สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) บ้านเดี่ยวสไตล์ Urban Farmhouse ใกล้ทางด่วน ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 6 ไร่ จาก Sansiri

สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot)  ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2568

พิกัด Google Maps : 13.8905932, 100.6720973
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

• ใกล้จุดขึ้น – ลงทางด่วนฉลองรัชด่านจตุโชติ และทางด่วนกาญจนาภิเษก เดินทางเข้า-ออกเมืองโซนเลียบด่วนเอกมัย – รามอินทราได้สะดวก
• ไม่ไกลจากถนนเทพรักษ์ ปัจจุบันเปิดใช้งานเชื่อมต่อท่าอากาศยานดอนเมืองและถนนวิภาวดีรังสิต
• ใกล้ Community Mall และห้าง เช่น Market Place, บิ๊กซี สุขาภิบาล 5 ขับรถไป Central EastVille ได้สะดวก

แผนที่จากทางโครงการครับ

ความอุดมสมบูรณ์บริเวณรอบ ๆ โครงการ สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) ส่วนใหญ่จะอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 ตั้งแต่บริเวณโซนถนนรามอินทราจะมี Foodland และตลาดนัดเลียบด่วน 2 ถัดใกล้เข้ามาบริเวณถนนเทพรักษ์จะมี Market Place Theprak ที่เพิ่งเปิดให้บริการใหม่ ส่วนอีกกลุ่มนึงจะเป็นบริเวณถนนสายไหมครับ ถือว่าค่อนข้างอุดมสมบูรณ์สามารถขับรถไปใช้งานได้ มีให้เลือกหลายจุด ใครที่อยากหาร้านอาหารทาน บนเส้นถนนเทพรักษ์ทั้ง 2 ฝั่งมีร้านเปิดให้บริการค่อนข้างเยอะเลยครับ

การเดินทางด้วยรถ ถ้าเราดูจากแผนที่ด้านบนจะเห็นว่าโครงการจะอยู่อิงถนนจตุโชติเป็นหลัก เชื่อมต่อถนนสุขาภิบาล 5 ได้ จะไปโซนสายไหมหรือทะลุออกทางรามอินทราก็ได้ ส่วนถนนอีกสายที่สำคัญในย่านนี้คือถนนเทพรักษ์ เป็นถนนที่ตัดจากถนนพหลโยธิน(สะพานใหม่)จะเชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 5 ช่วยร่นระยะเวลาในการขับรถไปถนนพหลโยธินได้

นอกจากนี้ ปัจจุบันถนนเทพรักษ์ได้เปิดใช้งานช่วงสะพานใหม่ถึงถนนวิภาวดีรังสิตเรียบร้อยแล้วทำให้เราสามารถขับรถไปออกถนนวิภาวดีรังสิตและเชื่อมต่อเข้าท่าอากาศยานดอนเมืองได้สะดวกครับ

จุดขึ้น – ลงทางด่วนฉลองรัชและทางด่วนกาญจนาภิเษก

จุดขึ้น – ลงทางด่วนที่อยู่ใกล้โครงการ สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) ที่สุด จะเป็นทางด่วนฉลองรัช ด่านจตุโชติ ขับออกจากโครงการไปประมาณ 3.4 กิโลเมตร ส่วนเวลาเรากลับบ้าน เราสามารถลงที่ด่านจตุโชติแล้วกลับรถเข้าบ้านได้เลยเช่นกัน มีระยะทางจากทางด่วนถึงโครงการประมาณ 3.1 กิโลเมตร

ส่วนทางด่วนอีกสายหนึ่งที่อยู่ใกล้โครงการ สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) คือทางด่วนกาญจนาภิเษก ซึ่งมีประเด็นที่อยากให้ทุกคนติดตาม คือถ้าเราออกจากโครงการเพื่อจะไปขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก เราไม่สามารถขึ้นบริเวณด่านจตุโชติได้ เราจะต้องขับรถไปขึ้นทางด่วนฉลองรัชบริเวณด่านสุขาภิบาล 5 ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร และขับต่อมาอีก 5.5 กิโลเมตรทางด่านจตุโชติขาออกเพื่อเชื่อมต่อเข้าทางด่วนกาญจนาภิเษกครับ ส่วนเวลาที่เราเดินทางมาจากทางด่วนกาญจนาภิเษกทั้งทิศทางจากลำลูกกาหรือทิศทางจากรามอินทรา เราสามารถขับมาตามป้ายทางด่วนฉลองรัชได้ จะมีทางออกก่อนถึงด่านเก็บค่าผ่านทาง ทำให้เราสามารถเลี้ยวเข้าโครงการได้สะดวกเลยครับ มีระยะจากสะพานต่างระดับถึงโครงการประมาณ 3 กิโลเมตรครับ หรือถ้าวัดระยะจากทางออกก่อนถึงด่านเก็บค่าผ่านทางจะมีระยะห่างเพียง 1.4 กิโลเมตรเท่านั้นครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมโดยรวมของโครงการ สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) จะอยู่ภายใน จตุโชติ คอมมูนิตี้ (Chatuchot Community) ซึ่งจะมีโครงการบุราสิริ จตุโชติของแสนสิริอยู่ด้านใน ใช้ถนนภาระจำยอมเป็นทางเข้า – ออกถนนจตุโชติร่วมกัน ซึ่งในอนาคตอาจจะมีโครงการอื่นจากทางแสนสิริมาเพิ่มก็ได้ครับ ทำให้ถนนบริเวณทางเข้าจะได้รับการดูแล มีการจัดสวน ปลูกต้นไม้ มีการรักษาความปลอดภัย ทำให้สภาพแวดล้อมบริเวณทางเข้าดูเรียบร้อยสวยงาม ส่วนโครงการ สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) จะอยู่ติดกับที่ว่างและบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ โดยมีคลองคั่นอยู่ทางทิศตะวันตกและทิศเหนือทำให้มีระยะห่างจากชุมชนมากขึ้น ส่วนทางด้านทิศตะวันออกจะติดกับโครงการบุราสิริ จตุโชติครับ

• ทิศเหนือ ติดกับ ลำรางเจ้าหร่าและที่ว่าง
• ทิศตะวันออก ติดกับ โครงการบุราสิริ จตุโชติ
• ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัย 1 – 2 ชั้น
• ทิศตะวันตก ติดกับ คลองออเงินน้อย และบ้านพักอาศัย 1 – 2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่าง ๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ตลาดออเงิน ~ 2.1 กิโลเมตร
• Big C Food Place สุขาภิบาล 5 ~ 3.1 กิโลเมตร
• ตลาดวงศกรสายไหม ~ 6.0 กิโลเมตร
• Market Place เทพรักษ์ ~ 6.9 กม.
• เพลินนารี่มอลล์ ~ 7.2 กิโลเมตร
• Max Value คู้บอน ~ 8.0 กิโลเมตร
• Fashion Island รามอินทรา ~ 10.5 กิโลเมตร
• The Promenade ~ 11 กม.
• Central Eastville ~ 18.3 กม.

