ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคะว่าคนที่กำลังมองหาบ้านยุคนี้ ก็มองหาความสะดวกสบายไปด้วยเช่นกัน เวลาเราไปดูโครงการใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดก็มักเห็นเทคโนโลยีต่างๆที่แถมมากับตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ระบบความปลอดภัยต่างๆ เช่น Magnetic sensor , , CCTV หรือระบบกรองอากาศ , EV Charger , Solar Cell รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างต่างๆ เช่น ม่านไฟฟ้า , Digital Door Lock , Smart Switch ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้น
เราเองก็เคยไปชมโครงการใหม่ๆหลายแห่งที่ไม่ได้ให้เทคโนโลยีเหล่านี้มา แลกมากับราคาที่สามารถจับต้องได้ง่ายขึ้น บางคนจึงเลือกที่จะซื้อบ้านเปล่ามา แล้วติดตั้งเทคโนโลยีต่างๆเพิ่มเติมทีหลัง ข้อดีคือเราสามารถเลือกติดตั้งเฉพาะเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์เราได้ จึงเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และไม่ใช่แค่บ้านใหม่ที่ทำได้นะ เพราะบ้านเก่าที่ย้ายเข้าอยู่แล้วหลายๆปี ก็สามารถติดตั้งเทคโนโลยีภายหลังได้ เช่นกัน
ครั้งนี้ Think Of Living จึงรวบรวมค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเทคโนโลยีทั้งหมดภายในบ้านมาให้ โดยอ้างอิงจากร้านค้ารายใหญ่รายย่อย เพื่อให้ทุกคนประเมินความคุ้มค่าในการมีบ้าน Smarthome ได้ เราจะเข้าแบ่งออกเป็น 4 หมวด เรียงตามลำดับความนิยมของคนส่วนใหญ่ ดังนี้
- อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ
- Solar Cell
- ระบบระบายอากาศ
- EV Charger
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ
เทคโนโลยีต่างๆภายในบ้านมีมากมายหลายอย่างเลยนะ มีทั้งแบบที่เป็นอุปกรณ์แยกและระบบที่เราสามารถควบคุมได้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เรามาเริ่มจากอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบริเวณหน้าบ้านค่อยๆเข้าไปด้านในนะ
- ประตูรั้วอัตโนมัติ
กรณีที่สร้างบ้านใหม่ ต้องการทั้งประตูรั้วและมอเตอร์ประตูจะต้องเตรียมงบไว้เยอะหน่อยนะคะ เพราะมอเตอร์ประตูรั้วอัตโนมัติจะใช้ได้กับประตูอลูมิเนียม , เหล็กจึงต้องกันงบทำประตูเพิ่มด้วย
โดยการคำนวณประตูรั้วจะคิดเป็นต่อตารางเมตร เริ่มต้นที่ประมาณ 9,300 -16,000 บาท/ตารางเมตร หากประตูมีขนาด 5 x 1.8 เมตร จะมีค่าใช้จ่ายส่วนประตูรั้วเริ่มต้น 55,900 – 144,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดอลูมิเนียมและการออกแบบด้วยนะคะ โดยอ้างอิงจากบริษัทอลูมิเนียมอย่าง TOSTEM , ALNEX และบริษัทวัสดุและต่อเติมบ้านรายใหญ่อย่าง SCG Home
ประเมินราคาประตูรั้วของ TOSTEM >> คลิกที่นี่
ประเมินราคาประตูรั้วของ ALNEX >> คลิกที่นี่
