
รีวิวฉบับที่ 2895 … เปิดตัวโครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) คอนโด High Rise 37 ชั้น แบรนด์ใหม่จาก แสนสิริ ที่ร่วมลงทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) ทำเลติดถนนพระราม 4 ใจกลางเมือง เข้าสู่ถนนสุขุมวิทได้ง่าย ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อประมาณ 1.5 กิโลเมตร สะดวกในเรื่องการเดินทาง ไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักก็สะดวกทั้งนั้น ตัวห้องมีทั้งห้อง Simplex และห้องฝ้าสูง 4.7 เมตร ในราคาดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดในย่านเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท เราได้ Highlights ไว้ให้หมดแล้วค่ะ
- ติดถนนพระราม 4 : มีซอยให้ลัดเลาะไปถนนสุขุมวิทได้หลายทาง โดยไม่ต้องผ่านแยกพระโขนงหรือแยกคลองเตยที่รถติดมาก ๆ
- ไม่ไกลจาก BTS ทองหล่อ : ประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีทั้งรถรับ-ส่งของโครงการและพี่วินคอยให้บริการที่ปากซอยสุขุมวิท 36 จึงไปใช้รถไฟฟ้าได้ไม่ยาก
- ใกล้แหล่งอุดมความสมบูรณ์ : โครงการอยู่เยื้องๆกับ Lotus’s , สวนเพลิน Market นอกจากนี้ยังห่างจาก Big C Extra และ K Village เพียง 1-2 กิโลเมตร ลูกบ้านไปหาของกินของใช้ได้ง่าย
- ราคาจับต้องได้ง่ายที่สุดในย่าน : เมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านที่มีขนาดห้องใกล้เคียงกันมักมีราคาประมาณ 3 ล้านปลายๆไปถึง 4 ล้านกลางๆเลยค่ะ ในขณะที่โครงการนี้เริ่มต้นที่ 3.59 ล้านบาท ถือว่ามีราคาเข้าถึงได้ง่ายที่สุด
- มี Main Facility ส่วนกลางอยู่ชั้นบน : ทำให้สามารถชมวิวเมืองมุมกว้าง
- ห้องเพดานสูง สูงถึง 4.7 เมตร : สูงกว่าห้องเพดานสูงทั่วๆไป 30-50 เซนติเมตร จึงดูโปร่งกว่าเหมาะกับคนที่ชอบทำเลแบบคอนโด แต่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น
- มีห้องเพดานสูง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำให้เลือก : ซึ่งเป็น Type ห้องที่หาได้ยากทีเดียวค่ะ รองรับสมาชิกครอบครัว 2-4 คนได้เลย ใช้งานได้สะดวก
ข้อมูลโครงการ
XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) ณ วันที่ 5 กันยายน 2568
ชื่อโครงการ | XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร |
ที่ดิน | ประมาณ 4 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 37 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 1 ชั้น 1 อาคาร, อาคารพาณิชย์ 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 946 ยูนิต, 3 ร้านค้า |
ที่จอดรถ | 44.5% |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2568 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2570 |
ประเภทห้องพัก |
|
ราคาเริ่มต้น | 3.59 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 129,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1685 |
Line | @xelfbysansiri |
ทำเลที่ตั้ง
Highlight
- ติดถนนพระราม 4 : มีซอยให้ลัดเลาะไปถนนสุขุมวิทได้หลายทาง โดยไม่ต้องผ่านแยกพระโขนงหรือแยกคลองเตยที่รถติดมาก ๆ
- ไม่ไกลจาก BTS ทองหล่อ : ประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีทั้งรถรับ-ส่งของโครงการและพี่วินคอยให้บริการที่ปากซอยสุขุมวิท 36 จึงไปใช้รถไฟฟ้าได้ไม่ยาก
- ใกล้แหล่งอุดมความสมบูรณ์ : โครงการอยู่เยื้องๆกับ Lotus’s นอกจากนี้ยังห่างจาก Big C Extra และ K Village เพียง 1-2 กิโลเมตร ลูกบ้านไปหาของกินของใช้ได้ง่าย
พิกัด Google Maps : 13.716875156936261, 100.57533063806437
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) ค่ะ
หากเราพูดถึงแบรนด์ XELF ทุกคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไรนัก เพราะ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) เป็น 1 ในแบรนด์น้องใหม่จากแสนสิริที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Location ถัดจากคอนโดรุ่นพี่อย่าง NIA by Sansiri ที่ใกล้กับทางด่วนและ FLO by Sansiri ที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วน XELF by Sansiri มาจากคำว่า ‘Flex’ หมายถึงคอนโดที่อยู่บนทำเลใจกลางเมืองมีความ Flexible สูง เดินทางไปไหนมาไหนได้ง่าย ไม่ว่าจะใช้รถไฟฟ้าหรือรถส่วนตัวก็สะดวกเช่นกัน
โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญมีทั้งห้างสรรพสินค้า , โรงเเรม ,โรงพยาบาล , Office Building ,สวนสาธารณะและสถานศึกษาชื่อดังตั้งอยู่หลายแห่ง เช่น One Bangkok , Silom Edge , Med Park , Dusit Central Park , FYI Center , อาคารมาลีนนท์ , T-one , ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เรียกได้ว่าถนนเส้นนี้มีครบเครื่อง ครบครันทุกอย่างของความเจริญและความสมบูรณ์จริงๆนะ เราจึงสังเกตได้ว่ามีคอนโดใหม่ๆมาเปิดบนโซนนี้เรื่อยๆ ทำเลนี้เหมาะกับคนอยากอาศัยอยู่ใกล้ๆตัวเมือง เดินทางไปทำงานในเมืองอย่างโซนพระราม 4 , สุขุมวิท , อโศกได้ไม่ยาก หรือ ไปทำงานอีกฝั่งอย่างอ่อนนุชก็สะดวกเช่นกัน
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าโครงการตั้งอยู่ระหว่างแยกคลองเตยและแยกพระโขนง ถ้าใครเคยขับรถผ่าน 2 จุดนี้ในช่วงเช้าหรือเย็นจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า’รถติดมาก’ แต่ด้วยความที่ถนนพระราม 4 เป็นถนนคู่ขนานไปกับถนนสุขุมวิท ทำให้เราสามารถลัดเลาะไปตามซอยสุขุมวิท 36 , 42 ไปยังถนนสุขุมวิทโดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่หรือแยกต่างๆที่กล่าวมาเลยค่ะ ช่วยประหยัดเวลารถติดไปได้เยอะทีเดียว ส่วนขากลับมายังโครงการก็สามารถใช้ซอยสุขุมวิท 26 ได้ คนทำงานช่วงระหว่างซอยสุขุมวิท 42 กับ 26 จึงสามารถขับรถไปทำงานได้สะดวกมากๆ
โครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซึ่งโครงการจะมี Shuttle Service คอยให้บริการรับ-ส่งจากโครงการไป BTS ทองหล่อ ตั้งแต่ 7.00 – 19.00 น. แต่ถ้าใครไม่อยากรอรถของโครงการเดินออกมาประมาณ 250 เมตร จะเจอกลุ่มพี่วินคอยให้บริการอยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 36
อย่างที่เราบอกว่าโซนนี้มีแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน เริ่มจากแหล่งอุดมความสมบูรณ์ในโซนนี้บอกเลยว่ามีหลากหลายมากๆ เริ่มจากสวนเพลิน Market เป็น Community ที่ใกล้โครงการที่สุด สามารถเดินไปได้ประมาณ 450 เมตรเท่านั้น ส่วนเยื้องๆโครงการจะมี Lotus’s และก่อนถึงโครงการก็มี Big C Extra อยู่ ทำให้เราแวะหาของกินของใช้สะดวกทั้งตอนออกจากคอนโดและก่อนกลับเข้าคอนโดเลยนะ หรือใครที่ชอบเดินห้างใหญ่ๆ ก็คงถูกใจโซนนี้ไม่น้อยเลยแหละ เพราะในระยะ 2-3 กิโลเมตร มีทั้ง EmSphere , Emporium & EmQuartier และ One Bangkok