โรงพยาบาล

• รพ.CGH สายไหม ~ 5.9 กม.
• รพ.สินแพทย์ ลำลูกกา ~ 9.3 กม.
• รพ.อินทรารัตน์ ~ 10.1 กม.
• รพ.CGH พหลโยธิน ~ 10.4 กม.
• รพ.สินแพทย์ รามอินทรา ~ 12.6 กม.

โรงเรียน

• รร.นวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย ~ 3.4 กม.
• รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม ~ 4.8 กม.
• ม.เวสเทิร์น วิทยาเขตกรุงเทพ-วัชรพล ~ 5.4 กม.
• รร.นานาชาติร่วมฤดี ~ 5.4 กม.
• รร.สาธิตพัฒนา ~ 7.6 กม.
• รร.นานาชาติกีรพัฒน์ ~ 13.3 กม.

การเดินทาง

• ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (ขาออก) 700 ม.
• ทางพิเศษฉลองรัช ด่านจตุโชติ 2.4 กม.
• BTS สายหยุด 10.4 กม.
• ท่าอากาศยานดอนเมือง 14 กม.

Highlight

• พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่รวมกว่า 6 ไร่ พร้อมทะเลสาบบริเวณหน้าโครงการ ได้บรรยากาศร่มรื่น มีพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ 2 จุด เข้าถึงการใช้งานได้สะดวก
• อาคาร Clubhouse เชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวด้านข้าง พร้อมสนามเด็กเล่น และแปลงผักสวนครัว ใน Sansiri Backyard

สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 265 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 70 ไร่ ด้านหน้าโครงการเมื่อเข้ามาจะมี Lake เป็นทะเลสาบพร้อมอาคาร Clubhoouse เสมือนเป็นฉากหลัง เป็นทัศนียภาพที่สวยงามเมื่อเข้ามาภายในโครงการ โครงการใส่ใจในการออกแบบตั้งแต่การเลือกต้นไม้บริเวณริมทะเลสาบให้มีทรงพุ่มและกิ่งโน้มเข้าหาทะเลสาบ ถือเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ทำให้บรรยากาศภายในโครงการดูร่มรื่นและสวยงามขึ้นครับ

โครงการ สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) ตั้งอยู่ภายใน จตุโชติ คอมมูนิตี้ (Chatuchot Community) โดยมีทางเข้าติดถนนจตุโชติ ที่ดินโครงการจะอยู่ด้านในเมื่อเลย Main Gate เข้ามาจะเจอกับ Lake เชื่อมต่อกับ Clubhouse และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ รวมถึงมีพื้นที่สีเขียวอีกจุดอยู่ด้านใน

การวางผังโครงการ ออกแบบให้หน้าบ้านหันทิศเหนือ – ใต้ เป็นหลักทำให้ลมพัดผ่านได้ดี แสงแดดไม่ส่องเข้าบ้านโดยตรง ถนนภายในโครงการส่วนใหญ่เป็นซอยที่สามารถวนรถได้ มีข้อดีคือเราสามามารถเดินเล่น วิ่งออกกำลังกายวนเป็นรอบได้ ส่วนคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว จะมีโซนที่เป็นซอยตันอยู่ทางด้านขวา มีเพื่อนบ้านในซอยประมาณ 8 – 10 หลังเท่านั้น รวมถึงอยู่ใกล้พื้นที่ Clubhouse ไปใช้งานได้ง่ายครับ

เดี๋ยวส่วนถัดไปเราจะพาไปเดินชมโครงการตั้งแต่บริเวณ Main Gate กันเลยครับ

เมื่อเราขับรถตามถนนเข้ามา เราจะเจอกับวงเวียนด้านในเชื่อมต่อไปยังทางเข้าของ 2 โครงการ

ด้านซ้ายจะเป็น Main Gate ทางเข้าของโครงการ บุราสิริ จตุโชติ

ถัดมาจะเจอกับ Main Gate ทางเข้าโครงการ สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) ออกแบบเป็นซุ้มประตูโค้งแยกทางเข้า – ออก พร้อมป้ายชื่อโครงการอยู่ทางขวามือครับ

บริเวณ Main Gate โครงการออกแบบโดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ Cape Dutch จากทวีปยุโรปให้ความรู้สึกโอ่อ่า เน้นสีขาวและเทา ซึ่งเป็นโทนเดียวกันกับดีไซน์ตัวบ้านที่เป็นแบบ Urban Farmhouse ครับ

บริเวณ Main Gate โครงการแยกทางเข้ามาให้ชัดเจน โดยใช้เกาะกลางขนาดเล็กพร้อมพุ่มไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวบริเวณทางเข้า สำหรับ Resident (ซ้าย) เข้า – ออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน (LPR) พร้อมรั้วเหล็กรางเลื่อน ส่วน Visitors (ขวา) จะต้องแลกบัตรกับพี่รปภ.เพื่อความปลอดภัยก่อนเข้าภายในโครงการนะครับ

เลย Main Gate เข้ามา เราจะเจอกับวงเวียนอีกหนึ่งจุด ด้านซ้ายจะเป็นถนนหลักภายในโครงการ ตรงกลางเห็นอาคาร Clubhouse ส่วนด้านขวาจะมีถนนรองและพื้นที่สีเขียวข้าง Main Gate อีกจุดนึงครับ

พื้นที่สีเขียวบริเวณข้าง Main Gate สามารถมาเดินเล่นได้ โครงการจัดเป็นทางเดินพร้อมที่สำหรับนั่งเล่นไว้ให้ บรรยากาศร่มรื่นน่าใช้งานครับ

ถนน Main ภายในโครงการ มีการจัดเป็นพื้นที่สีเขียวพร้อมต้นไม้ใหญ่ได้ร่มเงา เพิ่มความร่มรื่น แบ่งช่องทางเดินรถเข้า – ออกมาให้

ถัดไปเดี๋ยวเราจะพาไปชมบริเวณอาคาร Clubhouse กันต่อนะครับ

จากบริเวณวงเวียน ให้เราขับรถตามถนน Main ไปเล็กน้อยแล้วเลี้ยวขวา จะเป็นทางเข้าอาคาร Clubhouse

เมื่อเราเลี้ยวเขามา จะมีพื้นที่สำหรับจอดรถได้ประมาณ 3 คัน ทำให้ลูกบ้านที่อยู่ด้านในโครงการที่ตำแหน่งไม่ได้ใกล้ Clubhouse สามารถขับรถมาใช้งานได้สะดวกครับ

Clubhouse ของโครงการจะมีชื่อว่า สราญคลับ (SARANCLUB) เป็นชื่อที่สอดคล้องกับชื่อโครงการ สราญสิริ ออกแบบสถาปัตยกรรมแนว Cape Dutch เน้นโทนสีขาวและเทา ดีไซน์ล้อไปกับบริเวณ Main Gate ครับ

