทำให้ได้สวนสีเขียวขนาดใหญ่ น่าใช้งานมากขึ้น

ห้องพักอาศัย

มีทั้งหมด 3 แบบ 3 ขนาด โดยเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คน ซึ่งตัวห้องของโครงการจะออกแบบเป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งโล่งดี พร้อมกั้นแบ่งโซนห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ จึงทำให้ได้พื้นที่เป็นสัดส่วนและพื้นที่เชื่อมต่อถึงกันได้ นอกจากนั้นทุกยูนิตจะได้ครัวแบบปิดติดระเบียง จึงรองรับคนที่ชอบทำอาหารได้ เพราะสามารถเปิดระบายกลิ่นควันไปทางระเบียงได้นั่นเอง

ส่วนตัวห้องขายแบบ Fully Furnished แต่มีจุดเด่นที่ได้เฟอร์นิเจอร์แบบ Adaptive Function ซึ่งเป็น Signature ของแบรนด์ blue นี้เลย ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์เพื่อรองรับการใช้งานหลากหลายได้ อย่างเช่น ด้านหลังโซฟามีแผ่นเปิดออกมาเป็นโต๊ะกินข้าว, เก้าอี้ซ้อนกันเป็นชั้นวางของได้ หรือโต๊ะกาแฟที่ตั้งเป็นแนวนอน-แนวตั้งได้ ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องไปได้เยอะเลยค่ะ

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3SPu

HI Sukhumvit-Bangchak Station (ไฮ สุขุมวิท – บางจาก สเตชั่น)

ราคาเริ่มต้น 1.5 ล้านบาท

ถือเป็นโครงการที่จับต้องได้ง่ายที่สุดในบทความนี้เลย เพราะมีราคาเริ่มต้นเพียง 1.5 ล้านบาท แถมยังเป็นห้องใหญ่ถึง 28 ตร.ม. จึงถือว่าราคาคุ้มค่าพื้นที่ใช้สอยมากๆ โดยออกแบบเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร บนที่ดินเกือบ 2 ไร่ มีจำนวน 273 ยูนิต พื้นที่จอดรถ  30% (รวมซ้อนคัน) ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 93 (ซอยพึ่งมี 11 แยก 4) ห่างจาก BTS สถานีบางจาก 1.4 กิโลเมตร แต่ดีที่มี Shuttle Service รถรับ-ส่งจากโครงการไปยังรถไฟฟ้า ทำให้เดินทางได้ง่าย นอกจากนั้นโดยรอบโครงการจะเป็นย่านชุมชนดั้งเดิม แต่ก็มีอพาร์ทเม้นท์หรือคอนโดอยู่บ้าง ทำให้มีร้านค้า ร้านอาหารกระจายอยู่โดยรอบเยอะ แต่ที่ดีเลยคือมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 เปิด 24 ชม. อยู่ติดกับโครงการเลยนะ รวมถึงมี Big C mini, CJ Supermarket ตั้งอยู่ใกล้ๆ ทำให้ซื้อของกินของใช้ได้ง่าย โดยเฉพาะเวลาทำงานหรือกลับบ้านตอนดึกๆก็ยังมาฝากท้องที่นี่ได้ รวมถึงยังไป Big C Extra อ่อนนุช, Lotus’s สุขุมวิท 50 และ True Digital Park ได้ด้วยค่ะ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดเสร็จปี 2569

พื้นที่ส่วนกลาง

ทางโครงการออกแบบมี Lobby แยกอยู่ทั้ง 2 อาคาร ส่วนพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร B ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ, Fitness, Co-Working Space และสวนสีเขียว พอทางโครงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่อาคารเดียว ก็ทำให้ลูกบ้านที่อยากได้ความเงียบสงบในการอยู่อาศัย ไม่ค่อยได้ใช้ส่วนกลางบ่อยๆก็เลือกอยู่อาคาร A ได้ ส่วนคนที่ใช้ส่วนกลางเป็นประจำก็เหมาะกับอยู่อาศัยในอาคาร B ค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้มีส่วนกลางหลากหลายมากนัก แต่ก็ให้มาครบครัน ถือว่าคุ้มค่ากับราคาเริ่มต้น 1.5 ล้านบาทค่ะ

ห้องพักอาศัย

ทางโครงการจะมีห้องให้เลือกเพียงแบบเดียว นั่นก็คือ 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. อยู่อาศัย 1-2 คนได้สบายๆ มีห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วน พร้อมโซนครัวที่อยู่ติดระเบียง ทำให้ใครที่ชอบทำอาหารบ่อยๆ ก็สามารถกั้นเป็นครัวปิดและเปิดระบายอากาศไปทางระเบียงได้ง่ายเลย ส่วนรูปแบบห้องเป็นแบบ Fully Fitted เหมาะกับคนที่ชอบตกแต่งห้องเองค่ะ

GOOD DAY Sukhumvit 93 (กู๊ดเดย์ สุขุมวิท 93)

ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท

นี่ก็เป็นอีกโครงการที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 93 เหมือนกัน นั่นก็คือ GOOD DAY Sukhumvit 93 (กู๊ดเดย์ สุขุมวิท 93) คอนโดแบรนด์ใหม่จาก AP ที่เปิดตัวครั้งแรกที่โครงการนี้

ออกแบบเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร รวมทั้งหมด 604 ยูนิต มีที่จอดรถ 31% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) คาดเสร็จปี 2569 โดยเราสามารถมายังโครงการได้ทั้งจากซอยสุขุมวิท 93 หรือ 97/1 ส่วนปากซอยก็จะเป็นถนนสุขุมวิทและ  BTS สถานีบางจาก ห่างประมาณ 1.3 กิโลเมตร จึงเดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้า อีกทั้งมี Shuttle Service คอยรับ-ส่งลูกบ้านด้วยนะคะ