ส่วนใครที่ชอบออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ ก็จะถูกใจทำเลนี้เป็นพิเศษ เพราะในระยะ 3-4 กิโลเมตรมีทั้งสวนเบญจกิติ , สวนลุมพินีและสวนเบญจสิริ เราเลือกได้เลยค่ะ ว่าวันนี้จะไปวิ่งที่ไหน หรือเช้าไปสวนหนึ่ง เย็นอีกสวนหนึ่งก็ยังไหว เพราะใกล้มากทีเดียว สำหรับใครที่ให้ความสำคัญกับความใกล้โรงพยาบาล เวลาเกิดเหตุใดๆแล้วไปหาหมอง่ายก็ต้องทำเลนี้เช่นกัน เพราะเยื้องโครงการมีโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ตั้งอยู่ อันนี้เดินไปได้เลยแหละ เพราะห่างแค่ 500 เมตร หรือใกล้ๆก็มีทั้งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทยและโรงพยาบาลเมดพาร์ค ลูกบ้านไม่ต้องกังวลเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยเลยนะ ต่อให้อยู่คนเดียวก็เดินทางไปหาหมอได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังตอบโจทย์คนที่ชอบสังสรรค์เหมือนกัน เพราะถนนทองหล่อมีร้าน Hang Out ตั้งอยู่ตลอดเเนวเลยนะ สามารถเรียกรถไปได้ในระยะ 3 กิโลเมตรเท่านั้นเอง
เส้นทางไปจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร
ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะมี 2 จุด จุดแรกคือทางด่วนเฉลิมมหานครที่อยู่ห่างออกไป 2.8 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปยังโซนพระราม 3 หรือจตุจักร , ดินแดงได้ ส่วนทางด่วนฉลองรัชที่อยู่ห่างจากโครงการออกไป 3 กิโลเมตร ก็ใช้เดินทางไปโซนรามอินทราหรือลาดพร้าวได้ด้วย โครงการนี้จึงเดินทางสะดวกไม่ว่าจะเข้าเมืองหรือออกไปยังรอบนอกค่ะ
เราจึงมองว่าโครงการนี้รองรับกลุ่มคน 2 กลุ่มเป็นหลักคือ กลุ่มคนทำงานตามแนวเส้นสุขุมวิท กลุ่มนี้ได้เปรียบกว่าใคร ไม่ว่าจะใช้รถไฟฟ้าหรือใช้รถยนต์ก็สะดวกทั้งนั้น อีกกลุ่มคือคนทำงานหรือเรียนตามแนวถนนพระราม 4 , รัชดาภิเษกที่สะดวกต่อการขับรถไปทำงาน
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) ตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 4 โดยรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 4 ชั้น , อาคารพักอาศัย 8 ชั้น , ที่ว่างรอการพัฒนา แต่ฝั่งตะวันตกจะมีอาคารสูงอยู่บ้าง
- ทิศเหนือ ติดกับ อาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น , อาคารพักอาศัย 3-5 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น , อาคารพักอาศัย 8 ชั้น , ที่ว่างรอการพัฒนา , ชุมชนบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ ถนนพระราม 4 , อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ ชุมชนบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น , อาคารพักอาศัย 30-47 ชั้น , อาคารสำนักงาน 37-40 ชั้น
บรรยากาศหน้าโครงการ ติดกับถนนพระราม 4
บรรยากาศหน้าโครงการ ติดกับถนนพระราม 4 ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัย นอกจากนี้ยังเห็นทั้งโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์และ Lotus’s พระราม 4 อยู่ไกลๆอีกด้วย ลูกบ้านสามารถออกไปซื้อของหรือใช้บริการได้ง่ายๆ ส่วนโครงการอยู่ระหว่างคอนโดรุ่นพี่อย่าง OKA Huas ของแสนสิริ ที่ Sold Out ไปเป็นที่เรียบรอยแล้ว กับที่ว่างรอการพัฒนา ที่เรามองว่าอาจถูกนำไปทำเป็นคอนโดได้อีก
Sales Gallery ของโครงการอยู่ตำแหน่งเดียวกับพื้นที่ก่อสร้างของโครงการเลยนะ
Sales Gallery ของโครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) อยู่ติดถนนพระราม 4 ซึ่งเป็นตำแหน่งของโครงการเลยนะ ภายใน Sale Gallery มีห้องตัวอย่างให้ดู 2 แบบคือ ห้อง 1 Bedroom Type 1 B พื้นที่ใช้สอย 29.75 – 30.75 ตร.ม. และ 2 Bedroom 2 Bathroom Type 1 Jm พื้นที่ใช้สอย 59.5 – 59.75 ตร.ม. พื้นที่โฉนด 35.25 – 35.5 ตร.ม. นอกจากนี้ยังมีโมเดลของโครงการให้ดูด้วยนะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- สวนเพลิน Market ~ 1.2 km. (ระยะเดิน 450 m.)
- Big C Extra พระราม 4 ~ 1.5 km. (ระยะเดิน 750 m.)
- Lotus’s พระราม 4 ~ 1.6 km.
- K Village ~ 1.6 km.
- Emporium & EmQuartier ~ 2.6 km.
- EmSphere ~ 2.8 km.
- The Commons~ 3.6 km.
- One Bangkok ~ 4.5 km. (ระยะจากห้างมาโครงการ ~ 3.2 km. )
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ ~ 500 m.
- โรงพยาบาลสุขุมวิท ~ 2.1 km.
- โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~ 2.6 km.
- โรงพยาบาลเมดพาร์ค ~ 3.2 km. (ระยะจากโรงพยาบาลมาโครงการ ~ 2.2 km. )
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ~ 5.4 km.
โรงเรียน
- โรงเรียนนานาชาติทรีนีตี้ ~ 1.3 km.
- โรงเรียนนานาชาติเวลล์ ~ 2.0 km.
- โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ~ 2.9 km.
- โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ~ 3.0 km.
- โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ ~ 4.1 km.
- โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ~ 4.6 km.
- มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ~ 5.9 km.
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 7 km.
การเดินทาง
- รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ~ 2.1 km. ( ระยะเดิน 1.5 m. )
- รถไฟฟ้า BTS พระโขนง ~ 2.1 km.
- รถไฟฟ้า MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ~ 2.9 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- มี Main Facility ส่วนกลางอยู่ชั้นบน : ทำให้สามารถชมวิวเมืองมุมกว้าง
- กระจาย Facility ไว้ 5 ชั้น : ช่วยลดความหนาแน่นในการใช้งานแต่ละส่วน
- มีห้องฝ้าเพดานสูงอยู่ชั้นล่าง : ทำให้ราคาไม่สูงนัก คนจับต้องได้ง่ายขึ้น
โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) เป็นคอนโด 37 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 4 ไร่ รวมทั้งหมด 946 ยูนิตและร้านค้าอีก 3 ยูนิต ที่เราคาดว่าน่าจะมีร้านสะดวกซื้อเป็น 1 ใน 3 ของร้านค้า เพราะเรามองว่า OKA Huas ยังไม่มีร้านสะดวกซื้อเช่นกัน หมายความว่าถ้ามีร้านสะดวกซื้อมาเปิด จะรองรับลูกค้าได้ทั้ง 2 คอนโดเลยค่ะ
โครงการกระจายส่วนกลางไว้ถึง 5 ชั้น คือชั้น 7 , 33 , 34 และ 35 ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน ส่วนกลางทั้งหมดจะหันหน้าไปทางฝั่งถนนพระราม 4 และฝั่งทิศตะวันตกที่อยู่ติดกับที่ว่าง เพื่อให้ลูกบ้านได้ชมวิวเมืองอย่างเต็มที่ ส่วนตัวห้องในโครงการมีให้เลือกทั้งแบบ Simplex และห้องฝ้าเพดานสูง โดยแบ่งดังนี้
