
..กลับมาอีกครั้งกับแบรนด์บ้านขวัญใจใครหลายๆคน ที่ชื่นชอบด้านการออกแบบดีไซน์ฟังก์ชันบ้านที่ไม่เหมือนใคร บ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93 เป็นแบรนด์ที่เราไม่ได้เห็นเปิดตัวใหม่มานานกว่า 5 ปีเต็ม และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่บ้านภูริปุรีไม่ได้ตั้งอยู่ในโซนลาดพร้าว-โชคชัย 4 เหมือนโครงการรุ่นพี่ที่ผ่านๆมา นั่นหมายความว่าในอนาคตเราน่าจะได้เห็นบ้านแบรนด์นี้ในทำเลอื่นๆอีกก็เป็นได้ เพราะก็มีแฟนคลับหลายคนอยากให้มีบ้านที่ออกแบบเจ๋งๆแบบนี้ อยู่ในทำเลอื่นๆบ้างไม่น้อยเหมือนกัน โดยจุดเด่นหรือ Highlights ของโครงการนี้ก็จะมีดังต่อไปนี้เลย
- เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งใจให้อยู่ในซอยตันเงียบสงบ มีเพื่อนบ้านเพียง 8 ยูนิต และยังออกแบบช่องแสงให้ไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้ง่ายๆอีกด้วย
- พื้นที่ใช้สอยเยอะ มาพร้อมดีไซน์ฟังก์ชันใหม่ระเบียง Semi-Outdoor บนชั้น 2 ที่เชื่อมต่อพื้นที่ในบ้านกับธรรมชาติภายนอก อีกทั้งยังมีการเล่นระดับพื้นให้ Slope เหมือนเชิงเขา ทำให้ไม่บังวิวกันเอง และยังมองเห็นสวนที่ยกระดับขึ้นมาเหมือนอยู่บ้านชั้น 1 เลย
- บ้านทุกยูนิตหันหน้าไปทิศเหนือ-ใต้ เพื่อรับลมได้เต็มที่ จึงเป็นบ้านที่มี Ventilation ที่ดีทีเดียว
- ทำเลเดินทางสะดวก เข้า-ออกได้หลายทาง แถมยังใกล้ทั้งรถไฟฟ้า BTS และทางด่วนอีก
ข้อมูลโครงการ
รีวิว Baanpuripuri Sukhumvit 93 (บ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93) ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568
| ชื่อโครงการ | Baanpuripuri Sukhumvit 93 (บ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93) |
| ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท บ้านภูริปุรี จำกัด |
| SEGMENT CLASS | LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
| โครงการตั้งอยู่ | ซอย พึ่งมี 11 เขตพระโขนง |
| ที่ดิน | 1-0-17 ไร่ |
| จำนวนยูนิต | 8 ยูนิต |
| ประเภทบ้าน |
|
| ราคาเริ่มต้น | 30.7 ล้านบาท |
| เริ่มก่อสร้าง | ปี พ.ศ. 2567 |
| คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี พ.ศ. 2568 |
| เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
| โทร | 09-1997-1997 |

ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- ตั้งอยู่ภายในซอย มีความเงียบสงบเป็นส่วนตัว เหมาะกับการอยู่อาศัย
- สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง เชื่อมต่อทั้งถนนสุขุมวิท ถนนอ่อนนุช ถนนศรีนครินทร์ และถนนอุดมสุข
- ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีบางจาก เพียง 1.6 km. สามารถเข้าเมืองเลี่ยงรถติดได้สะดวก
- ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานครเพียง 2.9 km.
- ภายในซอยมีความคึกคัก ไม่เปลี่ยว เต็มไปด้วยร้านสะดวกซื้อ และทำเลรอบๆก็มีห้างใหญ่หลายแห่งให้ไปช้อปปิ้งกันได้
พิกัด Google Maps : 13.705310286728125, 100.61304197907698
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
บ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93 ตั้งอยู่ที่ไหน?
โครงการ บ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93 ตั้งอยู่ในย่านบางจาก-พระโขนง ซึ่งหากเข้าจากถนนสุขุวิทก็จะเป็นซอยสุขุมวิท 93 เพีงแค่ประมาณ 1.4 km. เท่านั้น และด้านหน้าปากซอยมี BTS บางจาก ตั้งอยู่ใกล้ๆอีกด้วย ส่วนซอยเหล่านี้ยังสามารถเชื่อมต่อไปออกถนนหลักอื่นๆของย่านได้อีก ได้แก่ ถนนอ่อนนุช ถนนศรีนครินทร์ และถนนอุดมสุข เรียกได้ว่าสามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง
โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่ในซอยพึ่งมี 11 ที่เป็นซอยตันเล็กๆ จึงมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวกว่าซอยหลักที่มีรถผ่านไป-มา อีกทั้งระหว่างทางยังมีร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นเยอะด้วย คือจากปากซอยเราจะได้ขับผ่านถึง 4 ร้านหรือทุกๆ 300 – 400 m. เลยทีเดียว (ร้านใกล้สุดอยู่ห่างแค่ 220 m.) แสดงให้เห็นถึงความคึกคักและอุดมสมบูรณ์ของซอยนี้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังมีห้างอื่นๆในย่านใกล้เคียงให้ไปช้อปปิ้งกันได้ เช่น Lotus, Big C, Seacon Square, Paradise Park และ Bangkok Mall ที่กำลังจะสร้างเสร็จในอนาคตอีกด้วย
ที่อยู่อาศัยแถวโซนบางจาก-พระโขนง ราคาเท่าไหร่ น่าสนใจไหม?
จริงๆทำเลนี้เรียกได้ว่าเป็นทำเลคอนโดใกล้รถไฟฟ้า และยังสามารถเข้าเมืองได้สะดวกอยู่มาก แต่ก็มีโครงการแนวราบเปิดใหม่ในย่านนี้ให้เลือกอยู่พอสมควร โดยจะมีทั้งแต่ทาวน์โฮมราคาประมาณ 10 – 20 ล้าน / บ้านแฝด 15 – 30 ล้าน / บ้านเดี่ยว 25 – 40 ล้าน และโฮมออฟฟิศ 30 – 40 ล้าน
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโซนที่เราสามารถหาบ้านแนวราบใกล้รถไฟฟ้า ในราคาระดับ Luxury ประมาณ 30 ล้านบาท แต่ยังไม่ถึงหลัก 50 – 100 ล้านในทำเลที่ถัดเข้าเมืองไปกว่านี้อย่างโซนเอกมัย-ทองหล่อ
ซึ่งโครงการ บ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93 เรียกได้ว่ามีราคาที่เกาะกลุ่มและสมเหตุสมผลอยู่ในช่วง 30 ล้านกว่าๆ อีกทั้งยังเป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS บางจาก มากที่สุดของย่านในตอนนี้เลยก็ว่าได้ (ใกล้กว่านี้มีครับ แต่เค้าจะเป็นทาวน์แทน)
รถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการบ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93 มากที่สุด :
นั่นคือ BTS สถานี บางจาก อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการที่ห่างออกไปเพียง 1.6 km. ถือว่าเป็นระยะทางที่ใกล้มากสำหรับโครงการแนวราบ ทำให้สามารถเดินทางเข้าเมืองเพื่อเลี่ยงรถติดได้สะดวกมาก โดยเราสามารถนั่งรถไฟฟ้าต่อเดียวไปถึงทองหล่อ-อโศก-สยามได้เลย ซึ่งจะมีวินมอเตอร์ไซค์ตรงเซเว่นให้เราได้ขึ้นสะดวกทั้งขาไป-ขากลับอีกด้วยครับ
ทางด่วนที่ใกล้โครงการบ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93 มากที่สุด :
ทางด่วนเฉลิมมหานครจะอยู่เพียงซอยฝั่งตรงข้ามของโครงการเท่านั้น ซึ่งเราสามารถใช้ซอยสุขุวิท 62 ที่อยู่เยื้องๆกันเพื่อใช้ลัดมาขึ้นทางด่วนได้สะดวกเลยครับ โดยมีระยะทางเพียง 2.9 km. เท่านั้น สามารถเข้าเมืองไปทั้งพระราม 4 หรือพระราม 9 ได้สบายๆ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริบทรอบๆโครงการจะเป็นซอยตัน และเป็นชุมชนพักอาศัยเป็นหลัก จึงมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว อีกทั้งในปัจจุบันด้านข้างของที่ดินโครงการยังคงเป็นที่ว่างอยู่ เลยทำให้เราจะได้วิวที่เปิดโล่งด้วยนั่นเองครับ
- ทิศเหนือ ติดกับ ที่ว่าง
- ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านสูง 1 – 2 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ ที่ว่าง
- ทิศตะวันตก เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนซอยพึ่งมี 11 ฝั่งตรงข้ามเป็นโกดังเก็บของบริษัทโลจิสติกส์
นี่เป็นบรรยากาศของถนนซอยพึ่งมี 11 ที่อยู่ด้านหน้าโครงการครับ และฝั่งตรงข้ามก็เป็นโกดังเก็บสินค้า
ส่วนภาพนี้จะเป็นเซเว่นที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุดเพียง 220 m. สามารถเดินมาได้สบายๆ แถมยังมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้ขึ้นไปรถไฟฟ้า BTS ได้อีกด้วย โดยมีราคาอยู่ที่ 20 บาท
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- The People’s Park : 1.8 km.