ด้านซ้ายโครงการเตรียมทางลาดสำหรับเข็นรถวีลแชร์มาให้ รองรับสำหรับครอบครัวที่อยากพาผู้สูงอายุมาใช้งาน Clubhouse ครับ

เดินเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ออกแบบเป็น Sunken ลดระดับพื้นลงไปทำให้เวลาเรานั่งชมวิว ระดับสายตาเราจะพอดีกับผิวน้ำในสระครับ

โครงการจัดเตรียมเก้าอี้พร้อมโต๊ะมาให้ 2 ชุด สามารถมานั่งเล่นได้ บรรยากาศดี มีลมพัดผ่านตลอด

อีกฝั่งนึงจะเป็นพื้นที่สันทนาการสำหรับเด็ก มีเบาะรองนั่ง โต๊ะพร้อมของเล่น ส่วนบริเวณผนังโครงการจัดเป็นกิจกรรมปีนผาจำลองมาให้ เวลาเด็ก ๆ ปีนแล้วตกลงบนเบาะจะได้ไม่เจ็บครับ พร้อมมีน้องตุ๊กตาไดโนเสาร์มาให้ 1 ตัวด้วยครับ

ใกล้ ๆ กันจะมีห้องสำนักงานนิติบุคคลของโครงการตั้งอยู่

ฝั่งตรงข้ามห้องสำนักงานนิติจะมีบันไดขึ้นชั้น 2 และทางเดินไปยังสระว่ายน้ำครับ เดี๋ยวเราพาไปชมสระว่ายน้ำกันต่อครับ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือขนาดประมาณ 30 x 8 เมตร ลึก 1.2  เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงจัง

ภาพบรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำเพิ่มเติมครับ สามารถว่ายน้ำพร้อมมองออกไปบริเวณ Lake หน้าโครงการ พร้อมบรรยากาศความร่มรื่นของต้นไม้โดยรอบครับ

ริมสระว่ายน้ำ มีเตียงผ้าใบมาให้ 4 ตัว ใครที่ไม่อยากว่ายน้ำ จะมานอนเล่นตากอากาศรับลม เทควิวสวนบริเวณนี้แทนก็ได้ครับ

ฝั่งตรงข้ามจะมีพื้นที่สระเด็กอยู่เดี๋ยวเราพาไปชมกันครับ

บริเวณสระเด็กจะอยู่ทางด้านหลังของ Clubhouse มองออกไปจะเห็นพื้นที่สีเขียวด้านหลัง

ด้านซ้ายมีชุดโต๊ะเก้าอี้มาให้ สามารถมานั่งเล่นรับลม หรือใครที่พาเด็ก ๆ มาเล่นน้ำ เราสามารถนั่งดูเด็ก ๆ บริเวณนี้ได้ครับ

ใกล้ ๆ กันจะมีเห็ดอยู่ 2 ต้น โครงการออกแบบให้เป็นม่านน้ำตก มีน้ำตกลงมาจากด้านบนเห็ด รองรับสำหรับครอบครัวที่พาเด็ก ๆ มาเล่นน้ำครับ

ใกล้ ๆ กันบริเวณสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่อาบน้ำล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำมาให้ เป็นแบบ Hand Shower พร้อม Rain Shower ครับ

ฝั่งตรงข้ามจะมีห้องน้ำแยกชาย – หญิง พร้อมห้องน้ำคนพิการมาให้

ภายในห้องน้ำคนพิการจะมีโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้า พร้อมราวจับสำหรับช่วยพยุงตัวมาให้

ภายในห้องน้ำชายโครงการเตรียมอ่างล้างหน้า ตู้เก็บของ มาให้ ถัดเข้าไปด้านในจะมีที่ยืนปัสสาวะ และห้องสุขามาให้อย่างละ 2 จุด ด้านในสุดจะเป็นห้องอาบน้ำ มีฝักบัวพร้อม Rain Shower มาให้ครับ

ภายในห้องน้ำหญิงตกแต่งมาโทนคล้ายกัน มีสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า ห้องอาบน้ำมาให้ครบตามมาตรฐานครับ

ถัดไปเดี๋ยวเราพาขึ้นไปชมบนชั้น 2 กันต่อนะครับ

บริเวณโถงบันได โครงการตกแต่งโดยวางกระถางต้นไม้ไว้ตรงกลาง พร้อม Chanderlier ด้านหลังเป็นช่องเปิดทำให้แสงและลมพัดผ่านได้

ขึ้นมาชั้น 2 ด้านขวาเราจะเจอกับห้อง Meeting Room

ภายในห้อง Meeting Room โครงการจัดเตรียมโต๊ะประชุมรองรับได้ 6 ที่นั่ง สามารถนัดติวเตอร์มาสอนพิเศษเด็ก ๆ ที่นี่ได้ ส่วนพื้นที่ริมหน้าต่าง โครงการทำเป็นพื้นที่นั่งทำงานส่วนตัวมาให้ 3 จุด เหมาะกับคนอยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทำงานเงียบ ๆ คนเดียว

ด้านขวาของชั้น 2 จะเป็นทางเดินไปยังพื้นที่นั่งเล่นและห้อง Fitness

เดินเลยซุ้มประตูโค้งเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น เปิดโปร่ง 2 ฝั่ง ทำให้ลมพัดค่อนข้างดี เห็นวิวพื้นที่สีเขียวและสระว่ายน้ำ โครงการจัดชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางมาให้ 2 จุด พร้อมชุดโต๊ะและเก้าอีกอีก 2 จุด สามารถมานั่งเล่นรับลม หรือนั่งรอเวลาที่มีคนใช้งาน Fitness ได้ครับ

ถัดไปเดี๋ยวเราพาเข้าไปชมภายในห้อง Fitness กันครับ

ภายในห้อง Fitness บรรยากาศโปร่งโล่ง มีช่องแสงทั่วทั้งห้อง ด้านซ้ายจะมีโซนโยคะ มีเสื่อและลูกบอลมาให้ ถัดเข้าไปจะเป็นโซน Cardio มีเครื่องเล่นมาให้ 4 ตัว ส่วนด้านขวาจะมีเครื่อง Cardio อีก 2 ตัว พร้อมโซน Weight Training อีก 2 เครื่อง รองรับการใช้งานของลูกบ้านพร้อม ๆ กันได้ประมาณ 7 – 8 คนครับ

เดินออกมาจากบริเวณอาคาร Clubhouse เราพามาชมบริเวณพื้นที่สวนกันต่อครับ

ส่วนแรกที่เราจะเจอคือ Sansiri Backyard เป็นมุมที่ทางโครงการทำเป็นแปลงผักสวนครัวไว้ให้ สามารถมาเด็ดไปประกอบอาหารที่บ้านได้