ส่วนมอเตอร์มีหลายระดับราคาให้เลือกเช่นกัน ก่อนจะเลือกมอเตอร์รั้วเราต้องดูน้ำหนักของประตูรั้วเราก่อน เพื่อเลือกขนาดมอเตอร์ โดยเราสามารถให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบหน้างานก่อนได้ ซึ่งจะมีค่าสำรวจประมาณ 499-1,000 บาท
มอเตอร์ประตูรีโมท
ราคาของมอเตอร์ประตูรั้วขึ้นกับแบรนด์ , การรองรับน้ำหนักประตู , ระบบมอเตอร์ , ระยะกดรีโมท , การใช้งาน ครั้งนี้เราขอยกตัวอย่างมอเตอร์แบรนด์ BSM , LIFE ที่มีให้บริการติดตั้งใน Q-Chang และ HomeXpert ที่มีให้บริการติดตั้งใน SCG Home เพราะเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือในท้องตลาด
มอเตอร์ BSM มีทั้งระบบ AC และ DC (มอเตอร์ DC มีแบตสำรองไฟ ไฟดับก็ยังสามารถใช้งานได้) ระยะกดรีโมท 50-70 เมตร ราคาเริ่มต้น 14,900 บาท
มอเตอร์ LIFE มีทั้งระบบ AC และ DC ระยะกดรีโมท 100 เมตรและเปิดประตูผ่าน Application ในมือถือได้ ราคาเริ่มต้น 26,900 บาท
ในช่วงโปรโมชั่น 1 ก.ย. 68 – 31 ธ.ค. 68 ผ่อน 0% นานสูงสุด 4 เดือน
มอเตอร์ HomeXpert เป็นระบบ AC ระยะกดรีโมท 30 เมตร แต่จะรองรับน้ำหนักประตูได้มากกว่าแบรนด์อื่นๆ คือไม่เกิน 1,500 กิโลกรัม เหมาะกับบ้านที่มีประตูรั้วกว้างเป็นพิเศษ ในราคาเริ่มต้น 33,400 บาท
- Digital Door Lock
โครงการใหม่ๆในยุคนี้มักให้ Digital Door Lock มาเป็นมาตรฐานอยู่แล้วนะ โดยมักจะให้ที่ประตูบริเวณที่จอดรถเป็นหลัก แต่หากใครอยากติดตั้งเพิ่มเติมบริเวณประตูหลัก หรือบ้านตัวเองยังไม่มี Digital Door Lock แล้วอยากทราบค่าใช้จ่าย เราได้รวบรวมมาให้ทั้งหมดแล้วค่ะ
ต้องบอกก่อนเลยว่า แบรนด์ Digital Door Lock ในสมัยนี้มีเยอะมาก ให้เราได้เลือกสรร และมีราคาหลักพันไปจนถึงหลักหมื่นเลยนะ โดยราคาก็มักจะขึ้นกับแบรนด์ , รูปแบบการปลดล็อก , พื้นที่ในการติดตั้ง ในบทความเราจะยึดจากแบรนด์ที่มีขายในท้องตลาดทั่วไป เช่น Home Pro , ไทวัสดุ , NocNoc
Digital Door Lock รองรับ 3 ระบบ
Digital Door Lock รองรับ 3 ระบบ คือ Pin Code / Key Card / กุญแจ มีราคาเริ่มต้นจับต้องได้ง่ายที่สุดนะ เริ่มตั้งแต่ 2 พันกลางๆ เรามองว่าเหมาะกับคนที่ไม่ชอบพกกุญแจ แล้วยังสามารถกดรหัสเข้าไปได้
Digital Door Lock รองรับ 4 ระบบ คือ Pin Code / Key Card / Finger Print / กุญแจ จะมีราคาสูงขึ้นมาหน่อย จะมีราคาตั้งแต่ประมาณ 4 พันไปจนถึง 2 หมื่นกว่า Digital Door Lock แบบนี้เหมาะกับคนขี้ลืมมากเลยนะ ไม่ต้องพกกุญแจ ไม่ต้องจดจำรหัสก็ได้ เพราะสามารถสแกนลายนิ้วมือเข้าไปได้
Digital Door Lock สำหรับประตูบานเลื่อน
แม้ว่า Digital Door Lock สำหรับประตูบานเลื่อนจะรองรับได้ 4 ระบบเหมือนกัน แต่มักมีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่า เพราะมีขนาดเล็ก ประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า
Digital Door Lock ที่มีระบบ Face Scan ใน NocNoc
