รีวิวฉบับที่ 2895 … เปิดตัวโครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) คอนโด High Rise 37 ชั้น แบรนด์ใหม่จาก แสนสิริ ที่ร่วมลงทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์)  ทำเลติดถนนพระราม 4 ใจกลางเมือง เข้าสู่ถนนสุขุมวิทได้ง่าย ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อประมาณ 1.5 กิโลเมตร สะดวกในเรื่องการเดินทาง ไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักก็สะดวกทั้งนั้น ตัวห้องมีทั้งห้อง Simplex และห้องฝ้าสูง 4.7 เมตร ในราคาดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดในย่านเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท เราได้ Highlights ไว้ให้หมดแล้วค่ะ

  • ติดถนนพระราม 4 : มีซอยให้ลัดเลาะไปถนนสุขุมวิทได้หลายทาง โดยไม่ต้องผ่านแยกพระโขนงหรือแยกคลองเตยที่รถติดมาก ๆ
  • ไม่ไกลจาก BTS ทองหล่อ : ประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีทั้งรถรับ-ส่งของโครงการและพี่วินคอยให้บริการที่ปากซอยสุขุมวิท 36 จึงไปใช้รถไฟฟ้าได้ไม่ยาก
  • ใกล้แหล่งอุดมความสมบูรณ์ : โครงการอยู่เยื้องๆกับ Lotus’s , สวนเพลิน Market  นอกจากนี้ยังห่างจาก Big C Extra และ K Village เพียง 1-2 กิโลเมตร ลูกบ้านไปหาของกินของใช้ได้ง่าย
  • ราคาจับต้องได้ง่ายที่สุดในย่าน : เมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านที่มีขนาดห้องใกล้เคียงกันมักมีราคาประมาณ 3 ล้านปลายๆไปถึง 4 ล้านกลางๆเลยค่ะ ในขณะที่โครงการนี้เริ่มต้นที่ 3.59 ล้านบาท ถือว่ามีราคาเข้าถึงได้ง่ายที่สุด
  • มี Main Facility ส่วนกลางอยู่ชั้นบน : ทำให้สามารถชมวิวเมืองมุมกว้าง
  • ห้องเพดานสูง สูงถึง 4.7 เมตร : สูงกว่าห้องเพดานสูงทั่วๆไป 30-50 เซนติเมตร จึงดูโปร่งกว่าเหมาะกับคนที่ชอบทำเลแบบคอนโด แต่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น
  • มีห้องเพดานสูง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำให้เลือก : ซึ่งเป็น Type ห้องที่หาได้ยากทีเดียวค่ะ รองรับสมาชิกครอบครัว 2-4 คนได้เลย ใช้งานได้สะดวก

ข้อมูลโครงการ

XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) ณ วันที่ 5 กันยายน 2568

 ชื่อโครงการ   XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
 ที่ดิน   ประมาณ 4 ไร่
 ประเภทคอนโด   High Rise 37 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 1 ชั้น 1 อาคาร, อาคารพาณิชย์ 1 อาคาร
 จำนวนยูนิต   946 ยูนิต, 3 ร้านค้า
 ที่จอดรถ   44.5%
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2568
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2570
 ประเภทห้องพัก
  •  1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 29-35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 48.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.80 ล้านบาท
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 55.50 – 56.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.29 ล้านบาท
  • 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 85.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom (Loft) พื้นที่โฉนด 23.75 – 28.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย+Furniyure Level 32.75 – 41.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 2 Bathroom (Loft) พื้นที่โฉนด 34.75 – 38.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย+Furniyure Level 52.50-65.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.73 ล้าน

 ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 129,000 บาท/ตร.ม.
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center  1685
 Line   @xelfbysansiri

 

ทำเลที่ตั้ง

Highlight

  • ติดถนนพระราม 4 : มีซอยให้ลัดเลาะไปถนนสุขุมวิทได้หลายทาง โดยไม่ต้องผ่านแยกพระโขนงหรือแยกคลองเตยที่รถติดมาก ๆ
  • ไม่ไกลจาก BTS ทองหล่อ : ประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีทั้งรถรับ-ส่งของโครงการและพี่วินคอยให้บริการที่ปากซอยสุขุมวิท 36 จึงไปใช้รถไฟฟ้าได้ไม่ยาก
  • ใกล้แหล่งอุดมความสมบูรณ์ : โครงการอยู่เยื้องๆกับ Lotus’s นอกจากนี้ยังห่างจาก Big C Extra และ K Village เพียง 1-2 กิโลเมตร ลูกบ้านไปหาของกินของใช้ได้ง่าย

พิกัด Google Maps : 13.716875156936261, 100.57533063806437
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) ค่ะ

หากเราพูดถึงแบรนด์ XELF ทุกคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไรนัก เพราะ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) เป็น 1 ในแบรนด์น้องใหม่จากแสนสิริที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Location ถัดจากคอนโดรุ่นพี่อย่าง NIA by Sansiri ที่ใกล้กับทางด่วนและ FLO by Sansiri ที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วน XELF by Sansiri มาจากคำว่า ‘Flex’ หมายถึงคอนโดที่อยู่บนทำเลใจกลางเมืองมีความ Flexible สูง เดินทางไปไหนมาไหนได้ง่าย ไม่ว่าจะใช้รถไฟฟ้าหรือรถส่วนตัวก็สะดวกเช่นกัน

โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญมีทั้งห้างสรรพสินค้า , โรงเเรม ,โรงพยาบาล , Office Building ,สวนสาธารณะและสถานศึกษาชื่อดังตั้งอยู่หลายแห่ง เช่น One Bangkok , Silom Edge , Med Park , Dusit Central Park , FYI Center , อาคารมาลีนนท์ , T-one , ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เรียกได้ว่าถนนเส้นนี้มีครบเครื่อง ครบครันทุกอย่างของความเจริญและความสมบูรณ์จริงๆนะ เราจึงสังเกตได้ว่ามีคอนโดใหม่ๆมาเปิดบนโซนนี้เรื่อยๆ ทำเลนี้เหมาะกับคนอยากอาศัยอยู่ใกล้ๆตัวเมือง เดินทางไปทำงานในเมืองอย่างโซนพระราม 4 , สุขุมวิท , อโศกได้ไม่ยาก หรือ ไปทำงานอีกฝั่งอย่างอ่อนนุชก็สะดวกเช่นกัน

ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าโครงการตั้งอยู่ระหว่างแยกคลองเตยและแยกพระโขนง ถ้าใครเคยขับรถผ่าน 2 จุดนี้ในช่วงเช้าหรือเย็นจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า’รถติดมาก’ แต่ด้วยความที่ถนนพระราม 4 เป็นถนนคู่ขนานไปกับถนนสุขุมวิท ทำให้เราสามารถลัดเลาะไปตามซอยสุขุมวิท 36 , 42 ไปยังถนนสุขุมวิทโดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่หรือแยกต่างๆที่กล่าวมาเลยค่ะ ช่วยประหยัดเวลารถติดไปได้เยอะทีเดียว ส่วนขากลับมายังโครงการก็สามารถใช้ซอยสุขุมวิท 26 ได้ คนทำงานช่วงระหว่างซอยสุขุมวิท 42 กับ 26 จึงสามารถขับรถไปทำงานได้สะดวกมากๆ

โครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซึ่งโครงการจะมี Shuttle Service คอยให้บริการรับ-ส่งจากโครงการไป BTS ทองหล่อ ตั้งแต่ 7.00 – 19.00 น.  แต่ถ้าใครไม่อยากรอรถของโครงการเดินออกมาประมาณ 250 เมตร จะเจอกลุ่มพี่วินคอยให้บริการอยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 36

อย่างที่เราบอกว่าโซนนี้มีแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน เริ่มจากแหล่งอุดมความสมบูรณ์ในโซนนี้บอกเลยว่ามีหลากหลายมากๆ เริ่มจากสวนเพลิน Market เป็น Community ที่ใกล้โครงการที่สุด สามารถเดินไปได้ประมาณ 450 เมตรเท่านั้น ส่วนเยื้องๆโครงการจะมี Lotus’s และก่อนถึงโครงการก็มี Big C Extra อยู่ ทำให้เราแวะหาของกินของใช้สะดวกทั้งตอนออกจากคอนโดและก่อนกลับเข้าคอนโดเลยนะ หรือใครที่ชอบเดินห้างใหญ่ๆ ก็คงถูกใจโซนนี้ไม่น้อยเลยแหละ เพราะในระยะ 2-3 กิโลเมตร มีทั้ง EmSphere , Emporium & EmQuartier และ One Bangkok