รวมถึงบรรยากาศบริเวณปากซอยสุขุมวิท 93 ถือว่าค่อนข้างคึกคัก มีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ร้านเสริมสวย อยู่เป็นระยะๆ ใกล้ร้านสะดวกซื้อ Lotus’s go Fresh และตลาดตรงกลางซอย เรียกว่าหาของกินง่าย ไม่ต้องไปไหนไกลเลยนั่นเอง แต่ถ้าจะไปห้างใหญ่ๆก็ต้องไปตรงเส้นสุขุมวิทหรืออ่อนนุชที่มี Big C Extra อ่อนนุช, Lotus’s สุขุมวิท 50 และ True Digital Park ให้เดินเล่น ช้อปปิ้งกันได้ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางอยู่บริเวณกลางโครงการ ล้อมรอบด้วยอาคาร A, B และ C ซึ่งเป็นการออกแบบที่นิยมในคอนโด Low Rise แบบนี้ เพราะทำให้ห้องจำนวนครึ่งนึงหันเข้ามาด้านใน เปิดรับวิวส่วนกลางสวยๆของโครงการนั่นเอง

พื้นที่ส่วนกลางเกือบทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 1 ใกล้กับอาคาร B ประกอบด้วยสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียวที่ออกแบบได้ความเป็นส่วนตัว มีต้นไม้ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลาง ช่วยบังสายตาและเพิ่มวิวสีเขียวให้ห้องพัก ส่วนภายในอาคาร B จะมี Lobby & Working Space ที่ชั้น 1 และ  Fitness ที่ชั้น 2 ทำให้อาคาร B เหมาะกับคนที่ชอบใช้งานส่วนกลางเป็นประจำ เดินมาใช้งานได้ง่าย ส่วนอาคาร A และ C จะมี Rooftop Garden ให้ขึ้นมาเดินเล่น ชมวิวได้ ก็ทำให้บรรยากาศในอาคารจะมีความเงียบสงบมากกว่าอาคาร B ค่ะ

ห้องพักอาศัย

มีแบบห้องให้เลือกทั้งหมด 2 แบบหลักๆ โดยมี 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. ที่มี 2 Layouts แบ่งเป็นห้องที่ได้ครัวปิดติดระเบียง มีพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนพอกัน และห้องที่เน้นพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ ทำให้เลือกแปลนห้องที่ตรงตามไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยได้ รวมถึงมี 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. ได้พื้นที่อเนกประสงค์สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามการใช้งาน อีกทั้งมีให้เลือกทั้งแบบระเบียงในห้องนอนใหญ่, ระเบียงในห้องอเนกประสงค์ หรือระเบียงติดพื้นที่นั่งเล่น พร้อมห้องครัวขนาดใหญ่ ซึ่งทางโครงการจะตกแต่งห้องแบบ Fully Furnished เพียงซื้อของอีกนิดหน่อยก็เข้าอยู่ได้เลยนะ แถมน่าสนใจที่ออกแบบมีพื้นที่เก็บของได้หลายจุดด้วย

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-4atI

The Lush 21 (เดอะ ลัช 21)

ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท

คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 255 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถ 42% (ไม่รวมซ้อนคัน) โดยตั้งอยู่ด้านในสุดของซอยปุณณวิถี 21 ที่เป็นซอยตัน จึงได้ความสงบและเป็นส่วนตัว ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ห่างจาก BTS ปุณณวิถีและถนนสุขุมวิทประมาณ 1.2 กิโลเมตร ส่วน Shuttle Servie จะคอยรับ-ส่งจากโครงการไปยังปากซอยปุณณวิถี 21 นะ หากจะไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ต้องเรียกรถอีกต่อเพื่อขึ้นรถไฟฟ้าหรือเดินทางไปทำธุระอื่นๆค่ะ สำหรับความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆโครงการตรงปากซอยจะมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารที่กระจายอยู่โดยรอบให้มาจับจ่ายใช้สอยได้ นอกจากนั้นยังไม่ไกลจาก True Digital Park ให้เราแวะมากินข้าว เดินเล่น ช้อปปิ้งหรือออกกำลังกายกันได้ด้วย ปัจจุบันตัวโครงการยังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง คาดเสร็จปี 2570

พื้นที่ส่วนกลาง

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ประกอบด้วย Swimming Pool, Fitness, Co-Working Space และ Garden ซึ่งถือว่าออกแบบมาให้ใช้งานครบครันเหมาะสมกับขนาดโครงการที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่มีความโดดเด่นด้วยการตกแต่งที่ให้อารมณ์ Cozy อบอุ่น ร่มรื่น สงบ ด้วย Concept “Cozy Minimal Style” จึงทำให้บรรยากาศทั้งภายในห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางได้ความรู้สึกอบอุ่นจากการเลือกใช้วัสดุโทนสีธรรมชาติ รวมถึงความร่มรื่นจากพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ที่อยู่ภายในโครงการนั่นเอง

ห้องพักอาศัย

ถือเป็นโครงการที่มีแบบห้องให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ Studio ไปจนถึง 2 Bedroom ขนาด 28.19-56.34 ตร.ม. จึงรองรับตั้งแต่กลุ่มคนวัยเริ่มทำงานไปจนถึงครอบครัวขนาดเริ่มต้นได้เลย ส่วนตัวห้องนี้จะขายเป็นแบบ Fully Fitted ที่เป็นห้องเปล่าๆ แต่เราก็สามารถซื้อแพ็คเกจ Furniture เพิ่มเติมกับทางโครงการได้ด้วยนะ และที่สำคัญระบบก่อสร้างอาคารเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน ไม่ได้ใช้ระบบ Precast จึงช่วยกันเสียงและความร้อนได้ดีกว่า รวมถึงสามารถ Combine ห้องได้ด้วยนะ

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-49hA

THE COOPERS ME Sukhumvit 62 (เดอะ คูเปอร์ มี สุขุมวิท 62)

ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท

โครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 62/1 บรรยากาศภายในซอยค่อนข้างสงบ อีกทั้งยังอยู่ฝั่งสุขุมวิทเลขคู่ มีจุดเด่นที่ขึ้น-ลงทางด่วนเฉลิมมหานครได้ง่าย เพราะสามารถลัดเลาะออกซอยสุขุมวิท 62 ได้ ห่างประมาณ 1.3 กิโลเมตร อีกทั้งยังลัดไปซอยสุขุมวิท 64 ที่บริเวณปากซอยป็น BTS สถานีปุณณวิถี ห่างประมาณ 1.1 กิโลเมตรได้ด้วย รวมถึงมี Shuttle Service รับ-ส่งที่ BTS นี้ ทำให้เดินทางง่ายไม่ว่าจะขับรถยนต์ส่วนตัวหรือใช้รถไฟฟ้า นอกจากนั้น BTS สถานีปุณณวิถี ยังเป็นที่ตั้งของ True Digital Park ซึ่งเป็นห้างหลักของคนแถวนี้มาเดินเล่น ช้อปปิ้งและออกกำลังกายกันด้วย และในอนาคตก็จะมี Cloud 11 ที่ออกแบบเป็น Hub ของ Content Creator ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จึงใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงาน พบปะเพื่อนๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ด้วย

สำหรับโครงการนี้ถือเป็นขนาดเล็ก ออกแบบเป็นคอนโด Low Rise 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตเพียง 76 ยูนิตเท่านั้น  พร้อมพื้นที่จอดรถ 40% (ไม่รวมซ้อนคัน) ทำให้โดดเด่นเรื่องบรรยากาศภายในโครงการที่เป็นส่วนตัว เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนอยู่อาศัยมากขึ้น รวมถึงยังยก Main Facilities ไว้ชั้น 8 ที่เป็นชั้นบนสุด แตกต่างจากคอนโด Low Rise อื่นๆที่มักจะออกแบบอยู่ชั้น 1 ทำให้โครงการนี้ได้เปรียบในเรื่องวิวมุมสูงนั่นเอง จึงเป็นอีกจุดเด่นที่น่าสนใจของโครงการนี้เลย โดยคาดสร้างเสร็จปี 2568 นี้ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

อย่างที่เราได้เกริ่นไปนิดนึงแล้วนะว่าส่วนใหญ่เรามักจะเห็นคอนโด Low Rise ในระดับราคานี้ ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางอยู่บริเวณชั้น 1 กัน แต่สำหรับโครงการนี้จะออกแบบพื้นที่ชั้น 1 เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดและมี Lobby เป็นพื้นที่พักคอย ส่วนฟังก์ชันส่วนกลางอื่นๆจะออกแบบอยู่ที่ชั้น 8 ประกอบด้วย Swimming Pool, Fitness, Co-Working Space, Meeting Pod และ ME Club ทำให้มีจุดเด่นที่ได้วิวโดยรอบแบบมุมสูงนั่นเอง

ห้องพักอาศัย

ทางโครงการจะมีห้องให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ และแต่ละแบบจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันชัดเจนดี ทำให้เลือกซื้อได้ง่าย อย่าง 1 Bedroom ขนาด 27 ตร.ม. เป็นห้องหน้ากว้าง ได้ช่องแสงขนาดใหญ่, 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. มีครัวปิดติดระเบียงและพื้นที่วางโต๊ะทำงานเข้ามุม, 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. มีห้องอเนกประสงค์ ปรับตามการใช้งานได้ และ 2 Bedroom ขนาด 41 ตร.ม. เหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้น นอกจากนั้นยังขายในรูปแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัวครบเลยค่ะ

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-49zA

LIFE Udomsuk Station (ไลฟ์ อุดมสุข สเตชั่น)

ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท

เป็นโครงการที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานเอง โดยออกแบบเป็นคอนโด High Rise 38 ชั้น รวม 1,004 ยูนิต มีพื้นที่จอดรถ 41% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) คาดเสร็จในปี 2571 มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเล เพราะเราไม่เห็นคอนโดเปิดใหม่ตรงโซนอุดมสุขนี้มาหลายปีแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่ได้ติดถนนสุขุมวิท เพราะอยู่ในซอยลึกหรืออิงเส้น MRT สายสีเหลืองที่นับเป็นทำเลรองแทน แต่โครงการนี้จะตั้งอยู่ใกล้แยกอุดมสุขและ BTS สถานีอุดมสุขเพียง 100 เมตร แถมมีทางเข้า-ออก 2 ทางทั้งเส้นสุขุมวิทและอุดมสุข ทำให้เดินทางได้ง่ายมากๆ

สำหรับบริเวณโดยรอบโครงการจะเป็นร้านค้าและร้านอาหารต่างๆที่เปิดยาวตลอดแนวถนนอุดมสุข นอกจากนั้นยังมี Mini Big C อยู่ใกล้ๆด้วย แถมมี One Udomsuk เป็น Community Mall และตลาดคุณยิ้มที่คนในย่านนี้มาจับจ่ายใช้สอยกัน โดยทั้ง 2 แห่งนี้จะตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการด้วย ทำให้เราสามารถซื้อของราคาย่อมเยาได้ง่ายดี นอกจากนั้นยังอยู่ไม่ไกลจาก True Digital Park และ Cloud 11 อีกทั้งมี Skywalk เดินจาก BTS อุดมสุขไปบางนาที่เป็นที่ตั้งของ BITEC Buri และ Bangkok Mall ได้ด้วย