Digital Door Lock รองรับ 5 ระบบ คือ Pin Code / Key Card / Finger Print / Face Scan / กุญแจ จะมีราคาเริ่มต้นสูงที่สุด ใช้งานได้สะดวกที่สุดด้วย เพราะต่อให้ถือข้าวของเต็มมือ ก็สามารถเปิดประตูจากระบบสแกนใบหน้าได้
- Home Automation
ในส่วนของ Home Automation เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น Smart LED Lighting , Smart Camera , Smart Curtains , Smart Plug รวมถึงเซนเซอร์ต่างๆ โดยอุปกรณ์จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
1 Smart Device : คืออุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้านที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น สวิตช์ไฟ , Magnetic sensor , CCTV
สวิตช์ไฟแบบสัมผัส และสั่งงานได้โดยตรงจากสมาร์ทโฟน
สวิตช์ไฟที่สามารถเชื่อมต่อกับ Wifi หรือโครงข่ายอื่นๆได้ มีหลายแบบเลยนะ โดยแบบที่ราคาเข้าถึงได้ง่ายที่สุดจะสามารถเปิด-ปิดได้จากมือถือ ราคาเริ่มต้นแค่หลักร้อย แต่สามารถเช็คสถานะของไฟ รวมถึงตั้งเวลาการทำงานแบบอัตโนมัติได้ด้วยค่ะ ส่วนสวิตช์ไฟที่มีราคาสูงประมาณพันกว่าบาทจะสามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายอื่นๆได้ ทำให้เราควบคุมไฟจากแผงควบคุมภายในบ้าน หรือจะสั่งงานผ่านมือถือก็ได้
สัญญาณกันขโมยแบบไม่มี Gateway
ในยุคนี้หลายบ้านก็ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น การติดตั้ง Magnetic sensor จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก คอยแจ้งเตือนเวลาประตูเปิด แล้วยังเช็คประวัติการใช้งานได้ด้วย มักมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 400-600 บาท จะมีทั้งแบบที่เชื่อมต่อกับ Wifi อย่างเดียว สามารถเปิดปิดได้ผ่านมือถือ กับแบบที่เชื่อมต่อได้ทั้ง Wifi , Zigbee ปิด-เปิดได้ผ่านมือถือและแผงควบคุมในตัวบ้าน
กล้องวงจรปิดเชื่อมต่อ Wifi
จริงๆกล้องวงจรปิดมีหลายแบบเช่นกัน ในแบบเริ่มต้นที่สามารถบันทึกภาพ ปิด-เปิดได้จากมือถือแบบที่คนนิยมใช้กันก็มักจะมีราคาเริ่มต้น 500-600 บาท แต่ถ้าเป็นกล้องวงจรปิดที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางคอยเชื่อมต่ออีกหลายๆอุปกรณ์ และมีฟังก์ชันนอกเนื่องจากการบันทึกภาพ เช่น มีระบบจดจำหน้าคนด้วย AI ก็มีราคาตั้งแต่เริ่มต้นประมาณ 2000 กว่าบาทเลยค่ะ
2 Control System : ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อ ประสานงาน และควบคุมอุปกรณ์ Smart Device ต่าง ๆ ภายในบ้าน โดย Control System มักมีรูปแบบเป็นแผงควบคุม , Smart Speaker หรือ Application ในมือถือ
INZY PAD
ตัวแผงควบคุมเป็น Control System ที่นิยมใช้มากที่สุด มักมีราคาประมาณ 6,000 กว่าๆไปจนถึงเกือบ 8,000 กว่าบาท
3 Smart Home Network : โครงข่ายสัญญาณเชื่อมต่อระหว่าง Smart Device และ Control System โดยเทคโนโลยีมีหลายแบบไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, Bluetooth, Zigbee , Z-Wave , Thread