ใกล้ ๆ กันจะมีพื้นที่สนามเด็กเล่นปูเป็นพื้นยางทำให้เวลาเด็กมาวิ่งเล่นช่วยซับแรงกระแทกเวลาล้มได้ครับ มีชิงช้ารูปแครอทและไม้ลื่นรูปฟักทองมาให้ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นโซนที่มีสีสันสดใส ให้ความรู้สึก Active ครับ สามารถพาเด็ก ๆ มาเล่นตอนเย็น ๆ ได้

เดินต่อมาจากบริเวณสนามเด็กเล่นจะเจอกับวงเวียนทางเดิน สามารถเดินชมสวนตามทางเดินได้ โครงการทำเป็นพื้นที่คูน้ำบางส่วนทำให้บรรยากาศดูสดชื่นมากขึ้น มีพื้นที่เป็นลานเล็ก ๆ สามารถเดินขึ้นไปชมวิวสวนโดยรวมของโครงการได้ครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

– อาคาร Clubhouse 2 ชั้น ประกอบด้วย
– ชั้น 1 : Lobby, สำนักงานนิติบุคคล, พื้นที่สันทนาการสำหรับเด็ก
– ชั้น 2 : Co-working Space, Meeting Room, Fitness
– สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 30 x 8 เมตร
– สระเด็กพร้อมอุโมงค์น้ำรูปเห็ด
– Sansiri Backyard
– Playground สนามเด็กเล่น
– สวนส่วนกลางจำนวน 2 จุด รวมขนาดกว่า 6 ไร่
– ประตูเข้า-ออกโครงการแบบรั้วเหล็กรางเลื่อน
– ระบบจดจำป้ายทะเบียนในการเข้าออก (LPR)
– กล้อง CCTV ภายในโครงการรวม 25 จุด (เฟส 1)
– ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. Liv24
– รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร ต่อด้วยระแนงสูง 3 เมตร
– ระบบไฟ 3 Phase มีเสาไฟ รองรับ EV Charger
– ถนนหลักกว้าง 17 เมตร
– ถนนรองกว้าง 9 เมตร
– ฟุตบาทกว้าง 1.5 เมตร

Highlight

• Bay Window บริเวณ Living Area เปิดรับแสงได้ดี บรรยากาศดูโปร่ง โล่ง เหมาะสำหรับพักผ่อน
• มีบิ้วอินเคาน์เตอร์ครัวและห้องนอนชั้น 1 ทุกแบบบ้าน จัดเป็นห้องทำงานหรือรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุได้
• บ้านสไตล์ Urban Farmhouse ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านในชนบทและโรงนาจากทวีปยุโรป

แบบบ้านในโครงการ สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) เป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมดมีให้เลือก 3 แบบ ออกแบบสไตล์ Urban Farmhouse เน้นโทนสีขาว เทา ที่ดินเริ่มต้นขนาด 53 – 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 174 – 244 ตร.ม. ดังนี้

• บ้านเดี่ยว 2 ชั้น Daisy ขนาดที่ดินเริ่มต้น 53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 174 ตารางเมตร จัดฟังก์ชันได้ 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ

• บ้านเดี่ยว 2 ชั้น Camelia ขนาดที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 193 ตารางเมตร จัดฟังก์ชันได้ 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ

• บ้านเดี่ยว 2 ชั้น Calendula ขนาดที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 244 ตารางเมตร จัดฟังก์ชันได้ 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ

สรุปวัสดุภายในบ้าน

– บ้านสไตล์ Urban Farmhouse
– ก่อสร้างระบบ Precast
– โครงหลังคาสำเร็จรูป กระเบื้องคอนกรีตแผ่นลอน
– ที่จอดรถลงเสาเข็ม
– ลานซักล้างไม่ได้ลงเสาเข็ม
– ประตูเข้าบ้านสีขาว ไม่มี Digital Door Lock
– กรอบหน้าต่างและประตู UPVC
– พื้นชั้น 1 ปู SPC
– พื้นชั้น 2 ปูลามิเนต
– พื้นห้องครัวปูกระเบื้องขนาด 30×30 ซม.
– Built-in ชุดเคาน์เตอร์ครัวตามมาตรฐานโครงการ
– โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก
– วัสดุปิดผิวบันได ไม้สำเร็จรูปทาสี
– ความสูงพื้นถึงฝ้า ชั้น 1 และ 2 สูง 2.7 เมตร
– ระบบท่อน้ำร้อน-เย็น ที่ห้องนอน Master แบบบ้าน Calendula
– สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ บุญถาวร, cotto หรือเทียบเท่า
– อ่างอาบน้ำที่ ห้องนอน Master แบบบ้าน Calendula
– ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำ
– เครื่องปรับอากาศที่ห้องนอน Master
– เตรียม Junction สำหรับติดแอร์ห้องอื่น ๆ มาให้
– ระบบระบบอากาศภายในตัวบ้านบริเวณขอบหน้าต่าง
– Magnetic Sensor ชั้น 1
– Motion Sensor ชั้น 1
– Smoke Sensor ที่ห้องครัว
– แผ่นสะท้อนความร้อนใต้หลังคา

**รายละเอียดของวัสดุต่าง ๆ เช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

บ้านตัวอย่างแบบ Calendula พื้นที่ใช้สอย 244 ตารางเมตร

บ้านตัวอย่างหลังแรกที่เราพามาชมกันจะเป็นบ้านหลังใหญ่สุดในโครงการ แบบ Calendula ขนาดที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 244 ตารางเมตร จัดฟังก์ชันได้ 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ

บริเวณหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คัน บริเวณด้านขวาสามารถจอดได้ 2 คัน มีระยะความกว้างประมาณ 5.4 เมตร ส่วนด้านซ้ายจอดได้อีก 1 คัน มีระยะประมาณ 2.6 เมตร

ด้านหลังที่จอดรถ โครงการเตรียมงานระบบสำหรับคนที่ต้องการติด EV Charger เพิ่มมาให้แล้ว รวมถึงมีปลั๊กไฟพร้อมฝาปิดกันน้ำมาให้ 1 จุด

ใกล้ ๆ กันจะมีห้องเก็บของให้อีก 2 ช่อง สามารถใช้เก็บอุปกรณ์ดูแลรถยนต์หรืออุปกรณ์ทำสวนได้ครับ

ใครที่เลือกแปลงบ้านที่มีพื้นที่ข้างบ้านเหลือเยอะสามารถจัดสวนเพิ่มหรือหาชุดโต๊ะเก้าอี้มาวางเพิ่มเติมได้นะครับ

บริเวณข้างบ้านอีกฝั่งของบ้านตัวอย่าง มีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะเลย โครงการจึงตกแต่งเป็นพื้นที่สวนข้างบ้าน พร้อมทำเป็นศาลานั่งพักผ่อน ทำให้บ้านมีบรรยากาศร่มรื่นมาก ๆ เลยครับ