นอกจากนั้นโครงการนี้ยังเป็นคอนโด High Rise เพียงโครงการเดียวในบทความนี้และเพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ทางโครงการจึงได้ติดตั้ง Seismic Sensor เป็นระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับแผ่นดินไหวในลิฟต์โดยสาร เพื่อช่วยป้องกันและลดผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ลูกบ้านได้ความสบายใจและปลอดภัยในการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้นค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ทางโครงการก็จัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางมาให้ 5 ชั้น รวมประมาณ 6,000 ตร.ม. เลยนะ โดยชั้น G จะมีสระว่ายน้ำและสนามบาสเกตบอลอยู่ด้านนอก พร้อมพื้นที่นั่งเล่นกระจายรอบสวน ส่วนภายในอาคารจะเป็น Lobby และพื้นที่นั่งอ่านหนังสือ ทำงาน รับประทานอาหารง่ายๆได้ ต่อมาชั้น 7 จะเป็น Active Facilities มี Fitness และ Pilates Studio สำหรับชั้น 36 เป็น Passive Facilities เป็นพื้นที่นั่งทำงาน ถัดมาเป็นชั้น 38 มี Sky Bar และ Sky Theatre โดยชั้น Rooftop จะเป็นพื้นที่สวน พร้อมจุดชมวิว

ห้องพักอาศัย

มีรูปแบบห้องให้เลือกทั้งหมด 5 แบบหลักๆ ตั้งแต่ 1-2 Bedroom ขนาด 28-63 ตร.ม. จึงอยู่อาศัยได้สบายๆตั้งแต่คนเดียวไปจนถึงครอบครัวขนาดเล็กเลย พร้อมตกแต่งแบบ Fully Fitted นะคะ ส่วนตัวห้องจะเป็นแบบห้องใหม่ด้วย Modular Flow Design ที่เป็นการกั้นกำแพง ขยับฟังก์ชันภายในห้องนิดๆหน่อยๆ แต่ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันที่ลงตัวมากขึ้น อย่าง 1 Bedroom ขนาด 28-31 ตร.ม. ได้พื้นที่นั่งเล่น+ห้องนอนกว้าง โซนนั่งพักผ่อน-กินข้าวเป็นส่วนตัวมากขึ้น, 1 Bedroom Extra 31 ตร.ม.และ 1 Bedroom Plus 35 ตร.ม. มีห้องอเนกประสงค์ แถมออกแบบมีมุมตั้งตู้เย็น ตู้เสื้อผ้าหรือห้องน้ำเข้า-ออกได้ 2 ทาง ส่วน 2 Bedroom ขนาด 55-63 ตร.ม. มีครัวปิดด้านหน้าห้อง พร้อมห้องน้ำเข้า-ออกได้ 2 ทาง แถมมีมุมตั้งเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-4nZs

ASPIRE Sukhumvit 103 (แอสปาย สุขุมวิท 103)

ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท

สำหรับโครงการนี้เป็นคอนโดใหม่ล่าสุดของทำเลนี้เลยนะ เปิดตัวตามาติดๆกับ LIFE อุดมสุข สเตชั่น เลยนั่นเอง แต่จะมีราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีเพียงรายละเอียดเบื้องต้นออกมาเท่านั้น โดยจะออกแบบเป็นคอนโด Low Rise ที่มีทางเข้า-ออกอยู่ติดถนนอุดมสุขเลย ห่างจากถนนสุขุมวิทและ BTS อุดมสุขประมาณ 950 เมตร ทำให้เดินทางได้ง่าย เชื่อมไปถนนศรีนครินทร์และเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ได้ รวมถึงมีซอยย่อยต่างๆเชื่อมไปยังถนนบางนา-ตราด, วชิรธรรมสาธิตและออกไปเส้นอ่อนนุชได้ด้วยค่ะ ส่วนบนเส้นอุดมสุขนี้จะมีทั้ง One Udomsuk และตลาดคุณยิ้ม รวมถึงร้านค้าต่างๆตลอดแนวถนนแล้ว ยังสามารถไปยัง True Digital Park, Cloud 11, BITEC Buri และ Bangkok Mall ได้ไม่ไกลค่ะ

อย่างที่เราบอกไปนะคะว่าตอนนี้มีเพียงข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ แต่เราก็เห็น Highlight ของโครงการนี้ที่แตกต่างจากเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ เพราะเป็นคอนโด Pet-Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้นั่นเอง เพราะหลังๆมานี้ทาง AP ก็เริ่มบุกตลาดคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ทำให้ทุกคนจะเห็นคอนโด Pet-Friendly จาก AP ในอีกหลายๆทำเลเลยค่ะ ซึ่งก็สอดคล้องกับเทรนด์สมัยใหม่ที่คนส่วนใหญ่นิยมหันมาเลี้ยงสัตว์เป็นครอบครัวกันมากขึ้นนะคะ ส่วนรายละเอียดโครงการทั้งพื้นที่ส่วนกลางและแบบห้องก็รอติดตามได้เร็วๆนี้ค่ะ

Origin Play Sri Udom Station (ออริจิ้น เพลย์ ศรีอุดม สเตชั่น)

ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท

โครงการนี้เป็นอีกโครงการที่เป็นคอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ แถมราคาจับต้องง่ายเริ่ม 1.99 ล้านบาท โดยออกแบบเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร รวม 875 ยูนิตและร้านค้า 2 ยูนิต มีพื้นที่จอดรถ 35% (ไม่รวมซ้อนคัน) โดยปัจจุบันสร้างเสร็จเรียบร้อย พร้อมเข้าอยู่แล้วค่ะ

ที่ตั้งโครงการจะตั้งอยู่ติดถนนอุดมสุขนะ แต่จะอิงมาฝั่งถนนศรีนครินทร์มากกว่า โดยอยู่ห่างจาก MRT ศรีอุดมเพียง 900 เมตร และมี Shuttle Service คอยรับ-ส่งด้วย แต่จะวนไป BTS อุดมสุขที่ประมาณ 3.3 กิโลเมตรก่อน ถึงจะวนมา MRT ศรีอุดมนะคะ ทำให้สะดวกทั้งคนที่ใช้ BTS และ MRT เลยค่ะ

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆโครงการจะมี Udomsuk Market Center แหล่งรวมร้านอาหาร ถัดไปอีกหน่อยมี 7-11 และฝั่งตรงข้ามก็มี Lotus’s Go Fresh หากจะไปห้างใหญ่ๆก็จะมี Central บางนา ลัดมาจากซอยอุดมสุข 56 หรือบางนา-ตราด 21 มาถึงด้านหน้าห้างเลย อีกทั้งมี Little Walk , Seacon Square ศรีนครินทร์ และ Paradise Park ศรีนครินทร์ ให้มาเดินเล่นได้ด้วย