ส่วนใครที่ชอบออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ ก็จะถูกใจทำเลนี้เป็นพิเศษ เพราะในระยะ 3-4 กิโลเมตรมีทั้งสวนเบญจกิติ , สวนลุมพินีและสวนเบญจสิริ เราเลือกได้เลยค่ะ ว่าวันนี้จะไปวิ่งที่ไหน หรือเช้าไปสวนหนึ่ง เย็นอีกสวนหนึ่งก็ยังไหว เพราะใกล้มากทีเดียว สำหรับใครที่ให้ความสำคัญกับความใกล้โรงพยาบาล เวลาเกิดเหตุใดๆแล้วไปหาหมอง่ายก็ต้องทำเลนี้เช่นกัน เพราะเยื้องโครงการมีโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ตั้งอยู่ อันนี้เดินไปได้เลยแหละ เพราะห่างแค่ 500 เมตร หรือใกล้ๆก็มีทั้งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทยและโรงพยาบาลเมดพาร์ค ลูกบ้านไม่ต้องกังวลเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยเลยนะ ต่อให้อยู่คนเดียวก็เดินทางไปหาหมอได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังตอบโจทย์คนที่ชอบสังสรรค์เหมือนกัน เพราะถนนทองหล่อมีร้าน Hang Out ตั้งอยู่ตลอดเเนวเลยนะ สามารถเรียกรถไปได้ในระยะ 3 กิโลเมตรเท่านั้นเอง

Image 1/2
เส้นทางไปจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร

เส้นทางไปจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะมี 2 จุด จุดแรกคือทางด่วนเฉลิมมหานครที่อยู่ห่างออกไป 2.8 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปยังโซนพระราม 3 หรือจตุจักร , ดินแดงได้ ส่วนทางด่วนฉลองรัชที่อยู่ห่างจากโครงการออกไป 3 กิโลเมตร ก็ใช้เดินทางไปโซนรามอินทราหรือลาดพร้าวได้ด้วย โครงการนี้จึงเดินทางสะดวกไม่ว่าจะเข้าเมืองหรือออกไปยังรอบนอกค่ะ

เราจึงมองว่าโครงการนี้รองรับกลุ่มคน 2 กลุ่มเป็นหลักคือ กลุ่มคนทำงานตามแนวเส้นสุขุมวิท กลุ่มนี้ได้เปรียบกว่าใคร ไม่ว่าจะใช้รถไฟฟ้าหรือใช้รถยนต์ก็สะดวกทั้งนั้น อีกกลุ่มคือคนทำงานหรือเรียนตามแนวถนนพระราม 4 , รัชดาภิเษกที่สะดวกต่อการขับรถไปทำงาน

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) ตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 4 โดยรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 4 ชั้น , อาคารพักอาศัย 8 ชั้น , ที่ว่างรอการพัฒนา แต่ฝั่งตะวันตกจะมีอาคารสูงอยู่บ้าง

  • ทิศเหนือ ติดกับ อาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น , อาคารพักอาศัย 3-5 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น , อาคารพักอาศัย 8 ชั้น , ที่ว่างรอการพัฒนา , ชุมชนบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ ถนนพระราม 4 , อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ชุมชนบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น , อาคารพักอาศัย 30-47 ชั้น , อาคารสำนักงาน 37-40 ชั้น

Image 1/6
บรรยากาศหน้าโครงการ ติดกับถนนพระราม 4

บรรยากาศหน้าโครงการ ติดกับถนนพระราม 4

บรรยากาศหน้าโครงการ ติดกับถนนพระราม 4 ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัย นอกจากนี้ยังเห็นทั้งโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์และ Lotus’s พระราม 4 อยู่ไกลๆอีกด้วย ลูกบ้านสามารถออกไปซื้อของหรือใช้บริการได้ง่ายๆ ส่วนโครงการอยู่ระหว่างคอนโดรุ่นพี่อย่าง OKA Huas ของแสนสิริ ที่ Sold Out ไปเป็นที่เรียบรอยแล้ว กับที่ว่างรอการพัฒนา ที่เรามองว่าอาจถูกนำไปทำเป็นคอนโดได้อีก

Image 1/7
Sales Gallery ของโครงการอยู่ตำแหน่งเดียวกับพื้นที่ก่อสร้างของโครงการเลยนะ

Sales Gallery ของโครงการอยู่ตำแหน่งเดียวกับพื้นที่ก่อสร้างของโครงการเลยนะ

Sales Gallery ของโครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) อยู่ติดถนนพระราม 4 ซึ่งเป็นตำแหน่งของโครงการเลยนะ ภายใน Sale Gallery มีห้องตัวอย่างให้ดู 2 แบบคือ ห้อง 1 Bedroom Type 1 B พื้นที่ใช้สอย 29.75 – 30.75 ตร.ม. และ  2 Bedroom 2 Bathroom Type 1 Jm พื้นที่ใช้สอย 59.5 – 59.75 ตร.ม. พื้นที่โฉนด 35.25 – 35.5 ตร.ม. นอกจากนี้ยังมีโมเดลของโครงการให้ดูด้วยนะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • สวนเพลิน Market ~ 1.2 km. (ระยะเดิน 450 m.)
  • Big C Extra พระราม 4 ~ 1.5 km. (ระยะเดิน 750 m.)
  • Lotus’s พระราม 4 ~ 1.6 km.
  • K Village ~ 1.6 km.
  • Emporium & EmQuartier ~ 2.6 km.
  • EmSphere ~ 2.8 km.
  • The Commons~ 3.6 km.
  • One Bangkok ~ 4.5 km. (ระยะจากห้างมาโครงการ ~ 3.2 km. )

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ ~ 500 m.
  • โรงพยาบาลสุขุมวิท ~ 2.1 km.
  • โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~ 2.6 km.
  • โรงพยาบาลเมดพาร์ค ~ 3.2 km. (ระยะจากโรงพยาบาลมาโครงการ ~ 2.2 km. )
  • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ~ 5.4 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนนานาชาติทรีนีตี้ ~ 1.3 km.
  • โรงเรียนนานาชาติเวลล์ ~ 2.0 km.
  • โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ~ 2.9 km.
  • โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ~ 3.0 km.
  • โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ ~ 4.1 km.
  • โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ~ 4.6 km.
  • มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ~ 5.9 km.
  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 7 km.

การเดินทาง

  • รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ~ 2.1 km. ( ระยะเดิน 1.5 m. )
  • รถไฟฟ้า BTS พระโขนง ~ 2.1 km.
  • รถไฟฟ้า MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ~ 2.9 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • มี Main Facility ส่วนกลางอยู่ชั้นบน : ทำให้สามารถชมวิวเมืองมุมกว้าง
  • กระจาย Facility ไว้ 5 ชั้น : ช่วยลดความหนาแน่นในการใช้งานแต่ละส่วน
  • มีห้องฝ้าเพดานสูงอยู่ชั้นล่าง : ทำให้ราคาไม่สูงนัก คนจับต้องได้ง่ายขึ้น

โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) เป็นคอนโด 37 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 4 ไร่  รวมทั้งหมด 946 ยูนิตและร้านค้าอีก 3  ยูนิต ที่เราคาดว่าน่าจะมีร้านสะดวกซื้อเป็น 1 ใน 3 ของร้านค้า เพราะเรามองว่า OKA Huas ยังไม่มีร้านสะดวกซื้อเช่นกัน หมายความว่าถ้ามีร้านสะดวกซื้อมาเปิด จะรองรับลูกค้าได้ทั้ง 2 คอนโดเลยค่ะ

โครงการกระจายส่วนกลางไว้ถึง 5 ชั้น คือชั้น 7 , 33 , 34 และ 35 ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน ส่วนกลางทั้งหมดจะหันหน้าไปทางฝั่งถนนพระราม 4 และฝั่งทิศตะวันตกที่อยู่ติดกับที่ว่าง เพื่อให้ลูกบ้านได้ชมวิวเมืองอย่างเต็มที่ ส่วนตัวห้องในโครงการมีให้เลือกทั้งแบบ Simplex และห้องฝ้าเพดานสูง โดยแบ่งดังนี้

  • ชั้น 7-9 ห้องพักอาศัยแบบ Simplex
  • ชั้น 10-19 ห้องพักอาศัยฝ้าเพดานสูง
  • ชั้น 20-31 ห้องพักอาศัยแบบ Simplex
  • ชั้น 32-37 ห้องพักอาศัยฝ้าเพดานสูง

โดยปกติแล้วเราจะเห็นโครงการทั่วไปวางผังให้ห้องฝ้าเพดานสูงอยู่ชั้นบนๆ ทำให้มีราคาสูงขึ้นไปอีก แต่โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) สลับชั้นที่เป็นห้อง Simplex กับ ห้องฝ้าเพดานสูง ทำให้เรายังมีห้องฝ้าสูงในชั้นไม่สูงนัก เปิดโอกาสให้คนที่ชอบคอนโดที่ให้บรรยากาศเหมือนบ้าน 2 ชั้น ได้จับจองได้ง่ายมากขึ้น