- Big C Extra On Nut : 2.7 km.
- Lotus Sukhumvit 50 : 3 km.
- The Century Sukhumvit : 3.3 km.
- Summer Hill : 3.9 km.
- Gateway Ekamai : 4.7 km.
- Emporiom : 6.9 km.
- Emshere : 7.3 : 6.8 km.
- Emquartier : 6.8 km.
- True Digital Park : 3 km.
โรงพยาบาล
- Ruamjairak Hospital : 2.4 km.
- Sukhumvit Hospital : 4.5 km.
- Kluaynamthai Hospital : 4.4 km.
- Samitivej Hospital : 7 km.
โรงเรียน
- Bangkok Prep International School : 3.5 km.
- Ekamai International School : 5.9 km.
- Wells International School : 1.8 km.
- Anglo Singapore International School : 2.8 km.
- St. Andrews International School : 4.4 km.
การเดินทาง
- จุดขึ้น-ลง ทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา (สุขุมวิท 50) : 3.5 km.
- จุดขึ้น-ลง ทางด่วนขั้นที่ 2 (สุขุมวิท 62) : 2.5 km.
- สถานีรถไฟฟ้า Bts บางจาก : 1.6 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- เป็นโครงการขนาดเล็ก มีความเป็นส่วนตัวสูงเพียง 8 ยูนิต
- บ้านทุกหลังหันหน้าไปทิศเหนือ-ใต้ ทำให้รับลมได้ดี
- มีรั้วรอบขอบชิดและป้อม รปภ. + Main Gate เหมือนโครงการจัดสรร
- เสาไฟและรางระบายน้ำลงใต้ดินทั้งหมด บรรยากาศสวยงามสบายตา
บ้านภูริปุรี (Baan PuriPuri) คืออะไร?
ถ้าแปลตามความหมาย ‘ภูริ’ หมายความ ภูมิปัญญาและความเจริญรุ่งเรื่อง ส่วนคำว่า ‘ปุรี’ หมายถึง เมืองหรือที่อยู่อาศัย เมื่อนำมารวมกันแล้ว ‘บ้านภูริปุรี’ จึงมีความหมายว่า บ้านที่อยู่แล้วเจริญรุ่งเรือง
สำหรับแบรนด์บ้านภูริปุรีปัจจุบันมีทั้งหมด 7 โครงการแล้วนะครับ โดยโครงการล่าสุดก็คือ บ้านภูริปุรี ลาดพร้าว 41 และ บ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด พัฒนาการ ซึ่งก็ทิ้งช่วงมาเป็นเวลากว่า 5 ปีเลยทีเดียวนะ กว่าที่จะมีโครงการใหม่นี้เกิดขึ้น
เพราะทางผู้พัฒนาไม่ใช่ Developer เจ้าใหญ่ครับ อีกทั้งยังมักจะใช้เวลาในการหาแปลงที่ดินที่เหมาะสม กับแนวคิดของแบรนด์ ‘ภูริปุรี’ ที่จะต้องเป็นโครงการขนาดเล็ก เน้นความเป็นส่วนตัว เป็นบ้านใกล้ตัวเมือง และยังมีการคำนึงถึงทิศทางของบ้านที่เหมาะสมด้วย
เรียกได้ว่า ‘ภูริปุรี’ เป็นแบรนด์บ้านแนวอินดี้ที่เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ และใส่ใจในทุกการออกแบบเลยทีเดียว ซึ่งก็มักจะมีคอนเซ็ปต์ใหม่ๆไม่ซ้ำกันเลยสักโครงการ อีกทั้งยังมักจะเป็นต้นแบบหรือแรงบันดาลใจให้กับนักพัฒนาอื่นๆด้วย
โครงการ Baanpuripuri Sukhumvit 93 (บ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93) เป็นโครงการขนาดเล็กเพียง 8 ยูนิตเท่านั้น จึงมีความเป็นส่วนตัวสูง และแน่นอนว่าไม่ได้เป็นโครงการจัดสรรนะครับ ดังนั้นการทำบ้านเดี่ยวจึงสามารถทำบนที่ดินขนาดต่ำกว่า 50 ตารางวาได้นั่นเอง
นอกจากนี้ยังการวางตำแหน่งให้บ้านทุกหลังจะหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ เพื่อรับลมประจำฤดูให้เกิด Flow Ventilation และความร้อนจากแสงแดดก็จะไม่เข้ามาในบ้านมากเกินไป กลับกันแล้วจะถูกป้องกันด้วยผนังทึบข้างบ้านที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ 2 ชั้นเพื่อป้องกันความร้อนโดยเฉพาะอีกด้วย
และถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่โครงการจัดสรร แต่ก็มีการทำรั้วรอบขอบชิด ด้านหน้ามีป้อม รปภ. และ Main Gate คอยดูแลเรื่องความปลอดภัย แต่จะไม่ได้มี Facilities ให้ใช้งานเหมือนโครงการใหญ่ๆ ซึ่งลูกบ้านก็จะไม่จำเป็นต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้ในอนาคต เว้นแต่ค่าจ้าง รปภ. ที่ก็ขึ้นอยู่กับการตกลงและจัดการร่วมกันของลูกบ้านอีกทีครับ
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าในวันที่เราได้เข้ามาถ่ายรีวิวนี้ กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้างที่ยังไม่แล้วเสร็จดีนัก โดยด้านหน้าทางซ้ายมือจะมีป้อม รปภ. คอยดูแล 24 ชม. และในอนาคตก็จะมี Main Gate มาติดตั้งให้เพิ่มเติม เข้า-ออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียนเพื่อความปลอดภัย
ส่วนภายในโครงการจะมีการนำสายไฟลงใต้ดินทั้งหมด ทำให้ไม่มีสายไฟมาเกะกะสายตาหรือบดบังความสวยงามของบ้านเลยครับ
นอกจากนี้พื้นถนนทั้งหมดจะถูกปูด้วยกระเบื้องเหมือนกับที่จอดรถในบ้าน และตรงขอบถนนเราสังเกตเห็นช่องว่างเล็กๆระหว่างตัวบ้านและถนน เป็นรางระบายน้ำที่ฝังอยู่ใต้ดิน (แทนที่จะเห็นเป็นท่อน้ำตรงฟุตบาทหรือกลางถนนแบบทั่วไป) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อความสวยงามและสามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- รั้วรอบโครงการสูง 2 + 1 เมตร (กำแพงกันดิน + รั้วทึบ) และรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 1.5 เมตร
- ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 8 ม.