ส่วนถัดมาเดี๋ยวเรามาดูบริเวณทางเข้าบ้านกันครับ พื้นที่ตรงนี้สามารถเป็นพื้นที่ถอดและใส่รองเท้าได้ ซึ่งภายในบ้านจะมีมุมสำหรับทำเป็นชั้นเก็บรองเท้ามาให้ด้วยครับ

ประตูเข้าบ้านจะเป็นกรอบ UPVC สีขาว เป็นแบบไขกุญแจปกติ ใครที่อยากได้ความสะดวก ไม่ต้องพกกุญแจ สามารถติด Digital Door Lock เพิ่มเติมได้นะครับ

เปิดประตูเข้ามาในบ้านเราจะเจอพื้นที่เสมือนเป็น Foyer ก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน สามารถจัดวางชั้นรองเท้าพร้อมเก้าอี้สำหรับนั่งใส่รองเท้าได้ครับ หรือใครที่มีรองเท้าเยอะ ๆ จะมา Tower Box ซ้อนกันหลาย ๆ ชั้นบริเวณนี้ก็ยังได้ครับ พื้นชั้น 1 ปูด้วย SPC ทนน้ำและรอยขีดข่วนได้ดีกว่าลามิเนตและได้สัมผัสที่นุ่มมากกว่ากระเบื้อง ความสูงพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.7 เมตร

ใกล้ ๆ กันจะมีเครื่องสำหรับควบคุมระบบความปลอดภัยภายในบ้าน แบรนด์ Inim เชื่อมต่อกับ Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในบ้าน เวลามีเหตุผิดปกติระบบจะส่งเสียงเตือน

ด้านขวาจะมีประตูเข้าห้องนอนชั้น 1 เหมาะสำหรับทำเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้ครับ

ภายในห้องนอนชั้น 1 มีขนาดประมาณ 3.7 x 2.9 เมตร โครงการตกแต่งเป็นห้องทำงานมาให้ดูเป็นไอเดีย ได้ช่องแสง 2 ฝั่ง ทำให้ห้องดูสว่าง เปิดรับลม ระบายอากาศได้ดี รวมถึงมีการตกแต่งเป็นมุมที่นอนสำหรับน้องหมาและแมวมาให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยครับ

ภายในห้องนอนชั้น 1 จะได้ห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องเลย ให้สุขภัณฑ์แบรนด์ Cotto หรือเทียบเท่ามาครบทั้ง อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ฝักบัวสำหรับอาบน้ำ ที่แขวนผ้าเช็ดตัว ใครที่อยากได้ความเป็นสัดส่วน สามมารถติดฉากกั้นอาบน้ำหรือม่านเพิ่มเติมได้นะครับ

ถัดมา เรามาดูพื้นที่บริเวณ Living Area กันต่อครับ เป็นพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่วางโต๊ะทานข้าวขนาดใหญ่ มีขนาดประมาณ 7.9 x 3.7 เมตร

ด้านขวาจัดเป็นมุมห้องนั่งเล่น วางชุดโซฟาขนาด 4 – 5 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้ ด้านขวาวางชั้นวางทีวีได้ มีช่องแสงบริเวณหลังโซฟาและประตูเปิดออกไปบริเวณสวนข้างบ้าน ทำให้แสงสว่างส่องเข้ามาได้เยอะ ได้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง เวลาเรานั่งเล่นบริเวณนี้ครับ

ด้านซ้ายเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานข้าว สามารถวางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 – 6 ได้สบาย มีพื้นที่เหลือสำหรับเดินรอบโต๊ะได้ หรือใครชอบเป็นโต๊ะกลมก็สามารถวางได้นะครับ

ใกล้กับโต๊ะทานข้าวจะมีพื้นที่ Bay Window ซึ่งถือเป็นฟังก์ชันเด่นของแบบบ้านในโครงการสราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) เลยครับ เป็นพื้นที่ได้ช่องแสงแบบเข้ามุม ดูสว่างและโปร่งโล่งมาก ๆ  เราสามารถจัดพื้นที่ตรงนี้เป็นที่นั่งร่วมกับโต๊ะทานข้าวแบบบ้านตัวอย่างก็ได้ หรือเราจะเลื่อนโต๊ะทานข้าวออกไปหน่อยแล้วทำพื้นที่ตรงนี้เป็น Day Bed ทำหรับนอนเอกเขนกในวันหยุดสบาย ๆ หรือจะจัดเป็นมุมวางโต๊ะทำงานก็ได้ครับ

ถัดมาเราจะเจอกับประตูบานเลื่อนกั้นโซนครัว มีห้องงานระบบไฟและห้องน้ำ Powder อยู่บริเวณนี้ด้วย

ภายในห้องงานระบบไฟสามารถเก็บของเพิ่มเติมได้

ภายในห้องน้ำ Powder โครงการให้อ่างล้างหน้าพร้อมโถสุขภัณฑ์พร้อมติดตั้งระบบล้างอัตโนมัติมาให้เป็นมาตรฐานครับ

ภายในห้องครัวมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ได้เป็นเคาน์เตอร์ครัว 2 ฝั่ง มีระยะทำครัวประมาณ 2.3 เมตร โดยที่เราจะได้เคาน์เตอร์พร้อมบิ้วอินหน้าบานตู้เก็บของตามมาตรฐานโครงการเลยครับ

เคาน์เตอร์ครัวด้านซ้ายจะมีอ่างล้างจานมาให้ ด้านข้างสามารถวางที่คว่ำจานหรืออุปกรณ์สำหรับทำครัวเพิ่มเติมได้ ด้านขวาสุดมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้ โครงการเตรียมระบบน้ำรอไว้ให้แล้ว ด้านบนมีตู้เก็บของ พร้อมราวแขวนผ้ามาให้ ใช้เก็บของใช้ในครัวได้ครับ

ส่วนเคาน์เตอร์ครัวด้านขวาจะเป็นพื้นที่สำหรับวางเตาซึ่งแล้วแต่เจ้าของบ้านเลยครับว่าอยากใช้เป็นเตาไฟฟ้าหรือเตาแก็ส ด้านบนสามารถติดเครื่องดูดควันเพิ่มได้ ด้านซ้ายมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่แบบบานเปิดซ้าย – ขวา ได้ นอกจากนี้เรายังได้บิ้วอินหน้าบานบริเวณใต้เคาน์เตอร์ไว้ใช้เก็บของเพิ่มเติมได้ครับ

ภายในห้องครัวจะมีประตูสามารถเปิดออกไปบริเวณข้างบ้านได้ ซึ่งบริเวณข้างบ้านจะมีประตูห้องเก็บของใต้บันไดมาให้ เราใช้พื้นที่บริเวณนั้นเก็บของที่เราอาจจะนาน ๆ ใช้ทีหรือจะใช้เก็บกล่องที่มีขนาดใหญ่ก็ได้ครับ