ถ้าเราไม่ได้ซื้ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายได้โดยตรง เราจำเป็นต้องมี Gateway ไว้ค่อยกระจายสัญญาณ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 1,000-2,000 บาท แต่ในยุคนี้มีอุปกรณ์ต่างๆหรือแผงควบคุมที่เป็น Gateway ไปในตัวได้ด้วย ซึ่งอุปกรณ์กับ Gateway ต้องรองรับโครงข่ายสัญญาณเดียวกัน เช่น กล้องรองรับโครงข่าย Zigbee ก็ต้องใช้ Gateway รองรับโครงข่าย Zigbee เช่นกัน
Solar Cell
สำหรับค่าติดตั้ง Solar Rooftop ในตลาดมีให้เราเลือกหลากหลายราคา ครั้งนี้เราขอยึดราคาจากบริษัทหรือหน่วยงานใหญ่ๆอย่า SCG , MEA การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือ PEA การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นหลักนะคะ โดยปัจจัยที่ควรคำนึงถึงนั้น ก็จะมี
-ช่วงเวลาในการใช้ไฟฟ้า
-ระบบไฟฟ้าที่ใช้ภายในบ้าน
-ค่าไฟต่อเดือน
-พื้นที่หลังคาที่ติดตั้ง
สำหรับ Solar Cell ของ SCG มีราคาติดตั้ง Solar Cell ที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเล็กน้อย เริ่มต้นประมาณ 91,000 บาท แต่สำหรับของ MEA , PEA จะมีแบ่งแพคเก็จสำหรับคนใช้ไฟฟ้าช่วงกลางวัน-กลางคืน
สำหรับคนที่เน้นใช้ไฟตอนกลางวัน
สำหรับระบบไฟ 1 เฟสจะติดตั้ง Solar Cell ได้ 3-10 kW. ถ้าเป็นบ้านที่ใช้ไฟไม่เยอะนัก ปัจจุบันมีค่าไฟไม่เกิน 3,000 บาท แนะนำให้ติดตั้ง 3 kW. ค่าติดตั้งเริ่มต้นประมาณ 111,000-124,900 บาท แต่ถ้ามีค่าไฟมากกว่านี้ให้ติดตั้ง 5 kW.ขึ้นไป
สำหรับระบบไฟ 3 เฟส จะติดตั้ง Solar Cell ได้ 5-20 kW. และเหมาะกับบ้านที่ใช้ไฟมากกว่า 3,000 -20,000 บาท มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 167,900-177,900 บาท
สำหรับคนที่เน้นใช้ไฟทั้งกลางวัน-กลางคืน
จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าเพราะต้องมีแบตเตอรี่ในการสำรองไฟ เพื่อเก็บไว้ใช้ตอนกลางคืนด้วย สำหรับไฟ 1 เฟส Solar Cell 3 kW. จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 234,900 บาท ส่วนไฟ 3 เฟส Solar Cell 5 kW. จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 280,900 บาท
หากใครอยากรู้ว่าบ้านของตัวเองเหมาะจะติดตั้งกับ Solar Cell แบบไหน ลองมาคำนวณกันคร่าวๆในเว็บได้เลยนะ
SCG >> คลิกที่นี่
PEA >> คลิกที่นี่
ถ้าใครติดตั้ง Solar Cell ช่วงนี้ไปจนถึง 31 ธ.ค. 68 มีสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ด้วยนะคะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ >> คลิกที่นี่
ระบบฟอกอากาศ
ระบบระบายอากาศมีหลากหลายแบบ ราคาขึ้นกับแบรนด์ของระบบ , ขนาดของพื้นที่ในการใช้ระบบ
เครื่องเติมอากาศดี SCG Active AIR Quality
ระบบเติมอากาศโดยทั่วไปมักมีราคาเริ่มต้นที่ 20,000 ไปจนถึง 20,000 กลางๆ มีเทคโนโลยีช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ โดยจะต้องติดตั้งใช้เป็นห้องๆละไม่เกิน 40 ตร.ม.