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ระบบกล้อง CCTV ที่ Main Gate
- ประตูรั้วโครงการแบบเหล็กรางเลื่อนไฟฟ้า เข้า-ออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน
- เดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ
- ระบบรางระบายน้ำลงใต้ดินทั้งโครงการ
แบบบ้าน
Highlights :
- เน้นความเป็นส่วนตัวสูง โดยเฉพาะการออกแบบช่องแสงที่ไม่เหมือนใคร (และไม่เหมือนกันสักห้องเลย) ทำหน้าที่ควบคู่กับ Pocket Garden ที่ช่วยพรางสายตา และสอดแทรกพื้นที่สีเขียวเข้ามาในบ้าน ทำให้มีความสดชื่นดีมากๆ
- มีการเล่นระดับความสูงของพื้นบริเวณชั้นลอยให้ Slope เป็นชั้นบันไดเหมือนสันเขา ทำให้ไม่บังวิวกันเลย แถมยังได้ความเป็นส่วนตัวจากภายนอกบ้านอีกด้วย
- มีระเบียงขนาดใหญ่ Semi-Outdoor เชื่อมต่อพื้นที่ภายในบ้านและธรรมชาติภายนอก โดยการยกระดับสวนให้สูงขึ้นมาเกือบถึงชั้น 2 ของบ้าน ทำให้ได้บรรยากาศไม่ต่างจากอยู่บ้านชั้น 1 เลย
- ทุกห้องมีขนาดใหญ่หมด ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนและ Common Area ที่คราวนี้ตั้งใจให้เป็นหัวใจสำคัญของการอยู่เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ทุกคนสามารถมาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมร่วมกันได้ดีมากขึ้น
โครงการ Baanpuripuri Sukhumvit 93 (บ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93) ออกแบบมาในสไตล์ Modern ซึ่งโดยภาพรวมค่อนข้างมีเอกลักษณ์ และรายละเอียดที่เยอะกว่าบ้านโมเดิร์นทั่วๆไปพอสมควรครับ แต่ก็ยังไม่ลืมใส่ความเป็นไทยที่เป็นความชอบส่วนตัวของ ‘คุณขจร’ เจ้าของโครงการที่เป็นสถาปนิกเข้าไปในทุกๆโครงการที่เคยได้ออกแบบมา
จุดเด่นจริงๆของโครงการนี้จะอยู่ที่ระเบียง Semi-Outdoor บนชั้นลอย ที่จะเชื่อมต่อทั้ง Common Area ภายในบ้าน และพื้นที่สวนที่อยู่ด้านหลังบ้าน โดยตรงนี้จะมีความละม้ายคล้ายกับโครงการ บ้านภูริปุรี สตรีวิทยา 2 รุ่นพี่ก่อนหน้านี้นั่นเองครับ เพียงแต่ว่าจะขยับฟังก์ชันขึ้นมาอยู่ด้านบนของบ้านแทน เลยทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ยังคงเป็นบ้านที่มีการสอดแทรกพื้นที่สีเขียวเข้าไปในทุกๆชั้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความร่มรื่นและสดชื่นได้ดีแล้ว ยังมีส่วนช่วยพรางสายตาของช่องแสงในบ้านด้วย (เดี๋ยวถ้าไปดูภายในบ้านน่าจะเห็นได้ชัดเจน) เพราะถ้าเรามองจากภายนอกและเงยหน้าขึ้นไป หรือจะเป็นมุมมองจากหน้าต่างบ้านฝั่งตรงข้ามก็ตาม เราแทบจะไม่เห็นภายในบ้านเลยครับ
“..นั่นจึงเรียกได้ว่าบ้านหลังนี้เหมาะกับคนที่ชอบทั้งแสงสว่าง บรรยากาศที่โปร่งโล่ง ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัว แต่ก็ยังต้องการความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยที่สูงมากด้วยนั่นเอง”
โครงสร้างและสเปควัสดุหลักของบ้าน :
- โครงสร้างบ้าน : Conventional ก่ออิฐมอญแดงทั้งหลัง และผนังด้านข้างซ้าย-ขวาเป็น Double Wall ผนัง 2 ชั้นมี Air Gap ตรงกลาง ช่วยป้องกันความร้อนและเสียงจากด้านข้างได้ดีขึ้น
- กำแพงหลังบ้าน : เสริมกำแพงกันดินตรง Garden หลังบ้านอีก 1 ชั้น พร้อม Air Gap และฉนวน เพื่อป้องกันความชื้นจากชั้นดินที่ยกระดับขึ้นมาเข้าสู่ภายในบ้านชั้น 1
- พื้นที่จอดรถ : Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน พร้อมปูกระเบื้องลายหินธรรมชาติ
- ประตูทางเข้าบ้าน : ไม้บานทึบ (ไม้เต็ง) พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock
- โครงสร้างบันได : คอนกรีตเสริมเหล็ก + โครงสร้างเหล็กแบบไม่มีลูกตั้ง โชว์ขั้นบันไดสวยงาม
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้อง Porcelain
- พื้นชั้น 2 – 3 : พื้นไวนิลลายไม้ธรรมชาติ
- ความสูงฝ้าเพดาน : ชั้น 1 = 2.4 m. / ชั้นลอย = 3.6 m. / ชั้น 2 = 2.7 m. / ชั้น 3 = 3 m.
- ประตู-หน้าต่าง : กรอบอลูมิเนียมทำสี + กระจกลามิเนตใสปกติ
- สุขภัณฑ์ : ยี่ห้อ Kohlor พร้อมอ่างอาบน้ำในห้องนอน Master Bedroom
- Pocket Garden : เตรียมงานระบบระบายน้ำ / ระบบรดน้ำ / ระบบไฟส่องสว่าง และระบบ Timer ให้พร้อมใช้งาน (แต่จะไม่ได้ให้ต้นไม้มา สามารถเลือกปลูกเองได้ตามความชอบ)
- เครื่องปรับอากาศ : ติดตั้งเครื่องปรับอากาศระบบ VRV (Variable Refrigerant Volume) ให้ทั้งหลัง
- สัญญาณกันโขมย : ติดตั้งกล้อง CCTV ให้ 2 จุด (พื้นที่จอดรถหน้าบ้าน + ระเบียง Semi-Outdoor หลังบ้าน)
- ระบบไฟฟ้า : แบบ 3 เฟส 30/100 มีช่อง Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger
**หมายเหตุ : หากใครสนใจตกแต่งห้องเหมือนบ้านตัวอย่าง สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมกับทางโครงการได้โดยตรง ซึ่งจะมีทีมช่างและให้คำแนะนำเรื่องเฟอร์นิเจอร์/วัสดุได้ครับ
- บ้านเดี่ยว 3.5 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 37.2 – 44.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 387 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
บ้านหลังนี้จะมีทั้งหมด 3.5 ชั้นให้เราได้ใช้งานครับ (หรือจะเรียกเป็น 4 ชั้นก็ได้) โดยจะแบ่งฟังก์ชันชัดเจนแยกเป็นชั้นๆไปเลย อย่างบริเวณชั้น 1 ก็จะเป็นที่จอดรถ ห้องแม่บ้าน พื้นที่อเนกประสงค์ และ Foyer รวมๆก็เป็นโซน Service นั่นเอง ซึ่งจุดที่น่าสนใจจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ในบ้าน เพราะเราสามารถปรับเป็นพื้นที่อะไรก็ได้ เช่น ห้องเก็บของ ครัวไทย รวมถึงยังสามารถทุบผนังเชื่อมต่อกับโซนแม่บ้าน เพื่อให้สามารถใช้งานต่อเนื่องกันได้สะดวก ส่วนการขึ้น-ลงบ้านจะใช้บันไดเป็นหลักครับ แต่ก็จะมีการเตรียมพื้นที่ให้ติดตั้งลิฟต์เพิ่มเองได้ด้วย