พาดูชั้น 1 กันครบหมดแล้ว เดี๋ยวเราพาเดินขึ้นไปชมชั้น 2 กันต่อ โดยตำแหน่งของบันไดจะอยู่ใกล้ ๆ ที่วางโต๊ะทานข้าวครับ

บริเวณชานพักบันไดเราจะเจอกับช่องแสง ซึ่งทางโครงการให้ระบบระบายอากาศมาด้วย เราสามารถเลื่อนเปิดเพื่อให้อากาศในบ้านเกิดการถ่ายเทได้ครับ

ขึ้นมาด้านบนเราจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์อยู่ติดกับบันได เราสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นเพิ่มได้ หรือจะจัดวางเป็นโต๊ะทำงานก็ได้ หรือใครที่อยากได้ความเป็นสิริมงคลจะทำเป็นมุมห้องพระเล็ก ๆ บริเวณนี้ก็ได้นะครับ

บริเวณชั้น 2 จะมีลักษณะเป็นโถงทางเดินไปยังห้องนอนแต่ละห้อง พื้นปูด้วยลามิเนต โดยห้องนอนทางขวาของรูปจะเป็นตำแหน่ง Master Bedroom และมีอีก 2 ห้องนอนอยู่ถัดเข้าไปตามโถงทางเดินครับ ไหน ๆ เราก็อยู่หน้าห้อง Master Bedroom แล้ว เดี๋ยวเราพาเข้าไปชม Master Bedroom กันก่อนเลยครับ

เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ Walk-in Closet และประตูห้องน้ำก่อน โดยโครงการกั้นผนังเบาบริเวณฝั่งซ้ายเพิ่มเพื่อความเป็นสัดส่วนให้ Walk-in Closet สำหรับเป็นไอเดียให้คนที่อยากได้ Walk-in Closet ครับ สามารถบิ้วอินตู้ความยาวประมาณ 3 เมตรได้ มีระยะยืนแต่งตัวประมาณ 1.1 เมตร

ภายในห้องน้ำโครงการให้สุขภัณฑ์มาครบตามมาตรฐาน มีขนาดค่อนข้างใหญ่

บริเวณอ่างล้างหน้ามีพื้นที่สำหรับวางของด้านซ้าย – ขวา ด้านใต้อ่างล้างหน้าโครงการบิ้วอินตู้เก็บของพร้อมหน้าบานสีไม้มาให้ ใช้เก็บของจำพวกสบู่ กระดาษทิชชู่ โฟมล้างหน้า สะดวกต่อการหยิบใช้งานครับ

สุขภัณฑ์ได้เป็นพร้อมติดตั้งระบบล้างอัตโนมัติมาให้ สามารถปรับความแรงน้ำ และอุณหภูมิน้ำได้

บริเวณพื้นที่อาบน้ำมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ประมาณ 2 x 1.9 เมตร โครงการเตรียมฝักบัวพร้อมวางอ่างอาบน้ำมาให้ ใกล้ ๆ กันช่องแสงเป็นกระจกฝ้าขนาดใหญ่ ทำให้ภายในห้องน้ำดูสว่าง เปิดระบายอากาศและความชื้นได้

ถัดเข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่วางเตียง มีขนาดประมาณ 3.65 x 4.5 เมตร สามารถวางเตียงแบบ King Size ได้ มีระยะเหลือพอให้เดินรอบเตียง เราสามารถบิ้วอินชั้นวางทีวีบริเวณปลายเตียงพร้อมโต๊ะทำงานเล็ก ๆ ริมหน้าต่างแบบบ้านตัวอย่างก็ดูลงตัวดีครับ

ใกล้ ๆ กันจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้ โดยระเบียงจุดนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณ 1.6 x 0.38 เมตร อาจจะไม่สามารถออกไปยืนรับลมได้ เหมาะสำหรับเปิดระบายอากาศหรือหาต้นไม้มาวางเพื่อเพิ่มความร่มรื่นให้ห้องนอนครับ

ด้านหลังชั้นวางทีวีจะมีพื้นที่เหลืออีกส่วนนึง โครงการจัดมาเป็นห้องนอนสำหรับน้องหมาน้องแมวของเรา ซึ่งถือเป็นสมาชิกตัวน้อย ๆ ภายในครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ของตัวเองครับ หรือถ้าใครไม่มีสัตว์เลี้ยง จะทำพื้นที่ตรงนี้เป็นมุมวางโต๊ะทำงานก็ได้ครับ

ห้องนอนถัดมาจะเป็นห้องนอนตำแหน่งหลังบ้านนะครับ โครงการตกแต่งมาเป็นห้องนอนสำหรับเด็ก เน้นโทนสีสันสดใส มีมุมสำหรับเล่นของเล่น

ด้านขวาเป็นพื้นที่สำหรับวางเตียง โครงการวางเป็นเตียง 2 ชั้นสำหรับเด็กมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งถ้าใครอยากทำเป็นห้องนอนปกติ สามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้เหมือนกันครับ

ด้านซ้ายจะมีพื้นที่สำหรับจัดเป็นมุมเล่นของเล่นให้เด็ก ๆ ซึ่งถ้าใครยังไม่มีลูก โซนนี้สามารถบิ้วอินเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่รูปตัว U ได้สบาย ๆ จะทำให้ห้องนี้เป็นห้องที่มี Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้เลยครับ

ภายในห้องน้ำให้สุขภัณฑ์มาครบตามมาตรฐาน มีระยะยืนอาบน้ำประมาณ 0.8 x 1.48 เมตรครับ

ห้องนอนถัดมาจะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน มีขนาดเล็กกว่าห้องนอนฝั่งหลังบ้าน แต่ยังมีห้องน้ำส่วนตัวครับ

ภายในห้องน้ำให้สุขภัณฑ์มาครบตามมาตรฐาน มีระยะยืนอาบน้ำประมาณ 0.8 x 1.48 เมตรเท่ากันกับห้องนอนหลังบ้านเลยครับ

ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่วางเตียง มีขนาดประมาณ 3.7 x 3 เมตร เหมาะสำหรับวางเตียงขนาด 5 ฟุต หรือถ้าใครจะวาง 6 ฟุตก็พอได้ครับ แต่พื้นที่ข้างเตียงจะเหลือน้อยหน่อย สามารถบิ้วอินตู้เสื้อผ้าพร้อมชั้นวางทีวีได้ โดยห้องนี้มีจุดเด่นตรงที่ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง จากหน้าต่างบริเวณหัวเตียง และประตูบานเลื่อนระเบียง ทำให้ห้องดูไม่แคบ ดูสว่าง โปร่ง โล่ง

พื้นที่ระเบียงได้ขนาดเต็มความยาวห้อง 3.7 เมตรเลยครับ แต่จะมีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 0.5 เมตร เป็นระยะที่พอออกไปยืนเล่นรับลมได้ สามารถหากระถางต้นไม้มาวางเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและร่มเงาให้บ้านได้ครับ