- ชั้น 7-9 ห้องพักอาศัยแบบ Simplex
- ชั้น 10-19 ห้องพักอาศัยฝ้าเพดานสูง
- ชั้น 20-31 ห้องพักอาศัยแบบ Simplex
- ชั้น 32-37 ห้องพักอาศัยฝ้าเพดานสูง
โดยปกติแล้วเราจะเห็นโครงการทั่วไปวางผังให้ห้องฝ้าเพดานสูงอยู่ชั้นบนๆ ทำให้มีราคาสูงขึ้นไปอีก แต่โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) สลับชั้นที่เป็นห้อง Simplex กับ ห้องฝ้าเพดานสูง ทำให้เรายังมีห้องฝ้าสูงในชั้นไม่สูงนัก เปิดโอกาสให้คนที่ชอบคอนโดที่ให้บรรยากาศเหมือนบ้าน 2 ชั้น ได้จับจองได้ง่ายมากขึ้น
มาเริ่มกันที่ Master Plan ของ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) กันเลยค่ะ มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวเท่านั้นคือจากฝั่งถนนพระราม 4 ทั้งลูกบ้านและแขกที่มาเยี่ยมเยือนต้องผ่านซุ้มประตูโครงการก่อน ซุ้มประตูโครงการขยับเข้ามาด้านในโครงการถัดจาก Shop เล็กน้อย เพื่อกันสัดส่วนระหว่างพื้นที่ส่วนที่คนนอกมาใช้งานได้และพื้นที่ของลูกบ้าน โดยโครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน ลูกบ้านสามารถเข้า-ออกได้เลย ส่วนแขกที่มาเยี่ยมต้องแลกบัตรก่อนนะ หากเรามาส่งเพื่อนก็จอดส่งที่จุด Drop-Off แล้ววนออกไปได้เลย ส่วนลูกบ้านในโครงการจะต้องขับรถเลยไปยังที่ทางเข้าที่จอดรถด้านหลังอาคาร สำหรับที่จอดรถมีมากถึง 44.5% ซึ่งถือว่าให้มามากกว่าโครงการส่วนใหญ่เล็กน้อย ที่มักให้มาประมาณ 30-40% ถือว่าโครงการรองรับคนใช้รถยนต์ส่วนตัวได้เยอะเหมือนกันนะ โดยที่จอดรถจะเป็นที่จอดแบบใต้ชายคาทั้งหมดเลย ช่วยถนอมรถเราไม่ต้องตากแดดลมฝนค่ะ
ชั้น 1 เป็นชั้นที่เข้าถึงง่ายที่สุด โครงการจึงนำ Shop ทั้ง 3 ยูนิต มาไว้ด้านหน้าโครงการ เพื่อให้คนภายนอกเข้ามาใช้งานพื้นที่ร้านค้าได้สะดวก แต่โครงการก็มีประตูเล็กพร้อมติดตั้ง Access Control สำหรับคัดกรองคนเข้ามาในโครงการ ทำให้คนนอกเข้ามาในโครงการไม่ได้ นอกจากนี้ชั้น 1 ยังมีแขกที่มาเยี่ยมเยือนโครงการอีกด้วย จึงพลุกพล่านกว่าชั้นอื่นๆ โครงการจึงยกห้องพักอาศัยทั้งหมดไปอยู่ชั้นบน ซึ่งเรามองว่าเป็นข้อดีนะ เพราะคนนอกเข้าถึงไม่ได้ ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว ส่วนกลางที่อยู่ชั้น 1 จะมีเพียงแค่ Welcome Lounge ที่แขกสามารถเข้าไปนั่งรอลูกบ้านได้เลยและสวนส่วนกลางอีก 2 จุด
ฝั่งตรงข้าม Welcome Lounge เป็นโซนของลูกบ้านประกอบไปด้วย ห้องนิติบุคคลและ Mail Room ทำให้ลูกบ้านแวะมาติดต่อหรือเอาพัสดุ , จดหมายได้ก่อนขึ้นไปยังห้องพัก ส่วนโถงลิฟต์มี Access Control อยู่ ลูกบ้านต้องสแกนหน้าก่อนถึงจะเข้าไปได้ อาคารพักอาศัยมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 5 ตัว หรืออัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 189.5 : 1 ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็แนะนำให้เผื่อเวลารอลิฟต์กันนะคะ
พื้นที่ Semi Outdoor Lobby อยู่ใกล้กับส่วนของ Drop-Off มากที่สุด แขกที่มาเยี่ยมเยือนสามารถนั่งพักคอยบริเวณนี้พร้อมกับชมวิวสวนส่วนกลาง หรือลูกบ้านจะมานั่งรอเวลาเรียกรถ Taxi หรือ Grab ก็ได้
บรรยากาศภายใน Welcome Lounge
ภายใน Welcome Lounge แบ่งออกเป็น 4 โซน แบ่งออกเป็น Grand Living , Living Area และ Relaxing Area ที่ใช้เป็นมุมพักผ่อนเหมือนกัน เอาไว้ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมโครงการ ส่วน Communal Area เป็นเหมือนมุมเอาไว้นัดพบปะพูดคุยกัน เช่น เวลาเรานัดแขกมาคุยงานกันสั้นๆ ก็ใช้พื้นที่ตรงนี้ได้ค่ะ
ชั้น 7 มีทั้งห้องพักอาศัยและสวนส่วนกลางอยู่ แต่ก่อนออกจากโถงลิฟต์ไปยังโซนพักอาศัยหรือไปสวนจะต้องผ่าน Access Control ก่อน หมายความว่าคนที่ผ่านไปยังโซนพักอาศัยได้ต้องเป็นลูกบ้านที่พักชั้นนี้เท่านั้น ทำให้ลูกบ้านรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย จากแปลนอาคารจะเห็นว่าโซนพักอาศัยแบ่งออกเป็นฝั่งด้านหน้าอาคารที่เน้นห้อง Type ใหญ่และฝั่งด้านหลังอาคารที่เน้นห้อง Type เล็ก โดยโซนพักอาศัยที่เรามองว่าน่าสนใจมีอยู่ 4 โซนด้วยกัน ดังนี้
- โซนในกรอบเส้นประสีน้ำเงิน : เป็นห้องพักอาศัยที่อยู่ฝั่งสวนส่วนกลาง ลูกบ้านโซนนี้จึงได้บรรยากาศเหมือนห้องริมสวนเลยนะ เพียงแต่ไม่ใช่ Garden Access เท่านั้นเอง
- โซนในกรอบเส้นประสีแดง : อยู่ใกล้โถงลิฟต์สะดวกในการขึ้น-ลงอาคารมากที่สุด เหมาะกับคนที่ชอบความรวดเร็วในการเข้าถึงตัวห้องพัก
- โซนในกรอบเส้นประสีเขียว : เป็นห้องที่อยู่หัวมุมอาคาร และมีส่วนที่เป็นกระจกทั้ง 2 ด้าน ทำให้เราได้วิว 2 ฝั่งค่ะ
- โซนในกรอบเส้นประสีส้ม : อยู่ติดกับพื้นที่ว่าง ทำให้ได้วิวเปิดโล่ง
สวนส่วนกลางชั้น 7 มีส่วนของ Pavilion ให้เราออกมานั่งพักผ่อนได้ เราชอบที่โครงการจัดให้สวนมาอยู่ฝั่งทิศตะวันออก ที่ติดกับพื้นที่โล่งและอาคารที่สูงไม่มากนัก ทำให้เราได้วิวเมืองเต็มตา
ชั้น 33 เป็นชั้นที่มี Main Facility หลักๆอย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนส โครงการจัดให้สระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าอาคาร ซึ่งเป็นฝั่งที่ไม่มีห้องพักอยู่เลยตั้งแต่ชั้น 33-35 จะมีก็แต่ห้อง 3 Bedroom บนชั้น 36-37 เพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้นที่มองเห็น ช่วยหลีกเลี่ยงสายตาจากลูกบ้านที่พักอาศัยได้ดีเลยค่ะ คนที่มาว่ายน้ำจึงไม่รู้สึกเคอะเขิน ส่วนฟิตเนสอยู่ใกล้สระว่ายน้ำ เราสามารถออกกำลังกายไปพร้อมชมวิวสระและวิวเมืองได้
นอกจากนี้ชั้น 33 ยังมีโซนพักอาศัยอยู่ด้วย แต่มีเพียงโซนด้านหลังอาคารเท่านั้น จะผ่านเข้าไปยังโซนพักอาศัยได้จะต้องสแกนหน้าก่อนเหมือนชั้นอื่นๆเลยค่ะ ส่วนโซนพักอาศัยที่น่าสนใจก็มี 3 โซน คือ
- โซนในกรอบเส้นประสีน้ำเงิน : เป็นห้องพักอาศัยที่หันหน้าเข้าสวนส่วนกลางของชั้น 7 จึงได้วิวส่วนกลางของอาคารด้วย
- โซนในกรอบเส้นประสีแดง : อยู่ใกล้โถงลิฟต์สะดวกในการขึ้น-ลงอาคารมากที่สุด เหมาะกับคนที่ชอบความรวดเร็วในการเข้าถึงตัวห้องพัก
- โซนในกรอบเส้นประสีเขียว : เป็นห้องที่อยู่หัวมุมอาคาร และมีส่วนที่เป็นกระจกทั้ง 2 ด้าน ทำให้เราได้วิว 2 ฝั่งค่ะ
บรรยากาศสระว่ายน้ำ
ตัวสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาด 5.5 x 30 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อมสระเด็กและโซน Jacuzzi ลูกบ้านว่ายน้ำออกกำลังกายได้อย่างจริงจัง สระว่ายน้ำอยู่ทางทิศใต้จึงเหมาะกับการมาใช้งานช่วงเย็นๆ ตัวสระว่ายน้ำเป็นระบบโอโซน ฆ่าเชื้อไวรัสแบคทีเรียได้ดี ปลอดภัยต่อคนที่แพ้ง่าย ไม่แสบตาแสบจมูก แถมยังไม่มีกลิ่นฉุนแบบสระคลอรีนอีกด้วย