มาเริ่มกันที่ Master Plan ของ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) กันเลยค่ะ  มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวเท่านั้นคือจากฝั่งถนนพระราม 4 ทั้งลูกบ้านและแขกที่มาเยี่ยมเยือนต้องผ่านซุ้มประตูโครงการก่อน ซุ้มประตูโครงการขยับเข้ามาด้านในโครงการถัดจาก Shop เล็กน้อย เพื่อกันสัดส่วนระหว่างพื้นที่ส่วนที่คนนอกมาใช้งานได้และพื้นที่ของลูกบ้าน โดยโครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน ลูกบ้านสามารถเข้า-ออกได้เลย ส่วนแขกที่มาเยี่ยมต้องแลกบัตรก่อนนะ หากเรามาส่งเพื่อนก็จอดส่งที่จุด Drop-Off แล้ววนออกไปได้เลย ส่วนลูกบ้านในโครงการจะต้องขับรถเลยไปยังที่ทางเข้าที่จอดรถด้านหลังอาคาร สำหรับที่จอดรถมีมากถึง 44.5%  ซึ่งถือว่าให้มามากกว่าโครงการส่วนใหญ่เล็กน้อย ที่มักให้มาประมาณ 30-40% ถือว่าโครงการรองรับคนใช้รถยนต์ส่วนตัวได้เยอะเหมือนกันนะ โดยที่จอดรถจะเป็นที่จอดแบบใต้ชายคาทั้งหมดเลย ช่วยถนอมรถเราไม่ต้องตากแดดลมฝนค่ะ

ชั้น 1 เป็นชั้นที่เข้าถึงง่ายที่สุด โครงการจึงนำ Shop ทั้ง 3 ยูนิต มาไว้ด้านหน้าโครงการ  เพื่อให้คนภายนอกเข้ามาใช้งานพื้นที่ร้านค้าได้สะดวก แต่โครงการก็มีประตูเล็กพร้อมติดตั้ง Access Control สำหรับคัดกรองคนเข้ามาในโครงการ ทำให้คนนอกเข้ามาในโครงการไม่ได้ นอกจากนี้ชั้น 1 ยังมีแขกที่มาเยี่ยมเยือนโครงการอีกด้วย จึงพลุกพล่านกว่าชั้นอื่นๆ โครงการจึงยกห้องพักอาศัยทั้งหมดไปอยู่ชั้นบน ซึ่งเรามองว่าเป็นข้อดีนะ เพราะคนนอกเข้าถึงไม่ได้ ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว ส่วนกลางที่อยู่ชั้น 1 จะมีเพียงแค่ Welcome Lounge ที่แขกสามารถเข้าไปนั่งรอลูกบ้านได้เลยและสวนส่วนกลางอีก 2 จุด

ฝั่งตรงข้าม Welcome Lounge เป็นโซนของลูกบ้านประกอบไปด้วย ห้องนิติบุคคลและ Mail Room ทำให้ลูกบ้านแวะมาติดต่อหรือเอาพัสดุ , จดหมายได้ก่อนขึ้นไปยังห้องพัก ส่วนโถงลิฟต์มี Access Control อยู่ ลูกบ้านต้องสแกนหน้าก่อนถึงจะเข้าไปได้ อาคารพักอาศัยมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 5 ตัว หรืออัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 189.5 : 1 ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็แนะนำให้เผื่อเวลารอลิฟต์กันนะคะ

พื้นที่ Semi Outdoor Lobby อยู่ใกล้กับส่วนของ Drop-Off มากที่สุด แขกที่มาเยี่ยมเยือนสามารถนั่งพักคอยบริเวณนี้พร้อมกับชมวิวสวนส่วนกลาง หรือลูกบ้านจะมานั่งรอเวลาเรียกรถ Taxi หรือ Grab ก็ได้

Image 1/2
บรรยากาศภายใน Welcome Lounge

บรรยากาศภายใน Welcome Lounge

ภายใน Welcome Lounge แบ่งออกเป็น 4 โซน แบ่งออกเป็น Grand Living , Living Area และ Relaxing Area ที่ใช้เป็นมุมพักผ่อนเหมือนกัน เอาไว้ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมโครงการ ส่วน Communal Area เป็นเหมือนมุมเอาไว้นัดพบปะพูดคุยกัน เช่น เวลาเรานัดแขกมาคุยงานกันสั้นๆ ก็ใช้พื้นที่ตรงนี้ได้ค่ะ

ชั้น 7 มีทั้งห้องพักอาศัยและสวนส่วนกลางอยู่ แต่ก่อนออกจากโถงลิฟต์ไปยังโซนพักอาศัยหรือไปสวนจะต้องผ่าน Access Control ก่อน หมายความว่าคนที่ผ่านไปยังโซนพักอาศัยได้ต้องเป็นลูกบ้านที่พักชั้นนี้เท่านั้น ทำให้ลูกบ้านรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย จากแปลนอาคารจะเห็นว่าโซนพักอาศัยแบ่งออกเป็นฝั่งด้านหน้าอาคารที่เน้นห้อง Type ใหญ่และฝั่งด้านหลังอาคารที่เน้นห้อง Type เล็ก โดยโซนพักอาศัยที่เรามองว่าน่าสนใจมีอยู่ 4 โซนด้วยกัน ดังนี้

  • โซนในกรอบเส้นประสีน้ำเงิน : เป็นห้องพักอาศัยที่อยู่ฝั่งสวนส่วนกลาง ลูกบ้านโซนนี้จึงได้บรรยากาศเหมือนห้องริมสวนเลยนะ เพียงแต่ไม่ใช่ Garden Access เท่านั้นเอง
  • โซนในกรอบเส้นประสีแดง :  อยู่ใกล้โถงลิฟต์สะดวกในการขึ้น-ลงอาคารมากที่สุด เหมาะกับคนที่ชอบความรวดเร็วในการเข้าถึงตัวห้องพัก
  • โซนในกรอบเส้นประสีเขียว :  เป็นห้องที่อยู่หัวมุมอาคาร และมีส่วนที่เป็นกระจกทั้ง 2 ด้าน ทำให้เราได้วิว 2 ฝั่งค่ะ
  • โซนในกรอบเส้นประสีส้ม : อยู่ติดกับพื้นที่ว่าง ทำให้ได้วิวเปิดโล่ง

สวนส่วนกลางชั้น 7 มีส่วนของ Pavilion ให้เราออกมานั่งพักผ่อนได้ เราชอบที่โครงการจัดให้สวนมาอยู่ฝั่งทิศตะวันออก ที่ติดกับพื้นที่โล่งและอาคารที่สูงไม่มากนัก ทำให้เราได้วิวเมืองเต็มตา

ชั้น 33 เป็นชั้นที่มี Main Facility หลักๆอย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนส โครงการจัดให้สระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าอาคาร ซึ่งเป็นฝั่งที่ไม่มีห้องพักอยู่เลยตั้งแต่ชั้น 33-35 จะมีก็แต่ห้อง 3 Bedroom บนชั้น 36-37 เพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้นที่มองเห็น ช่วยหลีกเลี่ยงสายตาจากลูกบ้านที่พักอาศัยได้ดีเลยค่ะ คนที่มาว่ายน้ำจึงไม่รู้สึกเคอะเขิน ส่วนฟิตเนสอยู่ใกล้สระว่ายน้ำ เราสามารถออกกำลังกายไปพร้อมชมวิวสระและวิวเมืองได้

นอกจากนี้ชั้น 33 ยังมีโซนพักอาศัยอยู่ด้วย แต่มีเพียงโซนด้านหลังอาคารเท่านั้น จะผ่านเข้าไปยังโซนพักอาศัยได้จะต้องสแกนหน้าก่อนเหมือนชั้นอื่นๆเลยค่ะ ส่วนโซนพักอาศัยที่น่าสนใจก็มี 3 โซน คือ

  • โซนในกรอบเส้นประสีน้ำเงิน : เป็นห้องพักอาศัยที่หันหน้าเข้าสวนส่วนกลางของชั้น 7 จึงได้วิวส่วนกลางของอาคารด้วย
  • โซนในกรอบเส้นประสีแดง :  อยู่ใกล้โถงลิฟต์สะดวกในการขึ้น-ลงอาคารมากที่สุด เหมาะกับคนที่ชอบความรวดเร็วในการเข้าถึงตัวห้องพัก
  • โซนในกรอบเส้นประสีเขียว :  เป็นห้องที่อยู่หัวมุมอาคาร และมีส่วนที่เป็นกระจกทั้ง 2 ด้าน ทำให้เราได้วิว 2 ฝั่งค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศสระว่ายน้ำ