บ้านตัวอย่างแบบ Camelia พื้นที่ใช้สอย 193 ตารางเมตร

บ้านตัวอย่างหลังถัดมาจะเป็นบ้านขนาดกลางเป็นแบบบ้านที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการ เป็นแบบ Camelia ขนาดที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 193 ตารางเมตร จัดฟังก์ชันได้ 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ

หน้าบ้านจอดรถได้ 2 คัน มีระยะความกว้างประมาณ 5.4 เมตร ด้านหลังเตรียมระบบรองรับสำหรับติด EV Charger มาให้ตามมาตรฐาน

ด้านซ้ายจะมีประตูทางเข้าบ้าน มีพื้นที่หน้าบ้านสำหรับวางชั้นวางรองเท้าได้

เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นตำแหน่งแปลงมุมทำให้สามารถจัดสวนด้านข้างบ้านได้เพิ่มครับ

เปิดประตูเข้ามาในบ้าน ด้านขวาจะมีพื้นที่สำหรับบิ้วอินตู้เก็บของหรือชั้นเก็บรองเท้าได้ครับ ด้านบนสามารถจัดเป็นโซนวางกุญแจหรือของที่เราหยิบก่อนออกจากบ้านก็ได้ครับ

ด้านในจะเป็นพื้นที่ Living Area เชื่อมต่อกับโต๊ะทานข้าว ด้านขวามีบานเลื่อนกั้นห้องครัว ส่วนด้านซ้ายจะมีห้องน้ำและห้องนอนชั้น 1 อยู่ เดี๋ยวเราพาไปชมกันครับ

ภายในห้องนอนชั้น 1 โครงการตกแต่งมาเป็นห้องพักผ่อน มีขนาดประมาณ 3 x 2.9 เมตร วางเก้าอี้สำหรับนั่งเล่น บริเวณผนังสามารถบิ้วอินชั้นวางของเพิ่มได้

บ้านตัวอย่างหลังนี้ โครงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีไม้ ทำให้ได้ความรู้สึก Warm ดูอบอุ่น บริเวณนี้สามารถวางโต๊ะขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้

ด้านซ้ายจะเป็นโซนห้องนั่งเล่น สามารถวางชุดโซฟาขนาด 4 – 5 ที่นั่ง พร้อมตั้งโต๊ะกลางสำหรับวางขนมหรือแก้วน้ำได้สบาย ๆ ด้านหลังโซฟามีหน้าต่างบานเลื่อน ส่วนด้านข้างบ้านมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปพื้นที่สวนได้ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ได้แสงสว่างค่อนข้างเยอะ ดูโปร่ง ได้บรรยากาศสบาย ๆ

พื้นที่บริเวณ Bay Window โครงการจัดมาเป็นโซนสำหรับนั่งวาดภาพ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการวาดรูปและศิลปะ หรือใครจะจัดโซนนี้เป็นที่วางโต๊ะทำงานก็ได้นะครับ ถือว่าลงตัวเช่นกัน

ด้านขวาของตัวบ้านจะมีประตูบานเลื่อนกั้นโซนครัวทำให้ได้ฟังก์ชันครัวปิด เวลาทำอาหารกลิ่นจะได้ไม่ออกมารบกวนพื้นที่ห้องนั่งเล่นครับ

ด้านขวาโครงการบิ้วอินเคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้เก็บของมาให้ตามมาตรฐาน มีอ่างล้างจานมาให้ ด้านซ้ายสุดมีพื้นที่เหลือสำหรับวางเครื่องซักผ้าได้

ด้านซ้ายจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นและที่วางเตา โครงการบิ้วอินเคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมหน้าบานปิดสีไม้ตามมาตรฐาน

ออกมาจากห้องครัว บริเวณข้างบ้าน เราจะเจอกับประตูห้องเก็บของใต้บันได สามารถใช้เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้งานหรือลังกระดาษได้ครับ

ส่วนถัดไปเดี๋ยวเราพาขึ้นไปชมบนชั้น 2 กันนะครับ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 เราจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนแบบบ้านตัวอย่างก็ได้ หรือใครจะจัดเป็นโซนห้องพระ โต๊ะนั่งทำงานก็สามารถทำได้ครับ ปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านเลยครับ

เดินถัดเขาไปจากพื้นที่อเนกประสงค์ ด้านในจะมีห้องน้ำ 1 ห้องและห้องนอนอีก 3 ห้องครับ

ห้องน้ำภายนอกสำหรับใช้ร่วมกัน 2 ห้องนอน ให้สุขภัณฑ์มาครบตามมาตรฐาน พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.58 x 0.95 เมตร สามารถติดฉากกั้นอาบน้ำหรือม่านเพิ่มเติมเพื่อแยกส่วนเปียก – แห้งได้

ห้องนอนฝั่งหลังบ้านมีขนาดประมาณ 5 x 2.9 เมตร ออกแบบมาเป็นห้องนอนเด็กพร้อมตกแต่งมาในสไตล์ Camping มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ หากใครอยากทำเป็นห้องนอนปกติ สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตพร้อมบิ้วอินตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ มีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะทำงานเล็ก ๆ เพิ่มได้

ห้องนอนฝั่งหน้าบ้านมีขนาดประมาณ  3.3 x 2.9 เมตร โครงการจัดมาเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นไอเดีย มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานพร้อมชั้นวางของขนาดใหญ่ เหมาะกับคนที่ทำงานแบบ Work From Home  หรือจะตกแต่งเป็นห้องสำหรับเล่นเกมคอมพิวเตอร์แบบจริงจังเลยก็ได้ครับ

ถัดมาจะเป็นห้องนอน Master Bedroom บริเวณพื้นที่วางเตียงมีขนาดประมาณ 4.4 x 3.45 เมตร วางเตียงขนาด King Size ได้ มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะหัวเตียง ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือสามารถวางชั้นวางทีวีชิดผนังได้

ด้านขวาของเตียง จะมีประตูกระจกสามารถเปิดออกไประเบียงได้ พื้นที่บริเวณนี้มีขนาดประมาณ 2.9 x 1.8 เมตร สามารถหาชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นได้ หรือใครอยากได้ความร่มรื่น จะจัดเป็นพื้นที่สวนหย่อมบนระเบียงก็ได้นะครับ

ด้านซ้ายจะมีพื้นที่ Walk-in Closet  บริเวณหน้าห้องน้ำ สามารถบิ้วอินตู้ขนาดประมาณ 2.1 เมตรพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามุมได้

ใกล้ ๆ Walk-in Closet  จะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้ ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.6. x 0.4 เมตร  เหมาะสำหรับเปิดระบายอากาศหรือหากระถางต้นไม้มาตั้งเพิ่มความร่มรื่นให้ห้องนอนได้ครับ ถ้าใครอยากออกไปยืนรับลม ระเบียงอีกฝั่งนึงจะเหมาะกว่าครับ