แปลนชั้น 2 (หรือ ชั้นลอย) นับว่าเป็น Highlight ของบ้านหลังนี้เลยครับ จุดเด่นคือระเบียง Semi-Outdoor ขนาดใหญ่ที่อยู่หลังบ้าน ทำหน้าที่เชื่อมต่อพื้นที่สวนภายนอก และพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังมีการเล่นระดับความสูงของพื้นที่ได้น่าสนใจด้วย โดยชั้นนี้ก็จะเป็นโซนทำกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัว และยังสามารถใช้รับแขก-จัดปาร์ตี้สังสรรค์ร่วมกันหลายๆคนได้อีกด้วย ถือว่าเป็นชั้นที่มีความน่าใช้งานที่สุดเลย (ปกติการออกแบบนี้มักจะอยู่ที่ชั้น 1 ของบ้านทั่วไป แต่โครงการนี้ยกขึ้นมาอยู่บนชั้น 2 เลยทำให้มีความเป็นส่วนตัวกว่าที่เคยเยอะเลยครับ)
แปลนชั้น 3 – 4 จะเป็นชั้นพักอาศัยที่ประกอบด้วยห้องนอน 4 ห้อง โดยห้องที่อยู่โซนด้านหน้าบ้านจะมีขนาดใหญ่เท่าๆกันเลยครับ จะเรียกว่าเป็น Double Master Bedroom เลยก็ว่าได้ แต่ถ้าเป็นห้องชั้น 3 ก็ดูน่าจะเป็นห้องหลักที่สุดนะ เพราะห้องน้ำจะได้เป็นอ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้า His&Her ด้วยนั่นเอง แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆคือ ด้วยความที่โครงสร้างเป็นผนังก่ออิฐ เลยทำให้เราสามารถทุบผนังเพื่อขยายห้องนอนให้ใหญ่เต็มชั้นไปเลยก็ได้ จึงมีความยืดหยุ่นที่เหมาะกับทั้งครอบครัวขนาดเล็ก-กลางที่มีสมาชิกตั้งแต่ 3 – 5 คน นั่นเองครับ
เริ่มกันที่บริเวณหน้าบ้าน คือเราต้องบอกก่อนว่าโครงการนี้ไม่ได้มีประตูรั้วบ้านมาให้นะครับ อารมณ์คล้ายๆกับบ้านของฝรั่งในต่างประเทศนั่นแหละ (แต่ใครจะติดตั้งเพิ่มเติมเองก็ได้) เพราะเนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็กและก็เพื่อความสวยงาม โดยที่หน้าโครงการก็มีทั้ง Main Gate + รปภ. คอยดูแล 24 ชม. และบ้านแต่ละหลังก็จะติดตั้งกล้อง CCTV มาให้เป็นมาตรฐานความปลอดภัยระดับหนึ่งอยู่แล้วนั่นเอง
พื้นที่จอดรถจะเป็นโครงสร้าง Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน พร้อมปูกระเบื้องลายหินธรรมชาติแบบนี้เลยครับ โดยที่จอดรถใต้ชายคาจะมีความกว้างอยู่ที่ 5.35 m. + ด้านข้างบ้านอีกประมาณ 3 m. ทำให้สามารถจอดรถรวมได้ 3 คันสบายๆ
ขวามือจะมีทางที่เชื่อมต่อไปยังโซนแม่บ้านครับ
บริเวณนี้จะประกอบด้วยห้องนอนแม่บ้าน + ห้องน้ำ แยกออกมาเป็นส่วนตัวจากโซนของเจ้าของบ้านเลยครับ รวมถึงบริเวณหน้าห้องก็จะมีพื้นที่ให้ทำเป็นครัวไทยหรือ Laundry เล็กๆเพิ่มได้อีกด้วย ส่วนขวามือเราสามารถเจาะผนังเพื่อเชื่อมต่อไปยังห้องอเนกประสงค์ในบ้านได้ครับ (เหมือนกับที่อธิบายไปในช่วงแปลน)
ทางเข้าบ้านหลักจะเป็นโซนที่กรุด้วยไม้เต็งสวยงามแบบนี้เลยครับ ส่วนผนังอีกครึ่งหนึ่งก็จะกรุเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนแบบบ้านตัวอย่างเลย
ประตูติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เป็นมาตรฐาน รวมถึงมีกล้อง CCTV มาให้ด้วย 2 จุด คือตรงโซนจอดรถหน้าบ้าน และตรงระเบียง Semi-Outdoor ที่อยู่หลังบ้าน
อีกหนึ่ง Gimmick เล็กๆ ที่แสดงถึงความใส่ใจในการออกแบบของโครงการได้ดีคือ เค้าจะมีช่องงานระบบเล็กๆ ซ่อนอยู่ด้านหลังผนังไม้เต็งแบบนี้ด้วยครับ ซึ่งจะช่วยซ่อนพวกสายไฟ/งานระบบของ EV Charger ให้ผนังดูเรียบร้อยสวยงามแบบนี้นั่นเอง
เข้าประตูมาด้านในเราจะเจอกับ Foyer หรือโถงต้อนรับก่อนเป็นอันดับแรก แน่นอนว่าเราจะยังไม่ได้เห็นฟังก์ชันอื่นๆอีกในชั้นนี้เลย จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากๆ โดยบริเวณนี้เราก็สามารถเพิ่มชั้นวางรองเท้าได้นะครับ
ผนังกระจกด้านข้างจะมีบานประตูซ่อนอยู่ ภายในจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ฝ้าสูงประมาณ 2.4 m. เหมือนบ้านปกติเลย (ตำแหน่งจะอยู่บริเวณใต้ระเบียงและบันได) ซึ่งสามารถใช้งานได้เต็มที่ตามปกติ เช่น ห้องเก็บของ ห้องงานระบบ หรือห้องครัวขนาดใหญ่ เป็นต้น
และตรงบริเวณนี้เองที่เราบอกว่าสามารถทุบผนัง เพื่อเชื่อมต่อกับโซนแม่บ้านก่อนหน้านี้ได้ ซึ่งหากเราทำห้องอเนกประสงค์ให้เป็นครัวไทยขนาดใหญ่ ก็จะทำให้แม่บ้านมีพื้นที่ทำงานต่อเนื่องกันได้ดีมากขึ้นนั่นเองครับ
เราพาดูรายละเอียดโครงสร้างเพิ่มสักหน่อย ด้วยความที่ผนังด้านหลังของห้องอเนประสงค์เป็นเนินดินของสวนที่อยู่ภายนอก จึงทำให้ห้องนี้ไม่ต่างจากห้องที่อยู่ชั้นใต้ดิน
ดังนั้นทางโครงการจึงมีการเสริมกำแพงกันดินที่เป็นคอนกรีตก่อนชั้นหนึ่ง ก่อนที่จะก่อผนังอิฐมอญที่มี Air Gap ตรงกลาง พร้อมเสริมฉนวนกันความชื้นต่างๆ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาในอนาคตนั่นเองครับ
การขึ้น-ลงบ้านหลักๆจะเป็นบันไดปกติ แต่ถ้าใครต้องการความสะดวกมากกว่านั้น ทางโครงการก็ได้เตรียมพื้นที่ติดตั้งลิฟต์โดยสารมาให้แล้วครับ โดยของจริงก็จะเป็นช่องเปล่าๆแบบนี้ ใครที่ไม่ได้ติดลิฟต์ก็สามารถจัดเป็นมุมอเนกประสงค์อื่นๆได้ตามต้องการ
บันไดบ้านจะมีทั้ง 2 โครงสร้างผสมกันเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก + โครงเหล็ก
แต่ที่เราชอบมากๆก็คือ ‘ช่องแสงขนาดใหญ่’ ซึ่งเค้าจะเน้นเปิดโล่งทางโซนหลังบ้านเป็นพิเศษ แตกต่างจากตอนหน้าบ้านที่แทบจะไม่มีช่องเปิดใหญ่ๆแบบนี้เลย เพราะหลังบ้านจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า นั่นเลยทำให้ได้บรรยากาศที่สว่างโปร่งโล่งแบบนี้ อีกทั้งยังออกแบบให้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนทั้งหมด ในวันที่อากาศดีๆก็สามารถเปิดรับลมเย็นๆได้เต็มที่เลยครับ
อีกด้านหนึ่งจะเป็นปล่องลิฟต์ ซึ่งทางโครงการได้ Built-in เป็นคอนโดแมวน่ารักๆมาให้ดูเป็นไอเดีย หรือใครจะทำเป็นมุมอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ ซ้ายมือเป็นประตูกระจกที่จะติดตั้งมาให้แบบนี้เลย ทำให้ช่วยกันแอร์ไม่ให้ไหลออกมาที่บันไดได้ครับ