ห้องฟิตเนสมีขนาดใหญ่ รองรับการออกกำลังกายทั้งแบบ Cardio หรือ Weight training เราสามารถออกกำลังกายไปพร้อมมองวิวเมืองสวยๆ หรือวิวสระว่ายน้ำก็ได้ ช่วยให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่อ นอกจากนี้ยังมี Yoga Room สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายแบบเน้นความยืดหยุ่นในร่างกายด้วยนะ ภายในมีทั้งพื้นที่สำหรับโยคะและเครื่องเล่นพิลาทิสให้ใช้งานค่ะ
ชั้น 34 มีทั้ง Facility ส่วนกลางและห้องพักอาศัยเช่นเดียวกัน สำหรับโซนพักอาศัยคล้ายๆกับชั้น 33 เลยค่ะ แต่มีโซนที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นมา 1 โซน คือโซนกรอบสีเหลือง ที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้เรามาใช้งาน Lounge ต่างๆได้สะดวกกว่าใคร สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้จะมีหลากหลายฟังก์ชันเลยค่ะ
บรรยากาศระหว่างห้อง Idea Lounge และ Co-Kitchen
เริ่มจาก Idea Lounge และ Cloud Lounge เป็นพื้นที่พักผ่อนภายในที่เห็นวิวเมืองแบบ 360 องศา เราสามารถนัดพบปะพูดคุยกัน หรือเอางานมานั่งทำชิลๆบริเวณนี้ก็ได้ ส่วน Semi Outdoor Lounge เป็นพื้นที่พักผ่อนภายนอก ให้เรามารับลมสูดอากาศพร้อมชมวิว ถัดมาเป็นพื้นที่สำหรับทำงานคือ Executive Suite และ Separate Area For Private Meeting มีทั้งโซนที่เป็น Co-Working Space และห้องประชุมเล็กๆ ให้ลูกบ้านมาจองใช้งานได้
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็น Entertainment Zone หรือห้องสำหรับดูหนังแบบส่วนตัว และ Co-Kitchen เราสามารถจองเฉพาะส่วนนี้ได้ แล้วจ้างเชฟส่วนตัวมาทำอาหารให้กินเวลามีปาร์ตี้เล็กๆกับเพื่อนๆ เราสามารถทานอาหารพร้อมชมวิวเมืองไปพร้อมๆกันได้เลย
สำหรับชั้น 35 เป็นชั้นสุดท้ายที่มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ ซึ่งเป็น Sky Garden หรือสวนย่อมที่ให้ลูกบ้านมาพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีโซนพักอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งมีการวางโซนเหมือนชั้น 34 ค่ะ ห้องในกรอบสีเหลือง ยังคงได้ Benefit สูงสุดเพราะอยู่ใกล้สวน จึงออกมาใช้งานง่าย เหมาะกับคนที่ชอบออกมาชมวิวและเดินเล่นสัมผัสธรรมชาติ
แปลนชั้น 8-9 และ 20-31 (ห้องพักแบบ Simplex)
สำหรับชั้นที่เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด จะไม่กั้นโถงลิฟต์เหมือนชั้นที่มีส่วนกลาง เพราะคนที่ขึ้นมาถึงชั้นพักอาศัยได้ ต้องเป็นลูกบ้านที่พักในชั้นนั้นๆ ส่วนโซนพักอาศัยที่น่าสนใจแบ่งออกเป็น 5 โซน
- โซนในกรอบเส้นประสีน้ำเงิน : เป็นห้องพักอาศัยที่หันหน้าเข้าสวนส่วนกลางของชั้น 7 คนที่อยู่โซนนี้จึงได้วิวส่วนกลาง
- โซนในกรอบเส้นประสีแดง : อยู่ใกล้โถงลิฟต์สะดวกในการขึ้น-ลงอาคารมากที่สุด
- โซนในกรอบเส้นประสีเขียว : อยู่หัวมุมอาคาร จึงได้วิว 2 ฝั่งและยังได้แสงธรรมชาติมากกว่าห้องอื่นๆอีกด้วย
- โซนในกรอบเส้นประสีส้ม : อยู่ติดกับฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นพื้นที่ว่าง ทำให้ได้วิวเปิดโล่ง
- โซนในกรอบเส้นประสีม่วง : ห้องใหญ่ 3 Bedroom ได้วิวสระว่ายน้ำและวิวเมือง
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
1 st Floor
- ร้านค้า 3 ยูนิต
- Welcome Lounge
- Semi Outdoor Lobby
- Mail Room
- Juristic Person Room
- Car Charging
- Sansiri Backyard
- สวนหย่อม
7th Floor
- Pavilion
- สวนหย่อม
33th Floor
- สระว่ายน้ำระบบโอโซน ขนาด 5.5 x 30 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- มีการแบ่งสระเด็ก ขนาด 3-5.5 x 3.95 เมตร ลึก 0.5 เมตร
- ห้องออกกำลังกายขนาด
- Yoga Room
34th Floor
- Idea Lounge
- Cloud Lounge
- Semi Outdoor Lounge
- Executive Suite
- Separate Area For Private Meeting
- Co-Kitchen
- Entertainment Zone
35th Floor
- สวนหย่อม
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
- ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 189.5 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 44.5%
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ Liv 24 / CCTV / License plate
- Access Control ระบบ Face Scan และ Key card
แบบห้อง
Highlight
- มีห้อง Type ใหญ่ให้เลือก : ในโซนนี้มีแค่โครงการนี้เท่านั้นที่มีห้อง 3 Bedroomอยู่ด้วย แม้มีจำนวนไม่มากแต่ก็เป็นตัวเลือกให้คนที่อยู่กันเป็นครอบครัว 3-5 คนค่ะ
- ห้องเพดานสูง 4.7 เมตร : สูงกว่าห้องเพดานสูงทั่วๆไป 30-50 เซนติเมตร จึงดูโปร่งกว่าเหมาะกับคนที่ชอบทำเลแบบคอนโด แต่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น
- มีห้องเพดานสูง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำให้เลือก : ซึ่งเป็น Type ห้องที่หาได้ยากทีเดียว รองรับสมาชิกครอบครัว 2-4 คนได้เลย ใช้งานได้สะดวก
- กั้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นด้วยผนังทึบ : ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว หากอยู่กัน 2 คนก็แยกพื้นที่ใช้งานได้โดยไม่รบกวนกัน
ห้องพักอาศัยของโครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) จะขายแบบ Fully Fitted คือได้ Built-in ห้องครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เรามองว่าเป็นข้อดีนะ เพราะไม่มีเฟอร์นิเจอร์แบบไหนที่เป็น One Size Fits All สำหรับทุกคน เช่นบางคนให้ความสำคัญกับการพักผ่อน ต้องการเตียง 5-6 ฟุต ในขณะที่บางคนชอบเตียง 3.5 ฟุตเพราะพอดีกับการนอนและอบอุ่นดี การได้เลือกสรรซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งด้วยตัวเองจึงตอบโจทย์คนอยู่อาศัยมากกว่า โดยที่ห้องพักของโครงการมีราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆรอบข้างที่มีขนาดห้องใกล้เคียงกัน มักจะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3 ล้านปลายๆ ไปจนถึง 4 ล้านกลางๆเลยนะ จึงเรียกได้ว่าห้องพักของโครงการนี้มีราคาเป็นจับต้องได้ง่ายค่ะ
หากเพื่อนๆเคยลองสำรวจโครงการในโซนนี้ จะเห็นว่ามักจะเน้นห้อง Type เล็ก และมีห้องใหญ่สุดคือ 2 Bedroom เท่านั้น แต่โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) มีห้องหลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่ 1 Bedroom , 2 Bedroom , 2 Bedroom 2 Bath และ 3 Bedroom ซึ่งห้อง 2 Bedroom 2 Bath และ 3 Bedroom หาได้ยากมากในโซนนี้เลยนะ
ห้อง 1 Bedroom 29 sq.m.