บรรยากาศสระว่ายน้ำ

ตัวสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาด 5.5 x 30 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อมสระเด็กและโซน Jacuzzi ลูกบ้านว่ายน้ำออกกำลังกายได้อย่างจริงจัง สระว่ายน้ำอยู่ทางทิศใต้จึงเหมาะกับการมาใช้งานช่วงเย็นๆ ตัวสระว่ายน้ำเป็นระบบโอโซน ฆ่าเชื้อไวรัสแบคทีเรียได้ดี ปลอดภัยต่อคนที่แพ้ง่าย ไม่แสบตาแสบจมูก แถมยังไม่มีกลิ่นฉุนแบบสระคลอรีนอีกด้วย

ห้องฟิตเนสมีขนาดใหญ่ รองรับการออกกำลังกายทั้งแบบ Cardio หรือ Weight training เราสามารถออกกำลังกายไปพร้อมมองวิวเมืองสวยๆ หรือวิวสระว่ายน้ำก็ได้ ช่วยให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่อ นอกจากนี้ยังมี Yoga Room สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายแบบเน้นความยืดหยุ่นในร่างกายด้วยนะ ภายในมีทั้งพื้นที่สำหรับโยคะและเครื่องเล่นพิลาทิสให้ใช้งานค่ะ

ชั้น 34 มีทั้ง Facility ส่วนกลางและห้องพักอาศัยเช่นเดียวกัน สำหรับโซนพักอาศัยคล้ายๆกับชั้น 33 เลยค่ะ แต่มีโซนที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นมา 1 โซน คือโซนกรอบสีเหลือง ที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้เรามาใช้งาน Lounge ต่างๆได้สะดวกกว่าใคร สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้จะมีหลากหลายฟังก์ชันเลยค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศระหว่างห้อง Idea Lounge และ Co-Kitchen

บรรยากาศระหว่างห้อง Idea Lounge และ Co-Kitchen

เริ่มจาก Idea Lounge และ Cloud Lounge เป็นพื้นที่พักผ่อนภายในที่เห็นวิวเมืองแบบ 360 องศา เราสามารถนัดพบปะพูดคุยกัน หรือเอางานมานั่งทำชิลๆบริเวณนี้ก็ได้ ส่วน  Semi Outdoor Lounge เป็นพื้นที่พักผ่อนภายนอก ให้เรามารับลมสูดอากาศพร้อมชมวิว ถัดมาเป็นพื้นที่สำหรับทำงานคือ Executive Suite และ Separate Area For Private Meeting มีทั้งโซนที่เป็น Co-Working Space และห้องประชุมเล็กๆ ให้ลูกบ้านมาจองใช้งานได้

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็น Entertainment Zone หรือห้องสำหรับดูหนังแบบส่วนตัว และ Co-Kitchen เราสามารถจองเฉพาะส่วนนี้ได้ แล้วจ้างเชฟส่วนตัวมาทำอาหารให้กินเวลามีปาร์ตี้เล็กๆกับเพื่อนๆ เราสามารถทานอาหารพร้อมชมวิวเมืองไปพร้อมๆกันได้เลย

สำหรับชั้น 35 เป็นชั้นสุดท้ายที่มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ ซึ่งเป็น Sky Garden หรือสวนย่อมที่ให้ลูกบ้านมาพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีโซนพักอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งมีการวางโซนเหมือนชั้น 34 ค่ะ ห้องในกรอบสีเหลือง ยังคงได้ Benefit สูงสุดเพราะอยู่ใกล้สวน จึงออกมาใช้งานง่าย เหมาะกับคนที่ชอบออกมาชมวิวและเดินเล่นสัมผัสธรรมชาติ

Image 1/3
แปลนชั้น 8-9 และ 20-31 (ห้องพักแบบ Simplex)

แปลนชั้น 8-9 และ 20-31 (ห้องพักแบบ Simplex)

สำหรับชั้นที่เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด จะไม่กั้นโถงลิฟต์เหมือนชั้นที่มีส่วนกลาง เพราะคนที่ขึ้นมาถึงชั้นพักอาศัยได้ ต้องเป็นลูกบ้านที่พักในชั้นนั้นๆ ส่วนโซนพักอาศัยที่น่าสนใจแบ่งออกเป็น 5 โซน

  • โซนในกรอบเส้นประสีน้ำเงิน : เป็นห้องพักอาศัยที่หันหน้าเข้าสวนส่วนกลางของชั้น 7 คนที่อยู่โซนนี้จึงได้วิวส่วนกลาง
  • โซนในกรอบเส้นประสีแดง :  อยู่ใกล้โถงลิฟต์สะดวกในการขึ้น-ลงอาคารมากที่สุด
  • โซนในกรอบเส้นประสีเขียว :  อยู่หัวมุมอาคาร จึงได้วิว 2 ฝั่งและยังได้แสงธรรมชาติมากกว่าห้องอื่นๆอีกด้วย
  • โซนในกรอบเส้นประสีส้ม : อยู่ติดกับฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นพื้นที่ว่าง ทำให้ได้วิวเปิดโล่ง
  • โซนในกรอบเส้นประสีม่วง : ห้องใหญ่ 3 Bedroom ได้วิวสระว่ายน้ำและวิวเมือง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

1 st Floor

  • ร้านค้า 3 ยูนิต
  • Welcome Lounge
  • Semi Outdoor Lobby
  • Mail Room
  • Juristic Person Room
  • Car Charging
  • Sansiri Backyard
  • สวนหย่อม

7th Floor

  • Pavilion
  • สวนหย่อม

33th Floor

  • สระว่ายน้ำระบบโอโซน ขนาด 5.5 x 30 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • มีการแบ่งสระเด็ก ขนาด 3-5.5 x 3.95 เมตร ลึก 0.5 เมตร
  • ห้องออกกำลังกายขนาด
  • Yoga Room

34th Floor

  • Idea Lounge
  • Cloud Lounge
  • Semi Outdoor Lounge
  • Executive Suite
  • Separate Area For Private Meeting
  • Co-Kitchen
  • Entertainment Zone

35th Floor

  • สวนหย่อม

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

  • ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 189.5 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 44.5%
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  Liv 24 / CCTV / License plate
  • Access Control ระบบ Face Scan และ Key card

แบบห้อง

Highlight

  • มีห้อง Type ใหญ่ให้เลือก : ในโซนนี้มีแค่โครงการนี้เท่านั้นที่มีห้อง 3 Bedroomอยู่ด้วย แม้มีจำนวนไม่มากแต่ก็เป็นตัวเลือกให้คนที่อยู่กันเป็นครอบครัว 3-5 คนค่ะ
  • ห้องเพดานสูง 4.7 เมตร : สูงกว่าห้องเพดานสูงทั่วๆไป 30-50 เซนติเมตร จึงดูโปร่งกว่าเหมาะกับคนที่ชอบทำเลแบบคอนโด แต่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น
  • มีห้องเพดานสูง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำให้เลือก : ซึ่งเป็น Type ห้องที่หาได้ยากทีเดียว รองรับสมาชิกครอบครัว 2-4 คนได้เลย ใช้งานได้สะดวก
  • กั้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นด้วยผนังทึบ : ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว หากอยู่กัน 2 คนก็แยกพื้นที่ใช้งานได้โดยไม่รบกวนกัน

ห้องพักอาศัยของโครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) จะขายแบบ Fully Fitted คือได้ Built-in ห้องครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เรามองว่าเป็นข้อดีนะ เพราะไม่มีเฟอร์นิเจอร์แบบไหนที่เป็น One Size Fits All สำหรับทุกคน เช่นบางคนให้ความสำคัญกับการพักผ่อน ต้องการเตียง 5-6 ฟุต ในขณะที่บางคนชอบเตียง 3.5 ฟุตเพราะพอดีกับการนอนและอบอุ่นดี การได้เลือกสรรซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งด้วยตัวเองจึงตอบโจทย์คนอยู่อาศัยมากกว่า โดยที่ห้องพักของโครงการมีราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆรอบข้างที่มีขนาดห้องใกล้เคียงกัน มักจะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3 ล้านปลายๆ ไปจนถึง 4 ล้านกลางๆเลยนะ  จึงเรียกได้ว่าห้องพักของโครงการนี้มีราคาเป็นจับต้องได้ง่ายค่ะ

หากเพื่อนๆเคยลองสำรวจโครงการในโซนนี้ จะเห็นว่ามักจะเน้นห้อง Type เล็ก และมีห้องใหญ่สุดคือ 2 Bedroom เท่านั้น แต่โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) มีห้องหลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่ 1 Bedroom , 2 Bedroom , 2 Bedroom 2 Bath และ 3 Bedroom ซึ่งห้อง 2 Bedroom 2 Bath และ 3 Bedroom หาได้ยากมากในโซนนี้เลยนะ

Image 1/10
ห้อง 1 Bedroom 29 sq.m.

ห้อง 1 Bedroom 29 sq.m.