เข้ามาเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ฝ้าเพดานสูง 3.6 m. เลยทำให้มีความโปร่งโล่งเป็นพิเศษ ส่วนพื้นจะปูด้วยไวนิลลายไม้ธรรมชาติ
อ่ะ!! ..สงสัยมั้ยครับว่าทำไมเค้าถึงให้สเปควัสดุนี้? คือจากที่คุยกับทางโครงการมาได้ข้อมูลว่า ลูกค้าเก่าๆส่วนใหญ่ที่ซื้อบ้านของภูริปุรีไป ชอบที่จะตกแต่งบ้านเอง และมักจะมีการรื้อพื้นใหม่ด้วย
ดังนั้นทางโครงการเลยเลือกที่จะใช้เป็นสเปคพื้นมาตรฐานทั่วไป ที่ใช้งานได้ดี แต่ถึงจะรื้อทิ้งไปก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไรมากนัก รวมถึงยังเป็นการลดต้นทุน ทำให้ราคาบ้านเข้าถึงง่ายมากขึ้น และลูกค้าก็จะได้ไม่ต้องเสียงบเกินความจำเป็นนั่นเอง
พื้นที่โซนแรกจะเป็น Living Area สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้เต็มที่ ระยะดูทีวีกว้างถึง 5.2 m. สามารถใช้จอทีวีขนาดใหญ่สุดได้สบายๆ
แต่สิ่งที่เราชอบมากที่สุดคือ ช่องแสงขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณด้านข้าง ซึ่งเราสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติภายนอกได้เต็มที่เลยครับ
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นโซน Dinning Area สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ 8 – 10 ที่นั่งได้สบายๆ โดยปริมาณพื้นที่ของ Common Area นี้ทั้งหมด สามารถจุคนได้เยอะมาก ใครที่ชอบปาร์ตี้สังสรรค์ หรือนัดเพื่อนๆให้มารวมตัวกันที่บ้านอยู่แล้วก็เหมาะมากเลยครับ
และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ‘ช่องแสง’ โดยชั้นนี้เรียกได้ว่าจัดเต็มมาให้เกือบทั้งผนัง เลยมีความสว่างโปร่งโล่งและเปิดรับแสงได้เต็มที่ แต่ก็ไม่เสียความเป็นส่วนตัว เพราะภายนอกจะมี Pocket Garden ช่วยพรางสายตาและเพิ่มความสดชื่นให้ภายในบ้านอยู่ครับ (ต้นไม้ทางโครงการได้ไม่ให้มานะ สามารถหาซื้อมาลงเองได้ตามต้องการ)
ขวามือจะเป็นโซน Kitchen ซึ่งของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ (พื้นจะเปลี่ยนวัสดุเป็นกระเบื้องมาให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายแบบนี้เลย) รวมถึงเตรียมท่องานระบบเอาไว้ให้แล้ว และเราสามารถ Built-in เพิ่มเติมได้เอง โดยจะทำเป็นครัวฝรั่งเปิดโล่งแบบนี้ก็ได้ หรือจะกั้นผนังเป็นครัวปิดไปเลยก็ได้อีกเช่นกัน
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ ที่เอาไว้ใช้งานร่วมกันของพื้นที่ Common Area
ภายในเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room คือจะไม่ได้มีส่วนอาบน้ำ แต่ก็จะได้สุขภัณฑ์จาก Kohler ครบเหมือนบ้านตัวอย่างเลยครับ และที่เราชอบมากๆคือ ห้องน้ำทุกห้องจะมีช่องเก็บของอยู่ด้านหลังกระจกแบบนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณพื้นที่เก็บของได้ดี แถมยังดูเรียบร้อยอีกด้วย รวมถึงด้านบนเพดานก็จะมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้ด้วยครับ
ต่อไปเราจะมาดู Highlight ของบ้านหลังนี้ก็คือ ระเบียงแบบ Semi-Outdoor ซึ่งจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนขนาดใหญ่แบบนี้ และสามารถเปิดออกเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ภายใน-ภายนอกของตัวบ้านได้เป็นอย่างดี
ระเบียง Semi-Outdoor จะเป็นพื้นที่ลดระดับลงจากในตัวบ้าน เลยทำให้เวลาที่เรามองออกมาจากด้านในก็จะไม่บังวิวกันเอง โดยของจริงเราจะได้เป็นพื้นที่เปล่าโล่งๆ ให้สามารถมาจัดฟังก์ชันได้เองตามต้องการ เช่น พื้นที่โซฟานั่งเล่นขนาดใหญ่แบบนี้ หรือจะเป็นมุมดินเนอร์ BBQ. ฯลฯ แต่สิ่งที่เราจะได้มาแน่ๆก็คือ พัดลมขนาดใหญ่ และกล้อง CCTV บนฝ้าเพดานนั่นเองครับ
หากมองจากมุมนี้ย้อนกลับไปด้านใน จะเห็นได้ว่าพื้นบ้านชั้นนี้จะมีการเล่นระดับความสูง ตั้งแต่กระถางต้นไม้หน้าบ้าน พื้นที่ในบ้าน ระเบียง และสวนภายนอก คิดง่ายๆว่าคล้ายกับ Slope ของสันเขานั่นเองครับ ซึ่งช่วยในเรื่องมุมมองที่ไม่บังวิวกันเอง ได้ความเป็นส่วนตัว และยังช่วยให้เกิด Ventilation ของลมที่ดีอีกด้วย
พูดถึงเรื่องลมแล้ว ถ้าเราเปิดประตูและหน้าต่างของหน้าบ้าน + หลังบ้านพร้อมๆกัน แน่นอนว่าจะมีลมพัดผ่านและถ่ายเทอากาศได้ดีมากๆ เนื่องจากทางสถาปนิคได้คำนึงถึงทิศทางการวางผังบ้านให้หันไปทิศเหนือ-ใต้ ที่จะรับลมประจำฤดูได้เต็มที่แล้ว
แต่จริงๆแล้วถึงแม้ว่าจะไม่ต้องเปิดประตู-หน้าต่าง พื้นที่ตรงระเบียงนี้ก็มีลมพัดตลอดเวลาอยู่แล้วนะครับ นั่นเป็นเพราะเค้าได้ออกแบบให้มีช่องลมอยู่ด้านข้างบ้านให้ลมพัดผ่านได้อยู่แล้วนั่นเอง (อันนี้คอนเฟิร์มจากตอนที่ไปถ่ายมาของจริงด้วยตัวเองเลย มีลมพัดเย็นแทบจะตลอดเวลา)
สวนหลังบ้านจะเป็นพื้นดินที่ถูกปรับระดับให้สูงขึ้นมา ซึ่งช่วยให้เราสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวจากในบ้านบนชั้น 2 แบบนี้ได้เหมือนกับเราอยู่ชั้น 1 เลยครับ แน่นอนว่าเราสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ๆได้เต็มที่เหมือนปลูกลงพื้นดินปกติ (ของจริงทางโครงการจะไม่ได้จัดสวนมาให้ แต่จะปรับระดับดินและเตรียมงานระบบไว้ครับ)
มองขึ้นไปด้านบนเราจะเห็นว่า จะมีชายคายื่นออกมาอีกทีคือชั้นบนสุดโน่นเลยครับ เพราะเค้าตั้งใจให้เราสามารถปลูกต้นไม้ทรงสูงได้ อนาคตบริเวณพุ่มไม้/ยอดต้นไม้จะสามารถสูงขึ้นไปจนถึงหน้าต่างห้องนอนชั้นบนได้ และทำให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นนั่นเอง