พื้นที่ส่วนกลาง

ทางโครงการออกแบบส่วนกลางอยู่บริเวณตรงกลางโครงการและถูกล้อมรอบด้วย 4 อาคาร โดยจะมีสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวเป็นวิวให้กับห้องพักในโครงการ ส่วนชั้น 1 ของอาคาร A จะมี Lobby & Co-Working Space สำหรับชั้น 2 จะมีส่วนกลางอยู่ที่อาคาร B ประกอบด้วย Co-working space & Meeting, Game Room, Theater Room และ Fitness ส่วนอาคาร D จะมี Cat Room ห้องของน้องแมว ส่วนชั้นดาดฟ้าจะเป็น Jogging track เชื่อมทั้ง 4 อาคาร และมีโซนสำหรับน้องหมา-น้องแมวด้วย เรียกว่าจัดส่วนกลางมาให้ครบทั้งลูกบ้านและสัตว์เลี้ยงเลยค่ะ ที่สำคัญทางโครงการเปิดให้ใช้พื้นที่ส่วนกลางแต่ละฟังก์ชันตั้งแต่ 07.00-00.00 น. ทำให้ใครที่เลิกงานตอนดึกๆก็ยังมาใช้งานส่วนกลางได้ที่จึงเป็นจุดเด่นอีกจุดของโครงการนี้เลย

ห้องพักอาศัย

ออกแบบเน้นห้องขนาดเล็ก มี 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ขนาด 23.35 – 34.9 ตร.ม. อยู่อาศัย 1-2 คนได้สบายๆ ได้ครัวปิดทุกยูนิต และขายในรูปแบบ Fully Fitted แต่มีให้เฟอร์นิเจอร์ Built-in บางส่วนด้วย ช่วยประหยัดงบไปประมาณนึงเลยนะ

โดยแต่ละแบบห้องจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ซึ่ง 1 Bedroom จะมีทั้งพื้นที่นั่งเล่น+พื้นที่นอนอยู่บริเวณเดียวกัน หรือกั้นห้องนอนด้วยกระจก สำหรับ 1 Bedroom Smart จะมีทั้งครัวปิดติดระเบียงหรือมีพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk-in Closet โดยเฉพาะ ส่วน 1 Bedroom Plus ก็จะมีห้องอเนกประสงค์ให้ปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้เลย

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3sqT

Escent Bangna (เอสเซ็นท์ บางนา)

ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท

แค่เห็นชื่อแบรนด์ Escent เราก็รู้ถึงจุดเด่นของโครงการนี้แล้วนะ เพราะเป็นแบรนด์ที่มี Highlight อยู่ที่ทำเลติดกับห้าง Central นั่นเอง อย่างโครงการนี้ที่ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ติด Central แบบรั้วเดียวกัน แต่ตั้งอยู่ในซอยบางนา-ตราด 23 (ซอยสวนสวรรค์) ที่ปากซอยเป็น Central บางนาและ Big C บางนา จึงโดดเด่นเรื่องทำเลที่อยู่ใจกลางความอุดมสมบูรณ์เลยค่ะ

นอกจากนั้นยังเดินทางทะลุไปได้ 3 เส้นทางหลักทั้งถนนบางนา-ตราด, ศรีนครินทร์และอุดมสุข รวมถึงใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 2 สายทั้ง BTS สายสีเขียว สถานีอุดมสุข-บางนา และ MRT สายสีเหลือง สถานีศรีอุดม ซึ่งทางโครงการมี Shuttle Service รถรับ-ส่งจากโครงการไป MRT นี้ด้วย

ส่วนตัวโครงการจะเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร รวม 285 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถ 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) นอกจากนั้นยังมีความน่าสนใจที่มีแบบห้องหน้ากว้างให้เลือก พร้อม Signature ของโครงการ Escent อย่างชั้นวางทีวีแบบหมุนได้ 180 องศาด้วยค่ะ โดยคาดสร้างเสร็จปี 2569

พื้นที่ส่วนกลาง

ทางโครงการออกแบบทั้ง 2 อาคาร โอบล้อมพื้นที่สวนสีเขียวตรงกลาง ทำให้ห้องพักที่หันเข้ามาด้านในโครงการจะได้วิวสวนสีเขียวที่สวยงาม สำหรับพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆจะอยู่ที่ชั้น 1-3 และชั้นบนสุดของอาคาร A ทำให้ห้องพักในอาคาร A นี้เหมาะกับคนที่ชอบใช้งานส่วนกลางบ่อยๆ ส่วนอาคาร B จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดเลย เหมาะกับคนที่ชอบความสงบและเป็นส่วนตัวค่ะ

โดยชั้น 1 จะเป็น Passive Facilities พื้นที่พักผ่อนและสวนสีเขียวตรงกลางโครงการ ส่วนชั้น 2 เป็น Co-Working Area ให้มานั่งเล่นหรือนั่งทำงาน และชั้น 3 เป็น Active Facilities ทั้ง Swimming Pool, Fitness และ Sauna สำหรับชั้นบนสุดเป็น Rooftop Garden ให้มาเดินเล่นและวิ่งออกกำลังกายกันได้ค่ะ

ห้องพักอาศัย

มีรูปแบบห้องพักอาศัยทั้ง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ขนาด 25-56 ตร.ม. โดยจะเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom สามารถอยู่อาศัย 1-2 คนได้สบายๆ อีกทั้งมีห้องหน้ากว้างให้เลือกด้วย โดยออกแบบได้ห้องครัวแบบปิดและมีระเบียงในทุกยูนิต พร้อมห้องตกแต่งห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบทั้ง Built – in และลอยตัวค่ะ เราจึงซื้อเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าและชุดเครื่องนอนเพิ่มเติมนิดหน่อยก็เข้าอยู่ได้เลย ซึ่งฟังก์ชันที่เราชอบสุดก็คือ ฟังก์ชัน Signature ของโครงการ Escent อย่างชั้นวางทีวีแบบหมุนได้ 180 องศา ทำให้ประหยัดพื้นที่ในห้องได้เยอะ เพราะรองรับการใช้งานได้ทั้งบริเวณ Common Area และห้องนอนนั่นเอง