EV Charger
การติดตั้ง EV Charger จะมีค่าใช้จ่ายหลายส่วน โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆดังนี้ค่ะ
1 ขอเพิ่มขนาดมิเตอร์ / มิเตอร์ลูกที่ 2
อย่างแรกต้องตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าว่าบ้านของเราใช้ขนาดเท่าไร หากเป็น Single-Phase 15(45)A ถือว่าไม่เพียงพอต่อการติดตั้ง EV Charger จะต้องขอเพิ่มขนาด มิเตอร์เป็น 30(100)A 1P 2W หรือ 15(45)A 3P 4W ที่ กฟน. (MEA) หรือ กฟภ. (PEA) โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 700-2,500 บาท หรือ 6,640 – 7,350 บาท สำหรับค่าไฟแบบอัตรา TOU*
หากตรวจสอบแล้วไม่สามารถเพิ่มขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าได้ จะต้องทำการขอมิเตอร์ลูกที่ 2 โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 700 บาท สำหรับมิเตอร์ขนาด 15(45)A 1-Phase , 30(100)A 1-Phase , 15(45)A 3-Phase หรือ 1,500 บาท สำหรับมิเตอร์ขนาด 30(100)A 3-Phase ส่วนมิเตอร์แบบอัตรา TOU* มีค่าติดตั้ง 3,740 – 5,340 บาท
2 ค่าติดตั้งอุปกรณ์และวางระบบไฟใหม่
การติดตั้งวงจรที่ 2 มีหลายระดับราคาเลยนะ หากเป็นบริษัทหรือช่างทั่วไปที่มีใบ Certificate รับรองจะมาค่าบริการเริ่มต้นประมาณ 12,000 – 34,500 บาท แต่ถ้าใครต้องการใช้บริการของการไฟฟ้าโดยตรง เพื่อความมั่นใจเวลามีปัญหาเรียกช่างมาเซอร์วิสได้ไม่ยาก ก็จะมีค่าบริการที่สูงขึ้นมาหน่อย
ค่าติดตั้งอุปกรณ์และวางระบบไฟใหม่ของการไฟฟ้า แบ่งเป็น 1 Phase และ 3 Phase
-7.5 kW 1 Phase จะใช้เวลาในการชาร์ทนานหน่อย ประมาณ 6-8 ชั่วโมง มีค่าติดตั้งประมาณ 29,000 บาท
-22 kW 3 Phase ใช้เวลาชาร์ทเร็วกว่า 7.5 kW ประมาณ 3 เท่า มีค่าติดตั้งประมาณ 46,000 บาท
3 ค่าเครื่อง EV Charger
EV Charger
เครื่อง EV Charger มีให้เลือกหลายราคาและหลายแบรนด์เลยนะ ส่วนใหญ่เครื่องชาร์ทที่มีกำลังไฟฟ้าไม่เกิน 7.5 kW มักมีราคาเริ่มต้น 10,000 กว่าบาท จนถึง 30,000 บาทกลางๆ จนแบบที่มีกำลังไฟฟ้า 22 kW มักมีราคาสูงกว่านั้น
สรุปค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเทคโนโลยี Smarthome
เราได้รวบรวมเรทราคาของการใช้เทคโนโลยีต่างๆภายในบ้าน มาไว้ให้ โดยอุปกรณ์แต่ละอย่างจะมีราคาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือและฟังก์ชันต่างๆ สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆภายในบ้านและ Home Automation จะมีหลายระบบราคา เพราะเป็นแบรนด์แต่ละเจ้าแข่งกันเอง แต่ในส่วนของงานระบบไฟฟ้าอย่าง Solar Cell , EV Charger จะมีทางเลือกเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจให้เราเลือกใช้บริการได้ด้วย ที่ได้เรื่องของความน่าเชื่อถือมากขึ้น แลกมากับราคาที่สูงหน่อยนะคะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับบทความ อยากติด Home Automation / Solar Cell / EV Charger และเทคโนโลยีอื่นๆภายในบ้าน ใช้งบเท่าไหร่ หวังว่าเพื่อนๆจะพอคำนวณค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเทคโนโลยีต่างๆได้บ้างนะคะ ไว้ครั้งหน้าทาง Think of Living จะมีบทความน่าสนใจอะไรอีกบ้าง ติดตามกันต่อได้เลย 😊