บันไดบ้านของชั้นนี้จะเป็นโครงเหล็กแบบไม่มีลูกตั้ง เนื่องจากเค้าต้องการโชว์ความสวยงามและให้เกิดความโปร่งโล่งมากที่สุด โดยนี่เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันการออกแบบที่สามารถพบเห็นได้ในทุกโครงการของบ้านภูริปุรีเลยครับ
นอกจากทางด้านข้างยังมีช่องกระจกให้สามารถมองเห็นสวนและระเบียงได้ รวมถึงยังติดตั้งไฟส่องสว่างเอาไว้ที่ผนังเพื่อการใช้งานที่สะดวกและปลอดภัยตอนกลางคืนด้วย
ขึ้นมาบนชั้น 3 เราจะเจอกับ Master Bedroom ซึ่งต้องบอกก่อนว่าของจริงจะมีผนังทึบตรงกลาง ที่แบ่งฟังก์ชันออกเป็น 2 ห้องนอนออกกจากกัน แต่ถ้าใครที่เป็นครอบครัวขนาดเล็ก หรือต้องการขยายห้องนอนให้มีพื้นที่ใหญ่ขึ้น ก็สามารถทุบผนังออกเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่กันได้แบบบ้านตัวอย่างนี้เลยครับ
เริ่มที่โซนหลังบ้านด้านซ้ายมือจะถูกจัดเป็น Family Area และพื้นที่โต๊ะทำงาน ซึ่งจะกลายเป็นพื้นที่ที่นอกจากเจ้าของห้องแล้ว สมาชิกคนอื่นๆในบ้านก็สามารถมามีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันได้ด้วยนะ
แต่ต้องบอกก่อนว่า บ้านมาตรฐานของจริงจะมีพื้นที่ห้องน้ำด้วยครับ (ซึ่งก็คือโซนชั้นวางทีวีนี่แหละ) แต่บ้านตัวอย่างได้นำออกไปเพื่อขยายพื้นที่ให้ดูเป็นไอเดียว่า เราสามารถทำให้ห้องกว้างได้เต็มที่แบบนี้เลยนั่นเอง
อีกด้านหนึ่งจะเป็นโซนห้องนอนที่อยู่ทางฝั่งด้านหน้าบ้าน ซึ่งก็มีขนาดกว้างมากพอที่จะแบ่งพื้นที่เป็นโซนเตียงนอน และโซน Walk-in Closet ได้สบายๆเลย
จุดเด่นหนึ่งที่น่าสนใจของห้องนี้ก็คือ ตรงหน้าต่างจะมี Pocket Garden ให้ปลูกต้นไม้เพิ่มความชดชื่น และเรายังชอบที่เค้าก่อผนังทำกระถางปลูกต้นไม้เป็นทรงสูงขึ้นมา จึงช่วยในเรื่องความเป็นส่วนตัวของห้องนอนได้ดีอีกด้วย
โดยภายนอกเค้าจะเตรียมงานระบบต่างๆเอาไว้ให้พร้อมเลย เหลือแค่เราหาต้นไม้ที่ชอบมาปลูกเท่านั้น และเราก็ชอบที่เค้าจัดฟังก์ชันนั่งเล่นอยู่ติดหน้าต่างแบบนี้มาก ทำให้กลายเป็นอีกมุมหนึ่งที่น่าใช้งานที่สุดของห้อง หรือใครมีไอเดียจะปรับเป็นฟังก์ชันอื่นๆตามต้องการก็ได้นะ
ไหนๆก็พูดถึง Pocket Garden แล้ว เราขอพูดเสริมถึงแนวคิดการออกแบบ Facade หน้าบ้านไปด้วยเลย คืออย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าทางเจ้าของที่เป็นสถาปนิก เค้าชอบเอกลักษณ์ความเป็นไทยมากๆ ดังนั้นโครงการบ้านภูริปุรีทุกๆแห่งจะมีการสอดแทรก Element ที่มาจากสถาปัตยกรรมไทยเอาไว้อยู่เสมอ
อย่างบ้านหลังนี้ตรง Pocket Garden จะได้แรงบันดาลใจมาจากโอ่งมังกรที่อยู่ใต้ถุนบ้าน รวมถึงมีการตีระแนงไม้เทียมปิดผนังภายนอกตัวบ้านด้วย ซึ่งก็มาจากเรือนไทยสมัยก่อนที่มักจะสร้างบ้านด้วยไม้นั่นเอง รวมถึงยังมีการทำผนังบ้านที่เป็นครีบ (หรือ Fin) ยื่นออกมา เพื่อช่วยบังแสงแดดอีกด้วยครับ
มาต่อกันที่โซน Walk-in Closet เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าเพื่อแบ่งโซนการใช้งานให้เป็นสัดส่วนแบบนี้ หรือจะเปิดพื้นที่โล่งให้ห้องดูกว้างขวางไปเลยก็ได้
แต่สำหรับห้องน้ำเค้าจะออกแบบให้ไม่มีประตูหรือผนังกั้นแบบนี้เลยครับ ทำให้มีความโปร่งโล่ง แต่ถ้าใครที่อยากได้ความเป็นสัดส่วนหรือความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็สามารถเพิ่มผนังหรือประตูเองได้นะ
ซ้ายมือจะเป็นโซน Shower ซึ่งจะมีการกั้นผนังกระจกมาให้เป็นสัดส่วนแบบนี้เลย ทำให้เวลาอาบน้ำก็จะได้ไม่กระเด็นเปียกออกมาภายนอก
ภายในมีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานทั้งอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว Rain Shower และ Hand Shower โดยที่ตัวก๊อกน้ำจะถูกติดตั้งให้อยู่ฝั่งตรงข้ามแทน
ซึ่งก็มีไอเดียมาจากที่ว่า ในบางครั้งที่เราจะอาบน้ำปกติหรือน้ำอุ่น เราอาจยังไม่อยากให้น้ำเปียกโดนตัวทันทีเลยก็ได้ เคยเป็นกันมั้ยครับที่เราจะต้องหันฝักบัวเข้าหาผนังหรือหันไปจากตัวก่อน เพื่อรอให้น้ำได้อุณหภูมิตามที่ต้องการแล้วถึงจะเริ่มอาบ..อะไรประมาณนั้น
ฝั่งตรงข้ามเป็นโซนโถสุขภัณฑ์ที่จะกั้นผนังกระจกมาให้เป็นสัดส่วนแบบนี้เลยครับ ซึ่งเราจะได้เป็นโถสุขภัณฑ์แบบปกติ แต่ถ้าใครอยากจะเปลี่ยนเป็นโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติก็สามารถทำได้ง่ายมาก เพราะเค้าได้ติดตั้งปลั๊กไฟเตรียมไว้ให้ทุกห้องเลย ส่วนด้านบนก็จะมีพัดลมดูดอากาศให้ด้วยนะ
ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดกันแล้ว แน่นอนว่าเราจะเจอกับพื้นที่ปล่องลิฟต์ด้านหน้าอีกเช่นเคย แต่ถ้าใครไม่ได้ติดลิฟต์เพิ่มก็ทำเป็นมุมวางหิ้งพระแบบนี้ก็ได้ ส่วนอีกด้านจะเป็นประตูห้องนอน 2 ห้อง (จริงๆชั้นของห้อง Master Bedroom ก็จะแบ่งเป็นประตู 2 บานแบบนี้แหละครับ)
เรามาเริ่มกันที่ห้องนอนที่อยู่โซนหน้าบ้านก่อน จุดที่น่าสนใจคือ ‘ช่องแสง’ อีกแล้วครับ เพราะเค้าจะติดตั้งไว้ค่อนข้างสูงจากพื้นเลย (ชั้นนี้ฝ้าจะสูง 3 m.) เนื่องจากไม่ได้เน้นวิว แต่ต้องการแค่แสงสว่างและความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก
ติดกันจะมีพื้นที่ให้ทำเป็นมุม Living ไว้นั่งพักผ่อนได้ด้วยนะ
ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เป็นห้องน้ำและยังสามารถแบ่งพื้นที่ทำเป็น Walk-in Closet บอกเลยว่าขนาดห้องนี้จริงๆไม่ได้เล็กเลย ก็เท่าๆกับห้อง Master Bedroom ชั้นล่างเลยครับ
ตรงธรณีประตูห้องน้ำจะมีการใช้วัสดุที่เป็นหินเนื้อหยาบ เพื่อช่วยกันลื่นเวลาเดินผ่านเข้า-ออก รวมถึงตรงบานประตูยังมีการทำช่องระบายอากาศเล็กๆ ให้ลมสามารถ Flow ผ่านได้อีกด้วย