สำหรับห้องพักอาศัยแบบ Simplex มีให้เลือก ดังนี้
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 29-35 ตร.ม.
- 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 48.25 ตร.ม.
- 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 85.5 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom (Loft) 23.75 sg.m.
ห้องพักอาศัยแบบฝ้าเพดานสูงมีให้เลือกดังนี้
- 1 Bedroom (Loft) พื้นที่โฉนด 23.75 – 28.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย+Furnitue Level 32.75 – 41.00 ตร.ม.
- 2 Bedroom 2 Bathroom (Loft) พื้นที่โฉนด 34.75 – 38.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย+Furnitue Level 52.50-65.75 ตร.ม.
สรุปวัสดุในห้อง
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- วัสดุพื้น ส่วนห้องนอน/นั่งเล่น : พื้นลามิเนต หนา 8 mm.
- วัสดุพื้น ส่วนระเบียง : กระเบื้องแกรนิตโต้สีเทา ขนาด 30×30 cm.
- ประตู HDF ปิดผิวด้วย PVC ลายไม้ พร้อมชุดอุปกรณ์ Digital Door Lock ของยี่ห้อ Kaadas
- บานเลื่อนอลูมิเนียมทำสีเทาเข้ม ผิว Sahara
ห้องครัว - วัสดุพื้นห้องครัว : กระเบื้องแกรนิตโต้สีครีม ขนาด 60×60 cm.
- Top & Backsplash เป็นหินสังเคราะห์ พร้อม Hob & Hood ของ Teka ระบบดูดควันออกภายนอก
- หน้าบานเฟอร์นิเจอร์เมลามีน
ห้องน้ำ
- วัสดุพื้นห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้สีเทา ขนาด 60×60 cm.
- ชุดสุขภัณฑ์ จาก American Standard และ Englefield
- หน้าบานเฟอร์นิเจอร์ เมลามีนลายไม้ พร้อมชั้นเก็บของตู้กระจก
- ฉากกั้นอาบน้ำแบบ Cross bar
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom : Type 1 B พื้นที่ใช้สอย 29.75-30.75 ตร.ม.
ห้องตัวอย่างแรกที่เราจะพาทุกคนไปชมคือ ห้อง 1 Bedroom Type 1 B พื้นที่ใช้สอย 29.75-30.75 ตร.ม. ฟังก์ชันภายในมีให้ครบตามมาตรฐาน คือ 1 ห้องนอน , 1 ห้องน้ำ , 1 ห้องนั่งเล่นและ 1 ห้องครัวแบบปิด เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน
- ห้องครัวปิด : สามารถทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะลอยไปบริเวณอื่น
- กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ : เจ้าของห้องได้ความเป็นส่วนตัว หากอยู่อาศัยกัน 2 คน ทำให้คนที่ใช้งานห้องนั่งเล่นและห้องนอน ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน
- ห้องนอนมีขนาดใหญ่ : นอกจากวางเตียงแล้ว ยังเหลือพื้นที่ให้เราวางโต๊ะทำงานได้อีกด้วย
- ห้องน้ำแบบ Jack & Jill : เข้าถึงได้ทั้งจากห้องนอนและห้องครัว ใช้งานได้สะดวก เวลามีแขกมาเยี่ยม เจ้าของห้องไม่เสียความเป็นส่วนตัว
พื้นห้องพักอาศัยยกขึ้นสูงจากพื้นทางเดินประมาณ 3 เซนติเมตร เพื่อกันน้ำและฝุ่นจากภายนอก ไม่ให้เข้าห้อง
ในห้องมาตรฐานจะมีประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานไม้เทียม HDF กรุผิวลามิเนตพร้อมชุดอุปกรณ์ Digital Door Lock ของ Kaadas รอบรับ 5 ระบบ ทั้ง Finger Print / Key Card /Application / Pin Code และ กุญแจ ลูกบ้านสามารถเข้าห้องได้โดยไม่ต้องพกกุญแจห้อง เอาใจสายขี้ลืมให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
ฟังก์ชันแรกของห้องพักอาศัยเป็นห้องครัวขนาดประมาณ 1.6×2.5 เมตร พอให้ช่วยกันทำอาหารได้ 2 คน โดยฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่สำหรับทำอาหาร อีกฝั่งเป็นพื้นที่ว่างให้วางตู้เย็นได้ ช่วยให้หยิบเก็บวัตถุดิบต่างๆตอนทำอาหารได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้เวลาเราซื้อข้าวของเข้าห้องก็เก็บได้สะดวกอีกด้วย ตัวพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ เช็ดถูทำความสะอาดง่าย ส่วนฝ้าของห้องครัวสูงกว่ามาตรฐานทั่วไปประมาณ 10 เซนติเมตร อยู่ที่ 2.5 เมตร เวลาใช้งานห้องครัวจึงไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ
ฝั่งหนึ่งโครงการ Built-in เคาน์เตอร์และตู้เก็บของไว้ให้
ใกล้ๆกับประตูหน้าห้อง โครงการ Built-in ตู้เก็บรองเท้าและเก็บของไว้ให้ โดยแบ่งครึ่งล่างเป็นตู้เก็บรองเท้า สามารถเก็บรองเท้าได้ประมาณ 4-8 คู่ ทำให้เราหยิบ-เก็บรองเท้าเวลาเข้า-ออกจากห้องได้สะดวก ส่วนครึ่งบนเป็นตู้เก็บของ สำหรับเก็บของที่ต้องใช้บ่อยๆก่อนออกจากห้อง เช่น กุญแจรถ , กุญแจบ้าน
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของพร้อมช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ด้านล่าง
ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของด้านล่าง มือจับตู้เก็บของเป็นแบบเซาะร่อง ทำให้เราจับได้ถนัดมือ เปิด-ปิดตู้ได้สะดวก ตัวบานเป็นเมลามีน ทนต่อรอยขีดข่วนและความชื้นได้ดี นอกจากนี้ยังมีช่องว่าง ให้วางเครื่องซักผ้า สำหรับใช้งานในห้อง ไม่ต้องส่งเสื้อผ้าไปซักที่อื่น
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหารและซิงค์ล้างจาน
ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์เป็นหินเทียม ทนต่อการขีดข่วนเวลาใช้งานและทนความชื้น ทำความสะอาดง่าย บริเวณเคาน์เตอร์แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนทำอาหาร ที่ให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันแบบดูดออกไปด้านนอก ซึ่งใช้งานได้ดีกว่าระบบหมุนเวียน ป้องกันไม่ให้กลิ่นและควันฟุ้งมากนัก เราชอบที่โครงการเลือกวางเตาไฟฟ้าเป็นแนวขวาง เพราะใช้งานทั้ง 2 หัวเตาได้สะดวกมากกว่าการวางเป็นแนวตั้ง ส่วนที่สองคือซิงค์ล้างจานที่มีความลึกพอสมควร เราลองเอาหม้อลงไปวางก็ยังเหลือพื้นที่อยู่ เวลาเราล้างจานน้ำจะเด็นออกมาได้น้อยลงค่ะ นอกจากนี้โครงการให้ Backsplash เป็นหินสังเคราะห์ ทำความสะอาดได้ง่าย
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของ
ตู้ลอยด้านบนจะมีทั้งส่วนที่มีหน้าบานปิดช่วยกันฝุ่น ดูเรียบร้อยกับส่วนที่เป็นช่องเก็บของสำหรับ วางของที่ใช้บ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีช่องวางไมโครเวฟ ซึ่งเรามองว่าการวางไมโครเวฟไว้ด้านบน ใช้งานสะดวก กว่าการนำไปวางไว้ตู้เก็บของด้านล่าง เพราะไม่ต้องก้มๆเงยๆ เวลาหยิบอาหารจากไมโครเวฟ
ห้องครัวกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน
ประตูกั้นห้องครัวเป็นบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน อีกทั้งรางประตูยังถูกฝังให้เรียบเสมอไปกับพื้น เดินเข้า-ออกได้สะดวก ไม่ต้องกังวลว่าจะสะดุดล้ม ครัวแบบปิดช่วยให้เราทำอาหารได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นควันจะลอยไปโซนอื่นๆของห้อง
บริเวณพื้นที่นั่งเล่น
สำหรับห้องนั่งเล่นมีขนาดประมาณ 3.35 x 2.5 เมตร สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางขนาดเล็ก สำหรับวางน้ำและขนมไว้กินเพลินๆขณะดูทีวีได้สบายๆ ระยะดูทีวีของโซนนี้อยู่ 2.5 เมตร แนะนำให้ติดตั้งทีวีขนาด 50-55 นิ้ว เพื่อการรับชมที่คมชัด แล้วเรายังมองว่ายังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะกินข้าว 2 ที่นั่งได้บริเวณใกล้ๆห้องครัวเพื่อให้การใช้งานต่อเนื่อง แต่เราก็ชอบไอเดียการตกแต่งห้องตัวอย่างนะ ที่ทำ Built-in โซฟาเป็นเเนวยาว ดูเป็นระบบระเบียบดี ใช้ทั้งนั่งดูทีวีและทานข้าวไปพร้อมๆกันได้เลย
สำหรับห้องนั่งเล่น โครงการจะให้แอร์ Wall Type มาให้ด้วยนะ
ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อน 3 ตอน เปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน ทำให้เข้า-ออกได้สะดวก
พื้นที่ระเบียง
ระเบียงมีขนาดประมาณ 2.5 x 0.75 เมตร โครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ด้านบน เราจึงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ เราแนะนำให้ติดตั้งราวตากผ้าแบบแขวนเพิ่มเติม เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่
บรรยากาศภายในห้องนอน
สำหรับห้องนอนเข้าถึงได้จากห้องนั่งเล่น แต่กั้นด้วยผนังทึบทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว เวลามีคนดูทีวีด้านนอกก็ไม่รบกวนคนที่กำลังนอนพักผ่อนในห้องนอน ภายในห้องมีประมาณ 2.55 x 4.1 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้แล้วยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบๆเตียงอยู่ หากใครชอบดูทีวีก่อนนอน แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนนะ
นอกจากนี้ริมหน้าต่างยังมีพื้นที่ให้เราจัดเป็นมุมทำงาน อ่านหนังสืออีกด้วยนะ ใครที่ Work From Home บ่อยๆ น่าจะชอบมุมนี้กันนะคะ
ห้องนอนมีหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้ทุกมุม ห้องจึงดูสว่าง ส่วนหนึ่งของหน้าต่างเป็นบานกระทุ้ง เปิดระบายอากาศได้ ข้อดีคือกันเวลาฝนสาดได้ดีกว่าหน้าต่างแบบบานเลื่อนหรือบานเปิด
บริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ว่างให้เราจัดเป็นมุมแต่งตัว วางตู้เสื้อผ้าได้ ช่วยให้เราเปลี่ยนแต่งตัวได้สะดวกหลังจากอาบน้ำเสร็จ ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง
บรรยากาศภายในห้องน้ำ
เราสามารถเข้า-ออกห้องน้ำได้ 2 ทาง คือจากห้องนอนและห้องครัว เวลามีแขกมาเยี่ยมที่ห้องก็ใช้ประตูทางเข้าจากห้องครัวได้เลย ทำให้เจ้าของห้องไม่เสียความเป็นส่วนตัว ในขณะเดียวกัน เราก็ลุกขึ้นมาใช้งานห้องน้ำได้สะดวกยามดึกดื่นค่ะ ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้อย่างชัดเจน ใช้งานได้ง่าย วัสดุปูพื้นและผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard
ภายในห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ต่างๆของ American Standard และ Englefield ไว้ครบครันเหมือนกับห้องตัวอย่างเลย ใต้อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของด้านใต้ให้ด้วย เอาไว้เก็บข้าวของ อุปกรณ์อาบน้ำที่เราซื้อมาสำรองไว้ เช่น สบู่ , แชมพูและทิชชู ส่วนตู้กระจกสามารถเปิดออกมาเก็บของ เช่น แปรงสีฟัน , สกินแคร์ต่างๆที่ใช้เป็นประจำ ทำให้บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเราไม่รกค่ะ
พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกมาเรียบร้อย
โครงการให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วยนะ เป็นบานสวิง มีมือจับเป็นราวยาว สะดวกทั้งเวลาเปิด-ปิดและแขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วย เมื่ออาบน้ำเสร็จ ก็เช็ดตัวในพื้นที่อาบน้ำได้เลย ไม่ต้องเดินตัวเปียกไปโซนอื่นๆ ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.1×0.95 เมตร ยืนอาบน้ำได้สบายๆ พร้อมเจาะผนังทำเป็นช่องวางของ เราสามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำเช่น แชมพู , สบู่ และหยิบใช้งานได้สะดวก
ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom 2 Bathroom Type 1 Jm พื้นที่โฉนด 35.25-35.50 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม Furniture Level 59.5-59.75 ตร.ม.
ห้องตัวอย่างที่ 2 คือห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom Type 1 Jm พื้นที่โฉนด 35.25-35.50 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม Furniture Level 59.5-59.75 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องที่หายากมาก เพราะปกติเรามักจะเห็นแค่ห้อง 2 Bedroom 1 Bathroom เท่านั้น ภายในห้องออกแบบได้น่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะเป็นห้องฝ้าเพดานสูงที่เป็นห้องหน้ากว้าง ส่วนชั้นด้านบนเป็น Furniture Level หรือโครงสร้างเบา มีฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว และ 1 ห้องนั่งเล่น รองรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวพ่อแม่ลูกได้เลยนะ เหมาะกับการอยู่ 2-4 คน
- ห้องเพดานสูง 4.7 เมตร : ซึ่งสูงกว่าห้องเพดานสูงของคอนโดเพื่อนบ้านประมาณ 30-50 เซนติเมตร ห้องจึงดูโปร่งและโล่งเป็นพิเศษ
- ห้องนั่งเล่นอยู่โซนด้านใน : ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- มีห้องน้ำให้ใช้งานถึง 2 ห้อง : ไม่ว่าจะอยู่ห้องนอนไหนก็ใช้งานได้สะดวก
- ทุกฟังก์ชันกั้นเป็นสัดส่วนชัดเจน : ทำให้คนใช้งานพื้นที่ได้ โดยไม่รบกวนกัน
เมื่อเปิดประตูเข้ามาเราจะเจอกับโถงโล่งๆ ทำให้มองเห็นความกว้างทั้งหมดของห้องพักอาศัย และพื้นที่นั่งเล่นแบบฝ้าเพดานสูง ดูโอ่อ่าดี เป็นเหมือนการต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน
บริเวณใกล้ๆประตูจะมีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เก็บรองเท้า เวลาเข้า-ออกห้องจะได้หยิบใส่รวมถึงถอดได้สะดวก หรือใครจะทำเป็นตู้เก็บของ สำหรับเก็บของที่เราต้องหยิบใช้บ่อยๆเวลาออกจากห้อง เช่น กุญแจห้อง , กุญแจรถหรือ Accessory ต่างๆก็ได้เช่นกัน
ใกล้กับประตูทางเข้าห้องเป็นห้องน้ำ เราจึงมาใช้งานได้สะดวกเมื่อกลับมาถึงห้อง เราชอบไอเดียติดตั้งกระจกบานใหญ่ไว้บริเวณนี้ ให้เราได้เช็คความเรียบร้อยของตัวเองก่อนออกจากห้อง
บรรยากาศภายในห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งอย่างชัดเจน ใช้งานได้สะดวก โครงการให้ชุดสุขภัณฑ์มาครบครันเหมือนกับห้องน้ำในห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ
พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกมาเรียบร้อย
สำหรับพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.2 x 1.05 เมตร พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย โดยทั่วไปแล้วหากมีห้องน้ำ 2 ห้อง โครงการอื่นๆมักจะให้ Rain Shower มาแค่ Master Bathroom แต่โครงการนี้ให้ทั้ง Hand Shower , Rain Shower ตั้งแต่ห้องน้ำรองเลยค่ะ แล้วยังติดตั้งชั้นวางของภายในส่วนอาบน้ำ สำหรับวางเเชมพู , สบู่มาให้ด้วยนะ
บรรยากาศพื้นที่นั่งเล่น
พื้นที่นั่งเล่นเป็นแบบฝ้าสูง 4.7 เมตร พร้อมกระจกบานใหญ่ที่สูงเกือบถึงฝ้าเลย จึงดูโปร่งโล่งและสว่างเป็นพิเศษ แนะนำให้ติดตั้ง Chandelier เพื่อให้ห้องดูหรูหราสวยงามยิ่งขึ้น ภายในห้องปูด้วยพื้นลามิเนต หนา 8 มิลลิเมตร แข็งแรงและทนทานกว่าแบบ 4-6 มิลลิเมตร ที่มักใช้กันทั่วไป
พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่พอจะวางโซฟา 2-3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะหน้าทีวีเล็กๆ สำหรับวางของกินเวลาดูทีวี พื้นที่ตรงนี้มีระยะดูทีวี ประมาณ 2.5 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 50-55 นิ้ว พอให้รับชมได้อย่างชัดเจน
บริเวณนี้โครงการให้แอร์ Wall Type มาด้วยนะ
บริเวณพื้นที่นั่งเล่นมีหน้าต่างบานกระทุ้ง ให้เปิดระบายอากาศได้ และยังกันฝุ่นและฝนสาดได้ดีกว่าบานเปิดหรือบานเลื่อนด้วยนะ