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-41V4

SO ORIGIN Sukhumvit 105 (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105)

ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท

ออกแบบเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร รวม 913 ยูนิต บนที่ดิน 6-1-53.4 ไร่ พร้อมพื้นที่จอดรถ 33% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ถึงแม้จะดูมีพื้นที่จอดรถไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่เป็นโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS แบริ่งในระยะ 300 เมตรและตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท 105 (ลาซาล) ทำให้เดินทางได้ง่ายทั้งรถยนต์ส่วนตัวหรือรถไฟฟ้า

สำหรับซอยลาซาล จะมีร้านค้า ร้านอาหารตลอดแนวถนนค่อนข้างเยอะเลย รวมถึงมี Community Mall อย่าง ดาดฟ้า ลาซาล และ ลาซาล อเวนิว ด้วย นอกจากนั้นยังใกล้กับ Bangkok Mall ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างด้วยนะ รวมถึงมี Medical Hub เครือ IMH จะมาตั้งอยู่ใกล้ๆปากซอยลาซาลในอนาคตด้วย ก็ยิ่งทำให้คอนโดโซนนี้เป็นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นโครงการ Pet-Friendly ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ พร้อมออกแบบแยกเป็นอาคารสำหรับลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์และมีส่วนกลางให้ทั้งน้องหมา น้องแมวเลยค่ะ โดยคาดสร้างเสร็จปี 2571

พื้นที่ส่วนกลาง

ออกแบบมี Clubhouse สูง 4 ชั้น บริเวณหน้าโครงการ โดยแยกฟังก์ชันส่วนกลางออกมาจากอาคารพักอาศัย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น รวมถึงลูกบ้านแต่ละอาคารก็มาใช้งานได้ง่าย มีสวนสีเขียวและสระว่ายน้ำ พร้อม Pool Deck เป็นชุดเก้าอี้สำหรับนั่งรับลมอยู่ระหว่างอาคาร B และ C ด้วยนะ

สำหรับภายในอาคารพักอาศัยก็จะมี Lobby อยู่ชั้น 1 ของทุกอาคารนะ แต่สำหรับอาคาร B ตรงชั้น 2 จะมี Healing & Relaxing Zone, Private Spa และ Massage Chair ด้วย แต่ถือเป็นฟังก์ชันส่วนกลางที่ไม่ได้เสียงดัง รบกวนการพักผ่อนค่ะ ทำให้ห้องพักของอาคาร B ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่

นอกจากนั้นตรงชั้นดาดฟ้าของอาคาร C จะเป็นสวนสีเขียว พร้อม Jogging Track, Seating Area และ Rooftop Bar รวมถึงมีส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงอย่าง Cat Club, Pet Playground, Pet Waste Station, Le Paw Wash, Pet Deck, Pet Lounge, Pet Club และ Private Pet Area มาให้น้องๆวิ่งเล่นในโครงการได้เลย

ห้องพักอาศัย

จะมีแบบห้องทั้งหมด 5 แบบ ขนาด 24.5-53 ตร.ม. เน้นห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก อยู่ 1-2 คนได้สบาย โดย 1 Bedroom Smart จะมีทั้งแบบครัวติดระเบียงหรือได้พื้นที่แต่งตัวแบบ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ ส่วน 1 Bedroom SO Signature จะได้ห้องน้ำอยู่ในห้องนอน, 1 Bedroom SO Suite มีห้องอเนกประสงค์ และ 2 Bedroom SO Exclusive ได้ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แถมเปิดเข้า-ออกได้ 2 ทาง ใช้งานง่าย สามารถอยู่เป็นครอบครัวได้ โดยจะขายแบบ Fully-Fitted พร้อม Built-in ตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บรองเท้ามาให้นะคะ

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-4fGx

ARLO Sukhumvit 105-Lasalle (อาโล่ สุขุมวิท 105-ลาซาล)

ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท

เป็นอีกโครงการ Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ ออกแบบเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร จำนวน 581 ยูนิต มีพื้นที่จอดรถ  45% (รวมจอดซ้อนคัน) ซึ่งปัจจุบันสร้างเสร็จเรียบร้อย พร้อมเข้าอยู่ โดยตั้งอยู่ในซอยลาซาล 17 ซึ่งเข้า-ออกจากถนนสุขุมวิทได้ 2 เส้นทางทั้งถนนลาซาล (สุขุมวิท 105) และซอยสนามกีฬาภูติอนันต์ โดยมีระยะห่างประมาณ 1.2 กิโลเมตร รวมถึงยังสามารถไปใช้ BTS แบริ่งหรือบางนาได้ พร้อมบริการ Shuttle Bus รับ-ส่ง ช่วยให้เดินทางสะดวกมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นที่อยู่ติดพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อย่างสนามกีฬาภูติอนันต์และมองเห็นวิวสนามกอล์ฟราชนาวีบางนา ทำให้ได้วิวสีเขียวเต็มๆเลยนะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ทางโครงการออกแบบมี Lobby อยู่ในทุกอาคาร แต่บริเวณด้านหน้าของอาคาร B จะมี Main Lobby อยู่อีกจุดด้วย รวมถึงบริเวณตรงกลางโครงการจะเป็นสระว่ายน้ำยาว 50 เมตร ขนาดแบบสระ Olympic ว่ายน้ำได้จริงจังเลยนะ พร้อมสวนสีเขียวโดยรอบให้มาพักผ่อนและเป็นวิวให้กับห้องพักของโครงการด้วย นอกจากนั้นตรงชั้น 2 ของอาคาร B จะเป็น Fitness และ Co-Working Space ส่วนชั้นดาดฟ้าของอาคาร B และ C จะเป็น Rooftop Garden พื้นที่สวนสีเขียวพร้อมมุมนั่งเล่น ออกแบบมีทางเดินเชื่อมต่อกันระหว่าง 2 อาคาร ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี

เนื่องจากเทรนด์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป คนนิยมหันมาเลี้ยงสัตว์เป็นครอบครัวมากขึ้น จึงทำให้โครงการปรับอาคาร A เป็นอาคาร Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ เพื่อสอดคล้องเทรนด์การอยู่อาศัยแบบใหม่นี้ รวมถึงออกแบบมี Pet Corner พื้นที่ให้น้องๆได้วิ่งเล่น พักผ่อนภายในโครงการด้วย

ห้องพักอาศัย

แบบห้องของโครงการนี้จะเป็นห้องหน้ากว้างทั้งหมดเลยนะ ทำให้ได้ช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ ดึงแสงเข้ามาในห้องดูสว่างและเปิดรับวิวได้กว้าง มีแบบห้องให้เลือก 4 แบบ แบ่งเป็น 1 Bedroom ขนาด 25-30 ตร.ม. ได้ครัวปิดติดระเบียง เหมาะกับคนชอบทำอาหาร ส่วน 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตร.ม. มีห้องอเนกประสงค์ปรับเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนอีกห้องได้ และ 2 Bedroom ขนาด 44 ตร.ม. มีห้องนอนอยู่ 2 ฝั่งห้องและมีพื้นที่นั่งเล่นคั่นกลางอยู่ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

THE MUVE Sukhumvit 107 ( เดอะ มูฟ สุขุมวิท 107)

ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท

เรียกว่าคอนโดใหม่โซน BTS แบริ่งนี้เป็นคอนโด Pet-Friendly ทั้งหมดเลยค่ะ เพราะโครงการนี้ก็เป็นคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้เหมือนกัน แต่เป็นโครงการขนาดเล็ก ออกแบบเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร รวม 254 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถ 30% (ไม่รวมซ้อนคัน) และแบ่งเป็น Auto Parking 20 คันมาให้ด้วย ปัจจุบันสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว สำหรับโครงการนี้มีจุดเด่นที่เป็นโครงการเลี้ยงสัตว์ได้ในราคาคุ้มค่า เพราะมีราคาเริ่ม 1.69 ล้านบาทและได้ห้องแต่งครบเลยนั่นเอง

ตัวโครงการนี้จะตั้งถัดจากถนนสุขุมวิท 107 ประมาณ 130 เมตร และอยู่ระหว่างซอยแบริ่ง 3 และ 5 จึงทำให้เราสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง อีกทั้งยังเป็นทำเลที่อยู่กึ่งกลางระหว่างถนนสุขุมวิทและศรีนครินทร์ จึงเดินทางไปฝั่งกรุงเทพตอนเหนืออย่างโซนพัฒนาการ – บางกะปิ หรือกรุงเทพฝั่งตะวันออกไปบางนา, สมุทรปราการ, ชลบุรีได้เลย นอกจากนั้นยังใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้ง BTS สถานีแบริ่ง 1.1 กิโลเมตร และ MRT สถานีศรีแบริ่ง 3.5 กิโลเมตร โดยทางโครงการมีบริการรถ Shuttle Service วิ่งรับ-ส่งถึง BTS แบริ่งด้วยค่ะ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆโครงการจะมีตลาดมิ่งและตลาดนางรำ มีทั้งของกินและของสดให้มาเดินจับจ่ายใช้สอย รวมถึง Community Mall ดาดฟ้า ลาซาล และ ลาซาล อเวนิว นอกจากนั้นยังมีห้างใหญ่ๆ Central บางนาและ Big C บางนา รวมถึงไป Bangkok Mall ได้ง่ายด้วย

พื้นที่ส่วนกลาง

ทางโครงการออกแบบฟังก์ชันส่วนกลางตรงชั้น 1 เป็น Lobby, Grab n Go, Garden พร้อม Pet Park สำหรับสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่น ส่วนชั้น 2 จะเป็น Main Facilities ของโครงการ ประกอบด้วย  Co-Working Space, Private Working Room, Meeting Room, Studio&Streaming Room, Fitness และ Laundry ส่วนชั้นดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่ มีทั้ง Jogging Track วิ่งออกกำลังได้ มีมุมนั่งเล่นและ Sansiri Backyard สำหรับปลูกพืชผักสวนครัว แต่จะสังเกตว่าโครงการนี้ก็เป็นอีกโครงการของแบรนด์ THE MUVE ที่ไม่มีสระว่ายน้ำนะคะ แต่จะมีพื้นที่ Customize Facility เพิ่มเติมเข้ามา เช่น Studio&Streaming Room ให้นั่งถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ Live ได้ รวมถึงยังทำให้สามารถรักษาระดับราคา 1 ล้านกลางๆไว้ได้นะคะ

ห้องพักอาศัย

มีรูปแบบห้องให้เลือก 3 แบบด้วยกัน ขนาด 23.00-37.25 ตร.ม. โดยจะเน้น 1 Bedroom อยู่ได้ 1-2 คน แต่ทางโครงการมี Option ให้ Combine ห้องเป็น 2 Bedroom ด้วยนะ ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอย 50.00-51.25 ตร.ม. เลย ซึ่งก็ถือว่าราคาดี เมื่อเทียบกับห้อง 2 Bedroom ของโครงการเพื่อนบ้าน สำหรับห้อง 1 Bedroom จะมีพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่นอนพักผ่อนอยู่บริเวณเดียวกัน พร้อมครัวปิด ส่วน 1 Bedroom Plus จะมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาให้เราใช้เป็นห้องทำงาน ห้องนอนหรือห้องสัตว์เลี้ยงได้นั่นเอง