ภายในห้องน้ำจะมีจุดเด่นอยู่ตรง Pocket Garden ที่หากเราปลูกต้นไม้แบบนี้แล้ว ก็จะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นมากๆเลยครับ แน่นอนว่าผนังด้านนอกจะก่อสูงขึ้นมา เพื่อยังคงให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการใช้งานนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีการทำเป็นที่นั่งอาบให้ใช้งานด้วยครับ โดยใครที่มีผู้สูงอายุหรือคุณพ่อคุณแม่อาศัยอยู่ด้วยก็น่าจะเหมาะกับห้องนี้นะ ส่วนภายนอกเค้าจะเตรียมดินและงานระบบมาให้เช่นเคย ซึ่งเราสามารถหาต้นไม้มาปลูกได้เองตามชอบเลย
สำหรับห้องนอนสุดท้ายจะอยู่โซนด้านหลังบ้าน ซึ่งก็มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับบ้านทั่วไปเลยครับ จุดเด่นคือ ‘ช่องแสง’ ที่คราวนี้จัดเต็มแบบบานใหญ่เกือบทั้งผนัง เพราะโซนหลังบ้านจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งที่ได้ความเป็นส่วนตัวอยู่แล้วนั่นเอง
อีกด้านหนึ่งของห้องสามารถจัดเป็นมุมอเนกประสงค์ และมุมแต่งตัวได้
และสุดท้ายจะเป็นห้องน้ำส่วนตัวให้ใช้งานแบบนี้ครับ ภายในก็แบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนมาตรฐานเหมือนห้องน้ำทั่วไป
Shower จะกั้นผนังกระจกมาให้แบบนี้ มาพร้อม Rain Shower และช่องแสงให้เปิดระบายอากาศได้เต็มที่
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า
ราคา
Baanpuripuri Sukhumvit 93 (บ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93) ราคาเท่าไหร่ (ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568)
ราคาผ่อนต่อเดือนยกตัวอย่างจาก ดอกเบี้ย 4% ระยะเวลาผ่อน 30 ปี*
สามารถคลิกดูอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันได้ที่ >> อัปเดต! ดอกเบี้ยบ้าน 2568 ทุกธนาคาร
- บ้านเดี่ยว 3.5 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 37.2 – 44.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 387 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 30.7 ล้านบาท - ค่าจอง 100,000 บาท
- ค่าทำสัญญา 600,000 บาท
- โปรโมชั่น : ส่วนลดต่างๆ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โครงการโดยตรง
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
Tips : แนะนำการขอสินเชื่อกับธนาคาร
เกณฑ์การพิจารณาการขอสินเชื่อจากธนาคาร ควรมีเงื่อนไขตรงกับข้อไปนี้
- มีรายรับชัดเจน สม่ำเสมอ(ไม่ผันผวน) ต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือน และสามารถตรวจสอบได้
- ควรมีภาระหนี้รวมทั้งหมด (ทั้งบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต และอื่นๆ) ไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
- มีรายได้ต่อเดือนมากกว่าค่าผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน 3 เท่าขึ้นไป
หากต้องการผ่อนบ้านให้หมดไว แนะนำให้โปะเพิ่มประมาณ 10% ของงวดผ่อน จะช่วยลดระยะเวลาผ่อนลงได้ 4 – 7 ปี (ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ย) และควร Refinance หรือ Retention เพื่อให้ดอกเบี้ยลดลงทุกๆ 3 ปี ทั้งนี้อย่าลืมเผื่อค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและตกแต่ง*ก่อนเข้าอยู่เพิ่มเติมด้วยนะ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
>>โปะบ้านหมดไว คำนวณได้เอง
>>โอนบ้านจบ อย่าใช้เงินหมด! ค่าใช้จ่ายแฝงเพียบ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการ บ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93 ตั้งอยู่ในย่านบางจาก-พระโขนง สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS บางจาก 1.6 km. และทางด่วนเฉลิมมหานคร 2.9 km. รวมถึงยังมีความอุดมสมบูรณ์ หาของกินได้ไม่ยาก ซึ่งตัวโครงการนี้จะตั้งอยู่ภายในซอยตันเล็กๆอีกที ทำให้มีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ด้านหน้ามีป้อม รปภ. พร้อมประตู Main Gate ที่เปิด-ปิดด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน รวมถึงยังมีกล้อง CCTV และรั้วรอบขอบชิดไม่ต่างจากโครงการจัดสรรขนาดเล็กเลยครับ แต่ต้องอธิบายเพิ่มเติมก่อนว่า รปภ. หรือแม้แต่ระบบการจัดการทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับลูกบ้านในอนาคต ว่าจะจ้าง รปภ. เป็นรายเดือนต่อไปหรือจะใช้แค่ Main Gate ก็ได้
จุดที่ต้องคำนึงเพิ่มเติมก็คือ ‘ความปลอดภัยในตัวบ้านแต่ละหลัง’ เพราะโครงการนี้เค้าจะไม่ได้ให้ระบบรักษาความปลอดภัยหรือสัญญาณกันขโมยอื่นๆในบ้านมาเลย นอกจากมีกล้อง CCTV มาให้ 2 จุดเท่านั้น ซึ่งเราอาจต้องหามาติดตั้งเพิ่มเติมเองตามต้องการ
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่โครงการนี้ไม่เหมือนที่อื่นก็คือ เค้าจะไม่ได้ติดตั้งประตูรั้วของบ้านแต่ละหลังมาให้ครับ (บอกก่อนว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเมืองนอกก็มีแบบนี้เยอะ แถมเราเองก็เคยเจอในโครงการ Luxury แห่งหนึ่งในไทยมาบ้างแล้ว) ซึ่งเป็นการออกแบบเพื่อความสวยงาม และเป็นสังคมเล็กๆที่เพื่อบ้านน่าจะสนิทกันดีได้ไม่ยาก ถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยเพิ่มเติม หรืออาจเป็นบ้านที่มีเด็กหรือสุนัขก็สามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้เองนะครับ
การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการขนาดเล็กที่มีเพื่อนบ้านเพียง 8 หลังเท่านั้น จึงมีความเป็นส่วนตัวสูง โดยที่ดินผืนนี้ทางโครงการได้เลือกมาแล้วว่า สามารถตำแหน่งบ้านทุกแปลงให้หันไปในทิศเหนือ-ใต้ เพื่อให้รับลมประจำฤดูได้ดี อีกทั้งยังทำให้แดดไม่ส่องเข้าหน้าบ้านหรือหลังบ้านแบบตรงๆ จึงป้องกันเรื่องความร้อนที่จะเข้ามาสู่ตัวบ้านได้ด้วยนั่นเอง นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่า ทำบ้านภูริปุรีนานๆถึงจะทำโครงการสักที เพราะเค้าใส่ใจและต้องศึกษาเฟ้นหาที่แปลงดินที่เหมาะสมให้เจอก่อนนั่นเอง
การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : พื้นที่ใช้สอยเยอะ และแบ่งฟังก์ชันการใช้งานออกเป็นชั้นแยกออกจากกันชัดเจน Highlight หลักจะอยู่ที่ชั้น 2 (หรือชั้นลอย) ที่จะมีการเล่นระดับความสูงของพื้นเป็นขั้นบันได Slope แบบเชิงเขา ทำให้ได้ทั้งความเป็นส่วนตัวและไม่บังวิวกันเอง โดยพื้นที่ Living Area เป็นส่วนที่ผู้ออกแบบตั้งใจให้คล้ายกับโครงการรุ่นแรกๆ (Back to basic) ที่อยากให้มีพื้นที่ใช้งานร่วมกันขนาดใหญ่ของทุกคนในครอบครัวได้แบบจริงๆและอบอุ่น (ไม่ได้แยกเป็นส่วนตัว หรือมีความซับซ้อนของฟังก์ชันมากเกินไปเหมือนบางโครงการ)
แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นที่สุดคือ ระเบียง Semi-Outdoor ที่เชื่อมต่อพื้นที่ภายในและธรรมชาติภายนอก โดยเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่เราสามารถจัดเป็นฟังก์ชันตาม Lifestyle ที่ชอบได้เลย รวมถึงยังเป็นพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัว และมีลมพัดผ่านอยู่เสมอ จึงมีความน่าใช้งานแบบสุดๆ แต่ที่เราชอบมากๆคือ การยกระดับความสูงของสวนให้ขึ้นมา ทำให้ได้บรรยากาศไม่ต่างจากเราใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านชั้น 1 แต่ในเวอร์ชั่นที่เป็นส่วนตัวมากกว่าเยอะ
นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดของการออกแบบช่องแสงที่ไม่ซ้ำกันเลยซักห้อง ซึ่งเกิดจากการคำนึงถึงมุมมองและความเป็นส่วนตัวจากภายนอกเอาไว้อย่างละเอียด แต่ยังคงได้ความสว่างโปร่งโล่งและระบายอากาศได้ดี รวมถึงยังมี Pocket Garden ที่สอดแทรกเอาไว้ในทุกๆชั้น ทำให้มีความสดชื่นและช่วยพรางสายตาได้ดีอีกด้วย ภาพรวมของบ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93 จึงเป็นโครงการที่เหมาะกับคนชอบงานดีไซน์และฟังก์ชันบ้านที่ไม่เหมือนใคร ใช้งานได้ดี เป็นส่วนตัว และผสานเข้ากับธรรมชาตินั่นเองครับ
วัสดุ : เรื่องงานโครงสร้างหลักๆให้มาดีเลยครับ โครงสร้างบ้านเป็นก่ออิญมอญ ที่หากเป็นผนังด้านข้างจะเป็น Double Wall 2 ชั้นที่มี Air Gap ตรงกลางที่ช่วยป้องกันความร้อนและเสียงได้ดี อีกทั้งยังใส่ใจรายละเอียดของผนังชั้น 1 ที่เสริมกำแพงกันดินและฉนวนเข้ามาเพื่อป้องกันความชื้นของดินภายนอกอีกด้วย
โครงสร้างบันไดมีทั้งโครงเหล็กและคอนกรีตเสริมเหล็ก ช่องแสงก็มีขนาดใหญ่ และสุขภัณฑ์ก็ได้เป็นของ Kohlor นอกจากนี้เรายังชอบพวกงานปิดผิวของผนังภายนอกด้วยครับ ได้แก่ กระเบื้องลายหินอ่อน ไม้เต็ง และไม้เทียม เป็นต้น
แต่หากเป็นงานพื้นจะใช้วัสดุไวนิลลายไม้ ซึ่งอย่างที่เราเกริ่นไปแล้วว่า คนที่ซื้อบ้านภูริปุรีส่วนใหญ่มักจะชอบแต่งบ้านเองอยู่แล้วนั่นเอง รวมถึงยังอาจต้องเตรียมงบในการทำครัวและอาจติดลิฟต์โดยสารส่วนตัวเพื่อความสะดวกในการใช้งานเพิ่มก็ได้ครับ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : มีการนำสายไฟลงใต้ดินและปูพื้นถนนทั้งโครงการเป็นกระเบื้องทั้งหมด ทำให้ดูเรียบร้อยสวยงามดีทีเดียว รวมถึงยังมีรายละเอียดของการทำรางน้ำที่ฝังใต้ดินสวยงาม ซึ่งจะไม่ได้เห็นเป็นท่อที่โผล่ขึ้นมาตามฟุตบาทหรือกลางถนนแบบทั่วไปด้วยครับ แต่ในส่วนของพื้นที่สีเขียวอาจมีแค่ภายในบ้านเท่านั้น โดยทางโครงการจะไม่ได้ปลูกต้นไม้มาให้เป็นมาตรฐาน ลูกบ้านจะสามารถหามาปลูกเพิ่มได้เองตามต้องการ และถ้าบ้านทุกหลังปลูกต้นไม้ตรง Pocket Garden ที่เตรียมไว้ให้จนเต็ม ก็จะทำให้ภาพรวมมีความสวยงามและเป็นธรรมชาติได้ครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 42.5%, ความปลอดภัย 17.5%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 17.5%, วัสดุ 12.5% และพื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 12.5%
เทียบกับแพคเกจ 30.7 ล้านบาท, 25 พฤศจิกายน 2568
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – อยู่ภายในซอย เงียบสงบ ใกล้ร้านสะดวกซื้อ เข้าออกได้หลายเส้นทาง มีตัวเลือกทั้ง BTS บางจาก และทางด่วนเข้าเมืองง่าย
- ความปลอดภัย 7/10 – มีรั้วรอบโครงการและ Main Gate จดจำป้ายทะเบียน รวมถึงยังมี CCTV ในบ้าน แต่จะไม่ได้มีประตูรั้วบ้านหรือสัญญาณกันขโมยอื่นๆมาให้
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9.5/10 – เน้นความเป็นส่วนตัว ออกแบบโดยคำนึงถึงทิศทางลมและแสงมาแล้ว ฟังก์ชันและพื้นที่เล่นระดับไม่เหมือนใคร พื้นที่ใช้สอยเยอะและน่าใช้งาน มีการสอดแทรกพื้นที่สีเขียวทุกจุด
- วัสดุ 8/10 – ผนังก่ออิญมอญและ Double Wall ช่องแสงใหญ่ พื้นไวนิลเพื่อไว้แต่งเองต่อได้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 – สายไฟลงดิน ปูพื้นถนนเป็นกระเบื้อง ซ่อนท่อน้ำสวยงาม ความเป็นธรรมชาติจะได้จากต้นไม้ของบ้านแต่ละหลังที่ทุกคนปลูกในอนาคต
- 8.15 / 10.00
Baanpuripuri Sukhumvit 93 (บ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93) ดีไหม?
โครงการ บ้านภูริปุรี สุขุมวิท 93 จะมีความโดดเด่นในเรื่องดีไซน์และการออกแบบ ที่เรียกได้ว่าไม่เหมือนใครในย่านเลยครับ โดยจุดเด่นของโครงการนี้คือ ความเป็นส่วนตัว และพื้นที่ตรงชั้น 2 ที่มีทั้งการเล่นระดับความสูง ระเบียงใหญ่แบบ Semi-Outdoor ที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในบ้านกับธรรมชาติภายนอก อีกทั้งยังสอดแทรกพื้นที่สีเขียวเพิ่มความสดชื่น แถมยังช่วยพรางสายตาได้ดีอีกด้วย ซึ่งทั้งโครงการจะมีอยู่แค่เพียง 8 ยูนิตเท่านั้น ไม่มีส่วนกลางให้ใช้งาน แต่ก็มีรั้วรอบขอบชิดไม่ต่างกับโครงการจัดสรรเลย ในทำเลใกล้รถไฟฟ้า BTS และทางด่วนเข้าเมืองได้ง่าย ราคาเริ่มต้นปัจจุบันคือ 30.7 ล้านบาท
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่