ด้านหลังพื้นที่นั่งเล่นเป็นห้องครัวแบบเปิด เหมาะกับคนที่ทำอาหารไม่จริงจัง แต่ถ้าใครชอบทำอาหารในห้องแนะนำให้ ทำฉากกั้นเป็นครัวปิดนะคะ โครงการ Built-in เคาน์เตอร์มาให้เป็นรูปตัว L พร้อมเว้นพื้นที่ให้วางตู้เย็น เพื่อให้ใช้งานสะดวก นอกจากนี้ยังมีพื้นวางโต๊ะกินข้าว 2-4 ที่นั่งได้ด้วย เราสามารถกินข้าวพร้อมดูทีวีบริเวณห้องนั่งเล่นไปพร้อมๆกัน
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของพร้อมช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ด้านล่าง
ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของด้านล่าง ที่มีบานปิดตู้เก็บของเป็นเมลามีน ทนต่อรอยขีดข่วน และความชื้น ใต้ซิงค์ล้างจานมีพื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด นอกจากนี้ยังมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใช้งานได้ในห้อง ไม่ต้องส่งเสื้อผ้าไปซักที่อื่น
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหาร เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน
ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์ครัวและ Backsplash เป็นหินสังเคราะห์ แข็งแรงทนความร้อน ทนต่อการขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย บริเวณเคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนทำอาหาร ที่ให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตา ที่วางเป็นแนวนอน ใช้งานได้สะดวก พร้อมที่ดูดควันของ Teka ส่วนที่สองคือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารบริเวณหัวมุมเคาน์เตอร์ ส่วนสุดท้ายคือซิงค์ล้างจานที่มีความลึกพอสมควร ทำให้น้ำกระเด็นออกมาภายนอกได้น้อยลงเวลาล้างจาน
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องใส่ไมโครเวฟ
ตู้ลอยด้านบนจะมีหน้าบานปิดช่วยกันฝุ่น และมีช่องวางไมโครเวฟเตรียมไว้ให้ ดูเรียบร้อยดีค่ะ
ประตูเปิดออกไปยังระเบียงห้อง
ประตูของระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เข้า-ออกได้สะดวก ส่วนพื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.95×2.4 เมตร แต่จะกั้นส่วนที่แขวน Condensing Unit ของแอร์ ไว้ ทำให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อยดี
บรรยากาศภายในห้องนอนชั้นล่าง
ห้องชั้นล่างอยู่ฝั่งตรงข้ามห้องครัว ใกล้กับห้องน้ำ เราจึงสามารถออกมาเข้าห้องน้ำได้ง่ายเวลากลางคืน
ห้องนี้มีแอร์ Wall Type ให้มาด้วยนะ
บันไดขึ้นชั้นบนเป็นรูปตัว L มีความกว้างประมาณ 0.8 เมตร พอให้ 1 คนเดินขึ้นลงได้ ลองเดินแล้วรู้สึกชันเล็กน้อย ต้องระมัดระวังในการเดินขึ้น-ลง แต่โครงการก็มีราวบันไดให้เราจับตลอดแนวเพื่อเสริมความปลอดภัยค่ะ
ชั้นบนมีพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดประมาณ 2×2.5 เมตรอยู่ ในห้องมาตรฐานโครงการจะทำฉากกั้นก่อนเข้าห้องนอนไว้ให้ด้วย ทำให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น เหมาะกับการทำเป็นพื้นที่ทำงาน อ่านหนังสือ หรือใครจะทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นเพิ่มเติมก็ได้นะ สมมติว่าพี่น้องอยู่ด้วยกัน เวลามีแขกมาเยี่ยมพี่ น้องก็มาใช้พื้นที่ตรงนี้พักผ่อนได้ โดยไม่รบกวนกัน
โครงการให้แอร์ Wall Type ในห้องนี้มาเช่นกัน
หน้าต่างบานกระทุ้งบริเวณพื้นที่อเนกประสงค์
บริเวณพื้นที่อเนกประสงค์มีหน้าบานกระทุ้ง เมื่อเปิดหน้าต่างออกไปจะเจอกับพื้นที่ระเบียงที่มีชายคาคลุมอยู่พอดีเลยนะ ทำให้บริเวณนี้ฝนสาดเข้ามาได้ยากขึ้น ทำให้เราสามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศได้ง่ายขึ้น
ถัดมาเป็นห้องนอน แต่จะยังไม่ใช่ส่วนพักผ่อนในทันที จะเจอทางเดินไปยังพื้นที่แต่งตัวหน้าห้องน้ำก่อน ทำให้เจ้าของห้องได้ความเป็นส่วนตัว
หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับแต่งตัว ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เราสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปอาบน้ำต่อได้เลย ซึ่งโครงการจะให้ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ ทำให้บริเวณนี้พร้อมใช้งานเลยนะ
ห้องน้ำในห้องนอน
ห้องน้ำในห้องนอนมีการวางผังและให้ชุดสุขภัณฑ์มาเหมือนห้องน้ำด้านล่างเลยค่ะ ใช้งานได้สะดวก เวลาดึกดื่นเราก็มาใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องลงไปใช้ห้องน้ำด้านล่าง
Master Bedroom
โซนพักผ่อนของห้องนอนมีขนาดประมาณ 3.1 x 3.1 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ แล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียงอีกค่อนข้างเยอะ โดยชั้นบนนี้จะมีความสูงฝ้าเพดาน 2.2 เมตร ตามมาตรฐานทั่วไปเลยค่ะ
จากเตียงมองตรงไปเราจะเห็นบริเวณ Double Volume พอดี จึงมองเห็น Chandelier ได้ชัดเจน เหมือนได้วิวประติมากรรมสวยๆขณะพักผ่อนเลยนะ หากกังวลว่าคนด้านล่างจะมองขึ้นมาเห็น แนะนำให้ติดผ้าม่านนะคะ
มุมมองพื้นที่นั่งเล่นจาก Master Bedroom
จาก Master Bedroom มองลงมาจะเห็น พื้นที่นั่งเล่นด้านล่าง ดูสบายตาดีค่ะ
ราคา
XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) ราคา ณ วันที่ 5 กันยายน 2568
Simplex
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 29-35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
– ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 17,140 บาท
– ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 1,421 บาทต่อเดือน (ปีแรก)
– ค่ากองทุนเริ่มต้น 14,500 บาท - 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 48.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.80 ล้านบาท
– ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 22,915 บาท
– ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 2,365 บาทต่อเดือน (ปีแรก)
– ค่ากองทุนเริ่มต้น 24,125 บาท - 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 55.50 – 56.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.29 ล้านบาท
– ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 25,255 บาท
– ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 2,720 บาทต่อเดือน (ปีแรก)
– ค่ากองทุนเริ่มต้น 27,750 บาท - 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 85.5 ตร.ม. (N/A ราคา)
Loft
- 1 Bedroom (Loft) พื้นที่โฉนด 23.75 – 28.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายในรวม Furniture Level 32.75 – 41.00 ตร.ม. ราคาพิเศษเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท*
– ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 15,707 บาท
– ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 1,164 บาทต่อเดือน (ปีแรก)
– ค่ากองทุนเริ่มต้น 11,875 บาท
- 2 Bedroom 2 Bathroom (Loft) พื้นที่โฉนด 34.75 – 38.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายในรวม Furniture Level 52.50-65.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.73 ล้านบาท
– ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 27,355 บาท
– ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 1,703 บาทต่อเดือน (ปีแรก)
– ค่ากองทุนเริ่มต้น 17,375 บาท
ราคาผ่อนต่อเดือนยกตัวอย่างจาก ดอกเบี้ย 4% ระยะเวลาผ่อน 30 ปี*
สามารถคลิกดูอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันได้ที่ >> อัปเดต! ดอกเบี้ยบ้าน 2568 ทุกธนาคาร
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- จอง 5,000-50,000 บาท
- ทำสัญญา 20,000-100,000 บาm
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลางปีแรก 49 บาท/ตร.ม./เดือน ปีที่สอง 60 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
Tips : แนะนำการขอสินเชื่อกับธนาคาร
เกณฑ์การพิจารณาการขอสินเชื่อจากธนาคาร ควรมีเงื่อนไขตรงกับข้อไปนี้ค่ะ
- มีรายรับชัดเจน สม่ำเสมอ(ไม่ผันผวน) ต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือน และสามารถตรวจสอบได้
- ควรมีภาระหนี้รวมทั้งหมด (ทั้งบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต และอื่นๆ) ไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
- มีรายได้ต่อเดือนมากกว่าค่าผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน 3 เท่าขึ้นไป
หากต้องการผ่อนบ้านให้หมดไว แนะนำให้โปะเพิ่มประมาณ 10% ของงวดผ่อน จะช่วยลดระยะเวลาผ่อนลงได้ 4 – 7 ปี (ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ย) และควร Refinance หรือ Retention เพื่อให้ดอกเบี้ยลดลงทุกๆ 3 ปี ทั้งนี้อย่าลืมเผื่อค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและตกแต่ง*ก่อนเข้าอยู่เพิ่มเติมด้วยนะคะ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
>>โปะบ้านหมดไว คำนวณได้เอง
>>โอนบ้านจบ อย่าใช้เงินหมด! ค่าใช้จ่ายแฝงเพียบ
บทสรุป
ทำเล : โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 เลยค่ะ รอบๆโครงการมีแหล่งอุดมความสมบูรณ์ครบครัน เริ่มจากซูเปอร์มาเก็ตและห้างสรรพสินค้า อย่าง สวนเพลิน Market , Big C Extra ที่สามารถเดินไปได้ในระยะ 450-750 เมตร ส่วน Lotus’s และ Emporium & EmQuartier ก็อยู่ในระยะ 2 กิโลเมตร ลูกบ้านหาของกินของใช้ได้ง่ายๆ ที่น่าสนใจคือแหล่งงานโซนนี้มีทั้งแนวถนนพระราม 4 และถนนสุขุมวิท เช่น FYI Center , อาคารมาลีนนท์ , T-one สามารถขับรถหรือนั่งวินไปทำงานได้สบายๆ
การเดินทางโดยใช้รถ : จากทำเลโครงการมีซอยให้ลัดเลาะไปยังถนนสุขุมวิทได้หลายทาง โดยไม่ต้องผ่านจุดที่รถติดหนักๆเลยค่ะ นอกจากนี้ถนนพระราม 4 ยังเชื่อมต่อไปยังถนนรัชดาภิเษก , ถนนวิทยุและถนนราชดำริได้ไม่ยากเลย ทำให้เราเดินทางไปอโศก , ชิดลม , สยามได้ ส่วนทางด่วนที่ใกล้ที่สุดประมาณ 2.8 กิโลเมตร คือทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งไปดินแดง , พระราม 3 โครงการมีที่จอดรถไว้ให้ 44.5% นับว่าค่อนข้างมากในโซนนี้เลยนะ เหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเลยค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการห่างจาก BTS ทองหล่อประมาณ 1.5 กิโลเมตร สามารถนั่งรถของโครงการหรือเดินไปใช้บริการพี่วินได้ไม่ยาก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางค่ะ
วัสดุ : โครงการขายแบบ Fully Fitted ให้เฟอร์นิเจอร์ชุดครัวและวัสดุสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เหมาะกับคนที่ชอบตกแต่งและเลือกซื้อเฟอร์ฯ เองตามความชอบของผู้อยู่อาศัย ห้องฝ้าเพดานสูงจะให้ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาด้วย ทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อของเข้าห้องไปได้เยอะเหมือนกัน พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนต 8 มิลลิเมตร จึงต้องระวังความชื้น ส่วนชุดครัวและห้องน้ำได้เหมือนในห้องตัวอย่าง วัสดุอื่นๆให้ตามมาตรฐานราคานี้
การออกแบบโครงการ : โครงการจัดผังโครงการได้ดี มีการแบ่งกั้นเขตระหว่างโซนพักอาศัยและโซนส่วนกลางได้ชัดเจน ใกล้ๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสูงไม่เกิน 4 ชั้น โครงการจึงออกแบบให้ห้องพักอาศัยอยู่ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไป ทำให้ลูกบ้านส่วนใหญ่ได้วิวแบบเปิดโล่ง ตัวส่วนกลางของโครงการกระจายไว้ 5 ชั้น คือชั้น 1 , 7 , 33 , 34 และ 35 ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งานส่วนกลางได้ Main Facility จะอยู่ชั้นบนของอาคารทำให้ได้วิวเมืองแบบ 360 องศา
การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : โครงการมีห้องพักอาศัยให้เลือกหลายแบบหลายขนาด ตั้งแต่ 1 Bedroom ไปจนถึงห้อง 3 Bedroom ซึ่งห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom และ 3 Bedroom เป็นห้องที่หาได้ยากในโซนนี้ ความสูงฝ้าเพดานของห้อง Simplex อยู่ที่ 2.7 เมตร ซึ่งสูงกว่าโครงการทั่วไปๆ 20-30 เซนติเมตรเลยนะ ส่วนห้องฝ้าเพดานสูงก็สูงประมาณ 4.7 เมตร มากกว่าโครงการอื่นๆ 50 เซนติเมตรได้ ทำให้ห้องพักของโครงการดูโปร่งเป็นพิเศษ ภายในห้องมีการกั้นเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน ห้อง 1 Bedroom Type 1B มีห้องน้ำแบบ Jack & Jill ใช้งานได้สะดวก ส่วนห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom ออกแบบให้ Master Bedroom มีห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก
สาธารณูปโภค : Facility ของโครงการมีมาให้ครบครันน่าใช้งาน โดยแบ่งให้ชั้น 1 เป็นพื้นที่ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน ส่วนชั้น 7 , 35 เป็นสวนย่อม ชั้น 33 เป็น Facility ของคนที่ชอบออกกำลังกาย มีทั้งสระว่ายน้ำระบบโอโซนที่ยาวถึง 30 เมตร ซึ่งยาวกว่าโครงการทั่วไปเล็กน้อย และฟิตเนสก็มีเครื่องออกกำลังกายที่กำลังนิยมอยู่อย่าง เครื่องเล่นพิลาทิส และชั้น 34 เป็นพื้นที่พักผ่อนและ Co-Working Space ที่จัดโซนทำงานไว้หลากหลายแบบเลยนะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 129,000 บาท/ตร.ม., 5 กันยายน 2568
- ทำเล 7.75/10 – ติดถนนพระราม 4 ใกล้แหล่งอุดมความสมบูรณ์
- เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – มีทางลัดเลาะไปสุขุมวิท ใกล้ทางด่วน 2 จุด
- ไม่ใช้รถ 8/10 – ห่างจาก BTS 1.5 กิโลเมตร , มีรถรับส่งจาก BTS มาโครงการ , มีพี่วินคอยบริการอยู่ใกล้ๆโครงการ
- วัสดุ 7.5/10 – ขายแบบ Fully Fitted และวัสดุมาตรฐานของระดับราคานี้
- แบบ 8.5/10 – มีห้อง Simplex และห้องฝ้าเพดานสูงอยู่ชั้นล่าง ภายในห้องฝ้าสูง 2.7 / 4.7 เมตร
- สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบครันหลากหลาย กระจายส่วนกลางไว้ 5 ชั้น
- UPPER CLASS
- 7.92 / 10.00
XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) เหมาะกับใคร
โครงการ XELF by Sansiri (เซลฟ์ บาย แสนสิริ) เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดใกล้ใจกลางเมือง เดินทางไปเส้นสุขุมวิท , รัชดาภิเษกและสาทรได้ง่าย ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ก็อยู่ไม่ไกลจาก BTS ทองหล่อ มีรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทาง โครงการอยู่ใกล้แหล่งอุดมความสมบูรณ์ หาของกินของใช้ได้ไม่ยาก ห้องพักมีหลายขนาดรองรับคนได้ 1-6 คน มีทั้งห้อง Simplex และห้องฝ้าเพดานสูงให้เลือก ใครที่มีงบประมาณระดับ 3.59 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 25,130 บาท/เดือนก็สามารถจับจองโครงการนี้ได้แล้วค่ะ
ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่