สำหรับห้องพักอาศัยแบบ Simplex มีให้เลือก ดังนี้

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 29-35 ตร.ม.
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 48.25 ตร.ม.
  • 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 85.5 ตร.ม.

Image 1/6
ห้อง 1 Bedroom (Loft) 23.75 sg.m.

ห้อง 1 Bedroom (Loft) 23.75 sg.m.

ห้องพักอาศัยแบบฝ้าเพดานสูงมีให้เลือกดังนี้

  • 1 Bedroom (Loft) พื้นที่โฉนด 23.75 – 28.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย+Furnitue Level 32.75 – 41.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom  2 Bathroom  (Loft)  พื้นที่โฉนด 34.75 – 38.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย+Furnitue Level 52.50-65.75 ตร.ม.

สรุปวัสดุในห้อง

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • วัสดุพื้น ส่วนห้องนอน/นั่งเล่น : พื้นลามิเนต หนา 8 mm.
  • วัสดุพื้น ส่วนระเบียง : กระเบื้องแกรนิตโต้สีเทา ขนาด 30×30 cm.
  • ประตู HDF ปิดผิวด้วย PVC ลายไม้ พร้อมชุดอุปกรณ์ Digital Door Lock ของยี่ห้อ Kaadas
  • บานเลื่อนอลูมิเนียมทำสีเทาเข้ม ผิว Sahara

    ห้องครัว
  • วัสดุพื้นห้องครัว : กระเบื้องแกรนิตโต้สีครีม ขนาด 60×60 cm.
  • Top & Backsplash เป็นหินสังเคราะห์ พร้อม Hob & Hood ของ Teka ระบบดูดควันออกภายนอก
  • หน้าบานเฟอร์นิเจอร์เมลามีน

ห้องน้ำ

  • วัสดุพื้นห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้สีเทา ขนาด 60×60 cm.
  • ชุดสุขภัณฑ์ จาก American Standard และ Englefield
  • หน้าบานเฟอร์นิเจอร์ เมลามีนลายไม้ พร้อมชั้นเก็บของตู้กระจก
  • ฉากกั้นอาบน้ำแบบ Cross bar

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom : Type 1 B พื้นที่ใช้สอย 29.75-30.75 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างแรกที่เราจะพาทุกคนไปชมคือ ห้อง 1 Bedroom Type 1 B พื้นที่ใช้สอย 29.75-30.75 ตร.ม. ฟังก์ชันภายในมีให้ครบตามมาตรฐาน คือ 1 ห้องนอน , 1 ห้องน้ำ , 1 ห้องนั่งเล่นและ 1 ห้องครัวแบบปิด เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน

  • ห้องครัวปิด : สามารถทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะลอยไปบริเวณอื่น
  • กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ : เจ้าของห้องได้ความเป็นส่วนตัว หากอยู่อาศัยกัน 2 คน ทำให้คนที่ใช้งานห้องนั่งเล่นและห้องนอน ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน
  • ห้องนอนมีขนาดใหญ่ : นอกจากวางเตียงแล้ว ยังเหลือพื้นที่ให้เราวางโต๊ะทำงานได้อีกด้วย
  • ห้องน้ำแบบ Jack & Jill : เข้าถึงได้ทั้งจากห้องนอนและห้องครัว ใช้งานได้สะดวก เวลามีแขกมาเยี่ยม เจ้าของห้องไม่เสียความเป็นส่วนตัว

พื้นห้องพักอาศัยยกขึ้นสูงจากพื้นทางเดินประมาณ 3 เซนติเมตร เพื่อกันน้ำและฝุ่นจากภายนอก ไม่ให้เข้าห้อง

ในห้องมาตรฐานจะมีประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานไม้เทียม HDF กรุผิวลามิเนตพร้อมชุดอุปกรณ์ Digital Door Lock ของ Kaadas รอบรับ 5 ระบบ ทั้ง Finger Print / Key Card /Application / Pin Code และ กุญแจ  ลูกบ้านสามารถเข้าห้องได้โดยไม่ต้องพกกุญแจห้อง เอาใจสายขี้ลืมให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น

ฟังก์ชันแรกของห้องพักอาศัยเป็นห้องครัวขนาดประมาณ 1.6×2.5 เมตร พอให้ช่วยกันทำอาหารได้ 2 คน โดยฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่สำหรับทำอาหาร อีกฝั่งเป็นพื้นที่ว่างให้วางตู้เย็นได้ ช่วยให้หยิบเก็บวัตถุดิบต่างๆตอนทำอาหารได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้เวลาเราซื้อข้าวของเข้าห้องก็เก็บได้สะดวกอีกด้วย ตัวพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ เช็ดถูทำความสะอาดง่าย ส่วนฝ้าของห้องครัวสูงกว่ามาตรฐานทั่วไปประมาณ 10 เซนติเมตร อยู่ที่ 2.5 เมตร เวลาใช้งานห้องครัวจึงไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ

ฝั่งหนึ่งโครงการ Built-in เคาน์เตอร์และตู้เก็บของไว้ให้

ใกล้ๆกับประตูหน้าห้อง โครงการ Built-in ตู้เก็บรองเท้าและเก็บของไว้ให้ โดยแบ่งครึ่งล่างเป็นตู้เก็บรองเท้า สามารถเก็บรองเท้าได้ประมาณ 4-8 คู่ ทำให้เราหยิบ-เก็บรองเท้าเวลาเข้า-ออกจากห้องได้สะดวก ส่วนครึ่งบนเป็นตู้เก็บของ สำหรับเก็บของที่ต้องใช้บ่อยๆก่อนออกจากห้อง เช่น กุญแจรถ , กุญแจบ้าน

Image 1/3
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของพร้อมช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ด้านล่าง

ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของพร้อมช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ด้านล่าง

ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของด้านล่าง มือจับตู้เก็บของเป็นแบบเซาะร่อง ทำให้เราจับได้ถนัดมือ เปิด-ปิดตู้ได้สะดวก ตัวบานเป็นเมลามีน ทนต่อรอยขีดข่วนและความชื้นได้ดี นอกจากนี้ยังมีช่องว่าง ให้วางเครื่องซักผ้า สำหรับใช้งานในห้อง ไม่ต้องส่งเสื้อผ้าไปซักที่อื่น

Image 1/4
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหารและซิงค์ล้างจาน

เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหารและซิงค์ล้างจาน

ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์เป็นหินเทียม ทนต่อการขีดข่วนเวลาใช้งานและทนความชื้น ทำความสะอาดง่าย บริเวณเคาน์เตอร์แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนทำอาหาร ที่ให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันแบบดูดออกไปด้านนอก ซึ่งใช้งานได้ดีกว่าระบบหมุนเวียน ป้องกันไม่ให้กลิ่นและควันฟุ้งมากนัก เราชอบที่โครงการเลือกวางเตาไฟฟ้าเป็นแนวขวาง เพราะใช้งานทั้ง 2 หัวเตาได้สะดวกมากกว่าการวางเป็นแนวตั้ง ส่วนที่สองคือซิงค์ล้างจานที่มีความลึกพอสมควร เราลองเอาหม้อลงไปวางก็ยังเหลือพื้นที่อยู่ เวลาเราล้างจานน้ำจะเด็นออกมาได้น้อยลงค่ะ นอกจากนี้โครงการให้ Backsplash เป็นหินสังเคราะห์ ทำความสะอาดได้ง่าย

Image 1/3
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของ

ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของ

ตู้ลอยด้านบนจะมีทั้งส่วนที่มีหน้าบานปิดช่วยกันฝุ่น ดูเรียบร้อยกับส่วนที่เป็นช่องเก็บของสำหรับ วางของที่ใช้บ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีช่องวางไมโครเวฟ ซึ่งเรามองว่าการวางไมโครเวฟไว้ด้านบน ใช้งานสะดวก กว่าการนำไปวางไว้ตู้เก็บของด้านล่าง เพราะไม่ต้องก้มๆเงยๆ เวลาหยิบอาหารจากไมโครเวฟ

Image 1/3
ห้องครัวกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน

ห้องครัวกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน

ประตูกั้นห้องครัวเป็นบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน อีกทั้งรางประตูยังถูกฝังให้เรียบเสมอไปกับพื้น เดินเข้า-ออกได้สะดวก ไม่ต้องกังวลว่าจะสะดุดล้ม ครัวแบบปิดช่วยให้เราทำอาหารได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นควันจะลอยไปโซนอื่นๆของห้อง