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3ZMA

คอนโดสุขุมวิทตอนปลาย (อ่อนนุช-แบริ่ง)

เราได้สรุปภาพรวม “คอนโดใหม่ ทำเลสุขุมวิทตอนปลาย (อ่อนนุช-แบริ่ง) ที่เปิดตัวในปี 2565-2568” มาให้อ่านกัน ซึ่งจะเห็นว่าแต่ละโครงการก็จะมีการออกแบบ ความน่าสนใจและราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยเราได้สรุปจุดเด่นแต่ละประเด็นเพื่อเป็นตัวเลือกในการช่วยตัดสินใจมาให้ ดังนี้

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เก็บข้อมูลช่วงเดือนตุลาคม 2568 ดังนั้นราคาต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

• ราคาจับต้องได้ง่ายสุด : HI สุขุมวิท – บางจาก สเตชั่น ราคาดีสุด เริ่ม 1.5 ล้านบาท รองลงมาจะเป็น THE MUVE สุขุมวิท 107 ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท ที่ถือว่าเป็นคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ที่คุ้มค่าค่ะ
• คอนโดพร้อมเข้าอยู่ : มีอยู่ 4 โครงการด้วยกัน ได้แก่ blue สุขุมวิท 89, Origin Play ศรีอุดม สเตชั่น, ARLO สุขุมวิท 105-ลาซาล และ THE MUVE สุขุมวิท 107
• คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ : จะมี 5 โครงการด้วยกัน ได้แก่ ASPIRE สุขุมวิท 103, Origin Play ศรีอุดม สเตชั่น, SO ORIGIN สุขุมวิท 105, ARLO สุขุมวิท 105-ลาซาล และ THE MUVE สุขุมวิท 107 พร้อมออกแบบส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย
• คอนโด High Rise : มีเพียงโครงการเดียว นั่นก็คือ LIFE อุดมสุข สเตชั่น ส่วนโครงการอื่นๆจะเป็น Low Rise ทั้งหมดเลยค่ะ
• ความอุดมสมบูรณ์สูง : Escent บางนา ที่มี Central บางนา & Big C บางนาอยู่ปากซอยโครงการเลย มีระยะห่างประมาณ  500 เมตร
• เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าง่าย : LIFE อุดมสุข สเตชั่น มีระยะห่างจาก BTS อุดมสุขเพียง 70-100 เมตร จึงสะดวกมากๆสำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำ รองลงมาจะเป็น SO ORIGIN สุขุมวิท 105 ที่มีระยะห่างจาก BTS แบริ่ง 300 เมตร
• เน้นความเป็นส่วนตัวสูง : THE COOPERS ME สุขุมวิท 62 มีจำนวนยูนิตเพียง 76 ยูนิต จึงได้บรรยากาศภายในโครงการที่ไม่พลุกพล่าน เงียบสงบ แตกต่างจากคอนโดอื่นที่มีจำนวน 254-1,004 ยูนิตเลย
• สไตล์โครงการโดดเด่น : The Lush 21 ออกแบบในสไตล์ Cozy Minimal ได้บรรยากาศอบอุ่น น่าอยู่อาศัย
• เปิดรับวิวสีเขียวกว้าง : คอนโด Low Rise ส่วนใหญ่จะออกแบบล้อมรอบพื้นที่สวนส่วนกลางของโครงการอยู่แล้ว ทำให้ห้องส่วนนึงได้วิวสีเขียว แต่ ARLO สุขุมวิท 105-ลาซาล จะอยู่ติดกับสนามกีฬาภูติอนันต์และมองเห็นวิวสนามกอล์ฟราชนาวีบางนา ทำให้ได้วิวสีเขียวเต็มๆเลย
• ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางน่าสนใจ : blue สุขุมวิท 89 ได้ส่วนกลางเชื่อมกัน 4 ชั้น, THE COOPERS ME สุขุมวิท 62 ยกส่วนกลางอยู่ชั้นบนสุด, LIFE อุดมสุข สเตชั่น มีส่วนกลาง 5 ชั้น รวมประมาณ 6,000 ตร.ม.และ SO ORIGIN สุขุมวิท 105 ทำเป็น Clubhouse 4 ชั้น แยกจากอาคารพักอาศัย
• ใช้งานส่วนกลางได้ถึงตอนดึก : Origin Play ศรีอุดม สเตชั่น เป็นโครงการที่เปิดให้ใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ตั้งแต่ 07.00-00.00 น.
• ห้องแต่งครบที่มีเฟอร์นิเจอร์น่าสนใจ : คอนโดบางแบรนด์จะออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เป็น Signature ของแต่ละแบรนด์เลยนะ อย่าง blue สุขุมวิท 89 ได้ Adaptive Function เฟอร์นิเจอร์ที่ปรับเปลี่ยนได้ และ Escent บางนา จะมีชั้นวางทีวีแบบหมุนได้ 180 องศา ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่และใช้งานได้ยืดหยุ่น ส่วน GOOD DAY สุขุมวิท 93 ก็มีเฟอร์นิเจอร์ที่มีช่องเก็บของได้เยอะดี

จบแล้วนะคะสำหรับบทความ “เปิดลิสต์ 12 คอนโดใหม่ ทำเลสุขุมวิทตอนปลาย (อ่อนนุช-แบริ่ง) รับกระแส Mega Projects มูลค่าแสนล้าน!” โดยจะมีทั้งคอนโดที่เพิ่งเปิดตัวและสร้างเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ แถมมีคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย รวมถึงมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ล้านกลางๆ ไปจนถึง 4 ล้านต้นๆเลย หากใครมีงบ 2 ล้านบาท ก็เลือกซื้อได้มากถึง 7 โครงการเลยค่ะ

เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดสขุมวิทได้ง่ายขึ้นนะคะ ไว้ครั้งหน้าทาง Think of Living จะมีบทความน่าสนใจอะไรอีกบ้าง ติดตามกันต่อได้เลย 😊