Image 1/5
บริเวณพื้นที่นั่งเล่น

บริเวณพื้นที่นั่งเล่น

สำหรับห้องนั่งเล่นมีขนาดประมาณ 3.35 x 2.5 เมตร สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางขนาดเล็ก สำหรับวางน้ำและขนมไว้กินเพลินๆขณะดูทีวีได้สบายๆ ระยะดูทีวีของโซนนี้อยู่ 2.5 เมตร แนะนำให้ติดตั้งทีวีขนาด 50-55 นิ้ว เพื่อการรับชมที่คมชัด แล้วเรายังมองว่ายังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะกินข้าว 2 ที่นั่งได้บริเวณใกล้ๆห้องครัวเพื่อให้การใช้งานต่อเนื่อง แต่เราก็ชอบไอเดียการตกแต่งห้องตัวอย่างนะ ที่ทำ Built-in โซฟาเป็นเเนวยาว ดูเป็นระบบระเบียบดี ใช้ทั้งนั่งดูทีวีและทานข้าวไปพร้อมๆกันได้เลย

สำหรับห้องนั่งเล่น โครงการจะให้แอร์ Wall Type มาให้ด้วยนะ

ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อน 3 ตอน เปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน ทำให้เข้า-ออกได้สะดวก

Image 1/3
พื้นที่ระเบียง

พื้นที่ระเบียง

ระเบียงมีขนาดประมาณ  2.5 x 0.75 เมตร โครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ด้านบน เราจึงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ เราแนะนำให้ติดตั้งราวตากผ้าแบบแขวนเพิ่มเติม เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่

Image 1/3
บรรยากาศภายในห้องนอน

บรรยากาศภายในห้องนอน

สำหรับห้องนอนเข้าถึงได้จากห้องนั่งเล่น แต่กั้นด้วยผนังทึบทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว เวลามีคนดูทีวีด้านนอกก็ไม่รบกวนคนที่กำลังนอนพักผ่อนในห้องนอน ภายในห้องมีประมาณ 2.55 x 4.1 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้แล้วยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบๆเตียงอยู่ หากใครชอบดูทีวีก่อนนอน แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนนะ

นอกจากนี้ริมหน้าต่างยังมีพื้นที่ให้เราจัดเป็นมุมทำงาน อ่านหนังสืออีกด้วยนะ ใครที่ Work From Home บ่อยๆ น่าจะชอบมุมนี้กันนะคะ

ห้องนอนมีหน้าต่างบานใหญ่  ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้ทุกมุม ห้องจึงดูสว่าง ส่วนหนึ่งของหน้าต่างเป็นบานกระทุ้ง เปิดระบายอากาศได้ ข้อดีคือกันเวลาฝนสาดได้ดีกว่าหน้าต่างแบบบานเลื่อนหรือบานเปิด

บริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ว่างให้เราจัดเป็นมุมแต่งตัว วางตู้เสื้อผ้าได้ ช่วยให้เราเปลี่ยนแต่งตัวได้สะดวกหลังจากอาบน้ำเสร็จ ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง

Image 1/2
บรรยากาศภายในห้องน้ำ

บรรยากาศภายในห้องน้ำ

เราสามารถเข้า-ออกห้องน้ำได้ 2 ทาง คือจากห้องนอนและห้องครัว เวลามีแขกมาเยี่ยมที่ห้องก็ใช้ประตูทางเข้าจากห้องครัวได้เลย ทำให้เจ้าของห้องไม่เสียความเป็นส่วนตัว ในขณะเดียวกัน เราก็ลุกขึ้นมาใช้งานห้องน้ำได้สะดวกยามดึกดื่นค่ะ ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้อย่างชัดเจน ใช้งานได้ง่าย วัสดุปูพื้นและผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร สามารถทำความสะอาดได้ง่าย

Image 1/6
ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard

ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard

ภายในห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ต่างๆของ American Standard และ Englefield ไว้ครบครันเหมือนกับห้องตัวอย่างเลย ใต้อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของด้านใต้ให้ด้วย เอาไว้เก็บข้าวของ อุปกรณ์อาบน้ำที่เราซื้อมาสำรองไว้ เช่น สบู่ , แชมพูและทิชชู ส่วนตู้กระจกสามารถเปิดออกมาเก็บของ เช่น แปรงสีฟัน , สกินแคร์ต่างๆที่ใช้เป็นประจำ ทำให้บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเราไม่รกค่ะ

Image 1/3
พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกมาเรียบร้อย

พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกมาเรียบร้อย

โครงการให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วยนะ เป็นบานสวิง มีมือจับเป็นราวยาว สะดวกทั้งเวลาเปิด-ปิดและแขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วย เมื่ออาบน้ำเสร็จ ก็เช็ดตัวในพื้นที่อาบน้ำได้เลย ไม่ต้องเดินตัวเปียกไปโซนอื่นๆ ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.1×0.95 เมตร ยืนอาบน้ำได้สบายๆ พร้อมเจาะผนังทำเป็นช่องวางของ เราสามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำเช่น แชมพู , สบู่ และหยิบใช้งานได้สะดวก


ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom 2 Bathroom Type 1 Jm พื้นที่โฉนด 35.25-35.50 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม Furniture Level 59.5-59.75 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างที่ 2 คือห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom Type 1 Jm พื้นที่โฉนด 35.25-35.50 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม Furniture Level 59.5-59.75 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องที่หายากมาก เพราะปกติเรามักจะเห็นแค่ห้อง 2 Bedroom 1 Bathroom เท่านั้น ภายในห้องออกแบบได้น่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะเป็นห้องฝ้าเพดานสูงที่เป็นห้องหน้ากว้าง ส่วนชั้นด้านบนเป็น Furniture Level หรือโครงสร้างเบา มีฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว และ 1 ห้องนั่งเล่น รองรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวพ่อแม่ลูกได้เลยนะ เหมาะกับการอยู่ 2-4 คน

  • ห้องเพดานสูง 4.7 เมตร : ซึ่งสูงกว่าห้องเพดานสูงของคอนโดเพื่อนบ้านประมาณ 30-50 เซนติเมตร ห้องจึงดูโปร่งและโล่งเป็นพิเศษ
  • ห้องนั่งเล่นอยู่โซนด้านใน :  ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
  • มีห้องน้ำให้ใช้งานถึง 2 ห้อง : ไม่ว่าจะอยู่ห้องนอนไหนก็ใช้งานได้สะดวก
  • ทุกฟังก์ชันกั้นเป็นสัดส่วนชัดเจน : ทำให้คนใช้งานพื้นที่ได้ โดยไม่รบกวนกัน

เมื่อเปิดประตูเข้ามาเราจะเจอกับโถงโล่งๆ ทำให้มองเห็นความกว้างทั้งหมดของห้องพักอาศัย และพื้นที่นั่งเล่นแบบฝ้าเพดานสูง ดูโอ่อ่าดี เป็นเหมือนการต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน

บริเวณใกล้ๆประตูจะมีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เก็บรองเท้า เวลาเข้า-ออกห้องจะได้หยิบใส่รวมถึงถอดได้สะดวก หรือใครจะทำเป็นตู้เก็บของ สำหรับเก็บของที่เราต้องหยิบใช้บ่อยๆเวลาออกจากห้อง เช่น กุญแจห้อง , กุญแจรถหรือ Accessory ต่างๆก็ได้เช่นกัน

ใกล้กับประตูทางเข้าห้องเป็นห้องน้ำ เราจึงมาใช้งานได้สะดวกเมื่อกลับมาถึงห้อง เราชอบไอเดียติดตั้งกระจกบานใหญ่ไว้บริเวณนี้ ให้เราได้เช็คความเรียบร้อยของตัวเองก่อนออกจากห้อง

Image 1/6
บรรยากาศภายในห้องน้ำ

บรรยากาศภายในห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งอย่างชัดเจน ใช้งานได้สะดวก โครงการให้ชุดสุขภัณฑ์มาครบครันเหมือนกับห้องน้ำในห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ

Image 1/3
พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกมาเรียบร้อย

พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกมาเรียบร้อย

สำหรับพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.2 x 1.05 เมตร พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย โดยทั่วไปแล้วหากมีห้องน้ำ 2 ห้อง โครงการอื่นๆมักจะให้ Rain Shower มาแค่ Master Bathroom แต่โครงการนี้ให้ทั้ง Hand Shower , Rain Shower ตั้งแต่ห้องน้ำรองเลยค่ะ แล้วยังติดตั้งชั้นวางของภายในส่วนอาบน้ำ สำหรับวางเเชมพู , สบู่มาให้ด้วยนะ

Image 1/3
บรรยากาศพื้นที่นั่งเล่น

บรรยากาศพื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่นเป็นแบบฝ้าสูง 4.7 เมตร พร้อมกระจกบานใหญ่ที่สูงเกือบถึงฝ้าเลย จึงดูโปร่งโล่งและสว่างเป็นพิเศษ แนะนำให้ติดตั้ง Chandelier เพื่อให้ห้องดูหรูหราสวยงามยิ่งขึ้น ภายในห้องปูด้วยพื้นลามิเนต หนา 8 มิลลิเมตร แข็งแรงและทนทานกว่าแบบ 4-6 มิลลิเมตร ที่มักใช้กันทั่วไป

พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่พอจะวางโซฟา 2-3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะหน้าทีวีเล็กๆ สำหรับวางของกินเวลาดูทีวี พื้นที่ตรงนี้มีระยะดูทีวี ประมาณ 2.5 เมตร  เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 50-55 นิ้ว พอให้รับชมได้อย่างชัดเจน

บริเวณนี้โครงการให้แอร์ Wall Type มาด้วยนะ

บริเวณพื้นที่นั่งเล่นมีหน้าต่างบานกระทุ้ง ให้เปิดระบายอากาศได้ และยังกันฝุ่นและฝนสาดได้ดีกว่าบานเปิดหรือบานเลื่อนด้วยนะ

ด้านหลังพื้นที่นั่งเล่นเป็นห้องครัวแบบเปิด เหมาะกับคนที่ทำอาหารไม่จริงจัง แต่ถ้าใครชอบทำอาหารในห้องแนะนำให้ ทำฉากกั้นเป็นครัวปิดนะคะ โครงการ Built-in เคาน์เตอร์มาให้เป็นรูปตัว L พร้อมเว้นพื้นที่ให้วางตู้เย็น เพื่อให้ใช้งานสะดวก นอกจากนี้ยังมีพื้นวางโต๊ะกินข้าว 2-4 ที่นั่งได้ด้วย เราสามารถกินข้าวพร้อมดูทีวีบริเวณห้องนั่งเล่นไปพร้อมๆกัน

Image 1/5
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของพร้อมช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ด้านล่าง

ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของพร้อมช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ด้านล่าง

ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของด้านล่าง ที่มีบานปิดตู้เก็บของเป็นเมลามีน ทนต่อรอยขีดข่วน และความชื้น ใต้ซิงค์ล้างจานมีพื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด  นอกจากนี้ยังมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใช้งานได้ในห้อง ไม่ต้องส่งเสื้อผ้าไปซักที่อื่น

Image 1/4
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหาร เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน

เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหาร เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน

ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์ครัวและ Backsplash เป็นหินสังเคราะห์ แข็งแรงทนความร้อน ทนต่อการขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย บริเวณเคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนทำอาหาร ที่ให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตา ที่วางเป็นแนวนอน ใช้งานได้สะดวก พร้อมที่ดูดควันของ Teka  ส่วนที่สองคือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารบริเวณหัวมุมเคาน์เตอร์ ส่วนสุดท้ายคือซิงค์ล้างจานที่มีความลึกพอสมควร ทำให้น้ำกระเด็นออกมาภายนอกได้น้อยลงเวลาล้างจาน

Image 1/5
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องใส่ไมโครเวฟ

ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องใส่ไมโครเวฟ

ตู้ลอยด้านบนจะมีหน้าบานปิดช่วยกันฝุ่น และมีช่องวางไมโครเวฟเตรียมไว้ให้ ดูเรียบร้อยดีค่ะ

Image 1/2
ประตูเปิดออกไปยังระเบียงห้อง

ประตูเปิดออกไปยังระเบียงห้อง

ประตูของระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เข้า-ออกได้สะดวก ส่วนพื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.95×2.4 เมตร แต่จะกั้นส่วนที่แขวน Condensing Unit ของแอร์ ไว้ ทำให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อยดี

Image 1/3
บรรยากาศภายในห้องนอนชั้นล่าง

บรรยากาศภายในห้องนอนชั้นล่าง

ห้องชั้นล่างอยู่ฝั่งตรงข้ามห้องครัว ใกล้กับห้องน้ำ เราจึงสามารถออกมาเข้าห้องน้ำได้ง่ายเวลากลางคืน

ห้องนี้มีแอร์ Wall Type ให้มาด้วยนะ

บันไดขึ้นชั้นบนเป็นรูปตัว L มีความกว้างประมาณ 0.8 เมตร พอให้ 1 คนเดินขึ้นลงได้ ลองเดินแล้วรู้สึกชันเล็กน้อย ต้องระมัดระวังในการเดินขึ้น-ลง แต่โครงการก็มีราวบันไดให้เราจับตลอดแนวเพื่อเสริมความปลอดภัยค่ะ

ชั้นบนมีพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดประมาณ 2×2.5 เมตรอยู่ ในห้องมาตรฐานโครงการจะทำฉากกั้นก่อนเข้าห้องนอนไว้ให้ด้วย ทำให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น เหมาะกับการทำเป็นพื้นที่ทำงาน อ่านหนังสือ หรือใครจะทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นเพิ่มเติมก็ได้นะ สมมติว่าพี่น้องอยู่ด้วยกัน เวลามีแขกมาเยี่ยมพี่ น้องก็มาใช้พื้นที่ตรงนี้พักผ่อนได้ โดยไม่รบกวนกัน

โครงการให้แอร์ Wall Type ในห้องนี้มาเช่นกัน

Image 1/2
หน้าต่างบานกระทุ้งบริเวณพื้นที่อเนกประสงค์

หน้าต่างบานกระทุ้งบริเวณพื้นที่อเนกประสงค์

บริเวณพื้นที่อเนกประสงค์มีหน้าบานกระทุ้ง เมื่อเปิดหน้าต่างออกไปจะเจอกับพื้นที่ระเบียงที่มีชายคาคลุมอยู่พอดีเลยนะ ทำให้บริเวณนี้ฝนสาดเข้ามาได้ยากขึ้น ทำให้เราสามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศได้ง่ายขึ้น

ถัดมาเป็นห้องนอน แต่จะยังไม่ใช่ส่วนพักผ่อนในทันที จะเจอทางเดินไปยังพื้นที่แต่งตัวหน้าห้องน้ำก่อน ทำให้เจ้าของห้องได้ความเป็นส่วนตัว

หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับแต่งตัว ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เราสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปอาบน้ำต่อได้เลย ซึ่งโครงการจะให้ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ ทำให้บริเวณนี้พร้อมใช้งานเลยนะ

Image 1/9
ห้องน้ำในห้องนอน

ห้องน้ำในห้องนอน

ห้องน้ำในห้องนอนมีการวางผังและให้ชุดสุขภัณฑ์มาเหมือนห้องน้ำด้านล่างเลยค่ะ ใช้งานได้สะดวก เวลาดึกดื่นเราก็มาใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องลงไปใช้ห้องน้ำด้านล่าง

Image 1/3
Master Bedroom

Master Bedroom

โซนพักผ่อนของห้องนอนมีขนาดประมาณ 3.1 x 3.1 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ แล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียงอีกค่อนข้างเยอะ โดยชั้นบนนี้จะมีความสูงฝ้าเพดาน 2.2 เมตร ตามมาตรฐานทั่วไปเลยค่ะ

จากเตียงมองตรงไปเราจะเห็นบริเวณ Double Volume พอดี จึงมองเห็น Chandelier ได้ชัดเจน เหมือนได้วิวประติมากรรมสวยๆขณะพักผ่อนเลยนะ หากกังวลว่าคนด้านล่างจะมองขึ้นมาเห็น แนะนำให้ติดผ้าม่านนะคะ

Image 1/2
มุมมองพื้นที่นั่งเล่นจาก Master Bedroom

มุมมองพื้นที่นั่งเล่นจาก Master Bedroom

จาก Master Bedroom มองลงมาจะเห็น พื้นที่นั่งเล่นด้านล่าง ดูสบายตาดีค่ะ

ราคา

XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) ราคา ณ วันที่ 5 กันยายน 2568

Simplex

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 29-35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
    – ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 17,140 บาท
    – ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 1,421 บาทต่อเดือน (ปีแรก)
    – ค่ากองทุนเริ่มต้น 14,500 บาท
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 48.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.80 ล้านบาท
    – ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ  22,915 บาท
    – ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 2,365 บาทต่อเดือน (ปีแรก)
    – ค่ากองทุนเริ่มต้น 24,125 บาท
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 55.50 – 56.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.29 ล้านบาท
    – ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 25,255 บาท
    – ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 2,720 บาทต่อเดือน (ปีแรก)
    – ค่ากองทุนเริ่มต้น 27,750 บาท 
  • 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 85.5 ตร.ม. (N/A ราคา)

Loft

  • 1 Bedroom (Loft) พื้นที่โฉนด 23.75 – 28.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายในรวม Furniture Level 32.75 – 41.00 ตร.ม. ราคาพิเศษเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท*
    – ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 15,707 บาท
    – ค่าส่วนกลางเริ่มต้น  1,164 บาทต่อเดือน (ปีแรก)
    – ค่ากองทุนเริ่มต้น 11,875 บาท

  • 2 Bedroom  2 Bathroom  (Loft) พื้นที่โฉนด 34.75 – 38.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายในรวม Furniture Level 52.50-65.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.73 ล้านบาท
    – ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 27,355 บาท
    – ค่าส่วนกลางเริ่มต้น  1,703 บาทต่อเดือน (ปีแรก)
    – ค่ากองทุนเริ่มต้น 17,375 บาท

ราคาผ่อนต่อเดือนยกตัวอย่างจาก ดอกเบี้ย 4% ระยะเวลาผ่อน 30 ปี*
สามารถคลิกดูอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันได้ที่ >> อัปเดต! ดอกเบี้ยบ้าน 2568 ทุกธนาคาร

  • รูปแบบการขาย  Fully Fitted
  • จอง 5,000-50,000 บาท
  • ทำสัญญา 20,000-100,000 บาm
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลางปีแรก 49 บาท/ตร.ม./เดือน ปีที่สอง 60 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

Tips : แนะนำการขอสินเชื่อกับธนาคาร 

เกณฑ์การพิจารณาการขอสินเชื่อจากธนาคาร ควรมีเงื่อนไขตรงกับข้อไปนี้ค่ะ

  • มีรายรับชัดเจน สม่ำเสมอ(ไม่ผันผวน) ต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือน และสามารถตรวจสอบได้
  • ควรมีภาระหนี้รวมทั้งหมด (ทั้งบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต และอื่นๆ) ไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
  • มีรายได้ต่อเดือนมากกว่าค่าผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน 3 เท่าขึ้นไป

หากต้องการผ่อนบ้านให้หมดไว แนะนำให้โปะเพิ่มประมาณ 10% ของงวดผ่อน จะช่วยลดระยะเวลาผ่อนลงได้ 4 – 7 ปี (ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ย) และควร Refinance หรือ Retention เพื่อให้ดอกเบี้ยลดลงทุกๆ 3 ปี ทั้งนี้อย่าลืมเผื่อค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและตกแต่ง*ก่อนเข้าอยู่เพิ่มเติมด้วยนะคะ

บทสรุป

ทำเล : โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 เลยค่ะ รอบๆโครงการมีแหล่งอุดมความสมบูรณ์ครบครัน เริ่มจากซูเปอร์มาเก็ตและห้างสรรพสินค้า อย่าง สวนเพลิน Market , Big C Extra ที่สามารถเดินไปได้ในระยะ 450-750 เมตร ส่วน Lotus’s และ Emporium & EmQuartier ก็อยู่ในระยะ 2 กิโลเมตร ลูกบ้านหาของกินของใช้ได้ง่ายๆ  ที่น่าสนใจคือแหล่งงานโซนนี้มีทั้งแนวถนนพระราม 4 และถนนสุขุมวิท เช่น FYI Center , อาคารมาลีนนท์ , T-one สามารถขับรถหรือนั่งวินไปทำงานได้สบายๆ

การเดินทางโดยใช้รถ : จากทำเลโครงการมีซอยให้ลัดเลาะไปยังถนนสุขุมวิทได้หลายทาง โดยไม่ต้องผ่านจุดที่รถติดหนักๆเลยค่ะ นอกจากนี้ถนนพระราม 4 ยังเชื่อมต่อไปยังถนนรัชดาภิเษก , ถนนวิทยุและถนนราชดำริได้ไม่ยากเลย ทำให้เราเดินทางไปอโศก , ชิดลม ,  สยามได้ ส่วนทางด่วนที่ใกล้ที่สุดประมาณ 2.8 กิโลเมตร คือทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งไปดินแดง , พระราม 3  โครงการมีที่จอดรถไว้ให้ 44.5% นับว่าค่อนข้างมากในโซนนี้เลยนะ เหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเลยค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการห่างจาก BTS ทองหล่อประมาณ 1.5 กิโลเมตร สามารถนั่งรถของโครงการหรือเดินไปใช้บริการพี่วินได้ไม่ยาก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางค่ะ

วัสดุ : โครงการขายแบบ Fully Fitted ให้เฟอร์นิเจอร์ชุดครัวและวัสดุสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เหมาะกับคนที่ชอบตกแต่งและเลือกซื้อเฟอร์ฯ เองตามความชอบของผู้อยู่อาศัย  ห้องฝ้าเพดานสูงจะให้ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาด้วย ทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อของเข้าห้องไปได้เยอะเหมือนกัน  พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนต 8 มิลลิเมตร จึงต้องระวังความชื้น ส่วนชุดครัวและห้องน้ำได้เหมือนในห้องตัวอย่าง วัสดุอื่นๆให้ตามมาตรฐานราคานี้

การออกแบบโครงการ : โครงการจัดผังโครงการได้ดี มีการแบ่งกั้นเขตระหว่างโซนพักอาศัยและโซนส่วนกลางได้ชัดเจน ใกล้ๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสูงไม่เกิน 4 ชั้น โครงการจึงออกแบบให้ห้องพักอาศัยอยู่ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไป ทำให้ลูกบ้านส่วนใหญ่ได้วิวแบบเปิดโล่ง ตัวส่วนกลางของโครงการกระจายไว้ 5 ชั้น คือชั้น 1 , 7 , 33 , 34 และ 35  ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งานส่วนกลางได้ Main Facility จะอยู่ชั้นบนของอาคารทำให้ได้วิวเมืองแบบ 360 องศา

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : โครงการมีห้องพักอาศัยให้เลือกหลายแบบหลายขนาด ตั้งแต่ 1 Bedroom ไปจนถึงห้อง 3 Bedroom ซึ่งห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom และ 3 Bedroom เป็นห้องที่หาได้ยากในโซนนี้ ความสูงฝ้าเพดานของห้อง Simplex อยู่ที่ 2.7 เมตร ซึ่งสูงกว่าโครงการทั่วไปๆ 20-30 เซนติเมตรเลยนะ ส่วนห้องฝ้าเพดานสูงก็สูงประมาณ 4.7 เมตร มากกว่าโครงการอื่นๆ 50 เซนติเมตรได้ ทำให้ห้องพักของโครงการดูโปร่งเป็นพิเศษ ภายในห้องมีการกั้นเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน ห้อง 1 Bedroom Type 1B มีห้องน้ำแบบ Jack & Jill ใช้งานได้สะดวก ส่วนห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom ออกแบบให้ Master Bedroom มีห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก

สาธารณูปโภค : Facility ของโครงการมีมาให้ครบครันน่าใช้งาน โดยแบ่งให้ชั้น 1 เป็นพื้นที่ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน ส่วนชั้น 7 , 35 เป็นสวนย่อม ชั้น 33 เป็น Facility ของคนที่ชอบออกกำลังกาย มีทั้งสระว่ายน้ำระบบโอโซนที่ยาวถึง 30 เมตร ซึ่งยาวกว่าโครงการทั่วไปเล็กน้อย และฟิตเนสก็มีเครื่องออกกำลังกายที่กำลังนิยมอยู่อย่าง เครื่องเล่นพิลาทิส และชั้น 34 เป็นพื้นที่พักผ่อนและ Co-Working Space ที่จัดโซนทำงานไว้หลากหลายแบบเลยนะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 129,000 บาท/ตร.ม., 5 กันยายน 2568

  • ทำเล 7.75/10 – ติดถนนพระราม 4 ใกล้แหล่งอุดมความสมบูรณ์
  • เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – มีทางลัดเลาะไปสุขุมวิท ใกล้ทางด่วน 2 จุด
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – ห่างจาก BTS 1.5 กิโลเมตร , มีรถรับส่งจาก BTS มาโครงการ , มีพี่วินคอยบริการอยู่ใกล้ๆโครงการ
  • วัสดุ 7.5/10 – ขายแบบ Fully Fitted และวัสดุมาตรฐานของระดับราคานี้
  • แบบ 8.5/10 – มีห้อง Simplex และห้องฝ้าเพดานสูงอยู่ชั้นล่าง ภายในห้องฝ้าสูง 2.7 / 4.7 เมตร
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบครันหลากหลาย กระจายส่วนกลางไว้ 5 ชั้น

  • UPPER CLASS
  • 7.92 / 10.00

XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) เหมาะกับใคร

โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดใกล้ใจกลางเมือง เดินทางไปเส้นสุขุมวิท , รัชดาภิเษกและสาทรได้ง่าย ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ก็อยู่ไม่ไกลจาก BTS ทองหล่อ มีรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทาง โครงการอยู่ใกล้แหล่งอุดมความสมบูรณ์ หาของกินของใช้ได้ไม่ยาก ห้องพักมีหลายขนาดรองรับคนได้ 1-6 คน มีทั้งห้อง Simplex และห้องฝ้าเพดานสูงให้เลือก ใครที่มีงบประมาณระดับ 3.59 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 25,130 บาท/เดือนก็สามารถจับจองโครงการนี้ได้แล้วค่ะ

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่