ภายในห้องน้ำมีขนาดประมาณ 2.57 x 1.58 เมตร ให้สุขภัณฑ์มาครบตามมาตรฐาน โถสุขภัณฑ์มาพร้อมระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ ใครที่อยากได้ความเป็นสัดส่วน สามารถติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเองได้ครับ พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ  1.58 x  0.8 เมตร มีหน้าต่างเปิดระบายอากาศและความชื้นได้

บ้านตัวอย่างแบบ Daisy พื้นที่ใช้สอย 174 ตารางเมตร

 Daisy ขนาดที่ดินเริ่มต้น 53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 174 ตารางเมตร จัดฟังก์ชันได้ 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ  มาฝากทุก ๆ คนกันด้วย สามารถเลื่อนดูได้เลยนะครับ

บรรยากาศบริเวณชั้น 1 โซนห้องนั่งเล่น ห้องนอนชั้น 1 ห้องครัว และห้องน้ำ

บรรยากาศบริเวณชั้น 2 พื้นที่อเนกประสงค์ ห้องนอนที่ 2 และห้องน้ำส่วนตัว

บรรยากาศบ้าน Daisy ชั้น 2 ภายในห้อง Master Bedroom

สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot)  ราคา ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2568

• ราคาเริ่มต้น 7.99 – 15 ล้านบาท
• จองและทำสัญญา n/a บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
• ค่าส่วนกลาง 39 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการตั้งอยู่ใกล้ทางด่วนฉลองรัช ด่านจตุโชติ และทางด่วนกาญจนาภิเษก ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ในย่านสุขาภิบาล 5 สายไหม ไม่ไกลจากถนนเทพรักษ์ที่ปัจจุบันสามารถเชื่อมไปสนามบินสุวรรณภูมิและถนนวิภาวดีรังสิตได้สะดวก

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : โครงแยกทางเข้า – ออกสำหรับลูกบ้านและผู้มาติดต่อ พร้อมระบบอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ (LPR) รอบโครงการจะมีกล้องวงจรปิดพร้อมรปภ.ดูแล 24 ชั่วโมง มาตรฐาน Liv24 ส่วนในตัวบ้านจะมี Magnetic Sensor และ Motion Sensor ที่ชั้น 1 ให้ ถือว่ามีความปลอดภัยครับ

การออกแบบโครงการ : แนวคิดการออกแบบภาพรวมของโครงการชัดเจน ใช้สถาปัตยกรรมและโทนสีที่ซุ้มทางเข้า อาคาร Clubhouse ให้มีโทนเดียวกัน สวนหย่อมส่วนกลาง และตัวบ้านรูปแบบต่าง ๆ สอดคล้องกันและได้บรรยากาศบ้านสวนในทวีปยุโรป การจัดวางผังโครงการไม่ซับซ้อน ใช้งานได้ง่าย การจัดผังโครงการวางตัวบ้านหันทิศเหนือและใต้ แดดไม่ส่องเข้าบ้านโดยตรง ซอยสามารถเชื่อมกันได้ทำให้ไม่มีซอยตัน สามารถวนได้สะดวก มีการกระจายพื้นที่สีเขียว 2 จุด ทำให้ลูกบ้านแต่ละโซนไปใช้งานได้ง่าย

การออกแบบบ้าน : มีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย ในสไตล์ Urban Farmhouse ซึ่งความแตกต่างหลัก ๆ จะอยู่ที่ขนาดและจำนวนห้อง ด้วยลักษณะของบ้านที่เป็นหน้ากว้าง ทำให้ได้ช่องแสงและการระบายอากาศที่ดี ส่วนตำแหน่งของห้องต่าง ๆ ค่อนข้างคล้ายกัน การแบ่งสัดส่วนจัดได้ลงตัว มีส่วนครัวแบบปิด ลานซักล้างและห้องเก็บของแยกส่วนไว้ใช้งานในทุกหลัง มี Bay Window เพิ่มความโปร่งโล่งให้พื้นที่ชั้น 1

วัสดุ : วัสดุส่วนใหญ่เป็นไปตามมาตรฐานของโครงการ บริเวณพื้นบ้านชั้น 1 ปูด้วย SPC ทนรอบขีดข่วนและน้ำได้ดีกว่าลามิเนต มีนวัตกรรมของช่องระบายอากาศที่ติดมากับหน้าต่างช่วยให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ดีขึ้น ส่วนครัวได้เคาน์เตอร์แบบก่อ พร้อมติดตั้งหน้าบานครบชุด ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ครบตามมาตรฐาน ฝารองนั่งอัตโนมัติพร้อมใช้งานในบางห้อง

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : พื้นที่สีเขียวของโครงการมีขนาดใหญ่ แบ่งเป็นสวนภายในโครงการ 2 จุด และยังมี  Lake อยู่บริเวณหน้าโครงการ มีการลงรายละเอียดพืชพรรณไม้ ทรงต้นไม้ทำให้โครงการออกมาร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่อยู่บริเวณถนน Main เพิ่มร่มเงาให้กับพื้นที่ภายในโครงการได้ดี

สาธารณูปโภค : Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่อาคาร Clubhouse ของโครงการ ตำแหน่งที่ตั้งจะอยู่หน้าโครงการติดกับ Lake สามารถมาใช้งาน เข้าถึงได้ง่าย ฟังก์ชันด้านในก็จะมีทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือ สระสำหรับเด็กพร้อมอุโมงค์น้ำรูปเห็ด พื้นที่สันทนาการสำหรับเด็ก ห้อง Fitness พร้อมทั้งอุปกรณ์คาดิโอและเวทเทรนนิ่ง รวมถึง Meeting Room สำหรับนั่งทำงาน และที่นั่งเล่นตามจุดต่าง ๆ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ  8 – 15 ล้านบาท, 18 สิงหาคม 2568

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่เลียบคลอง 2
• ความปลอดภัย 8/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – แบบสวย คอนเซปท์แรง พื้นที่เหมาะสม
• วัสดุ 8/10 – มาตรฐานของระดับนี้
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – โครงการใหญ่ มีพื้นที่สีเขียวมาก ออกแบบ Landscape ได้ดี
• สาธารณูปโภค 8/10 – ทะเลสาบใหญ่ สวนสองแห่ง สโมสร หอชมวิว สระว่ายน้ำ
• 8.2 / 10.00

สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) เหมาะกับใคร

โครงการ สราญสิริ จตุโชติ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มมีครอบครัวไปจนถึงผู้ที่มีครอบครัวขนาดใหญ่ มีฟังก์ชันห้องนอนชั้นล่างเอาไว้สำหรับรองรับผู้สูงอายุ คนทำงานอยู่ในละแวกเลียบด่วนเอกมัย – รามอินทรา มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 7.99 – 15* ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 56,000 – 105,000 บาท

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

• CENTRO Watcharapol 2 (เซนโทร วัชรพล 2)
• Centro Ramindra-Chatuchot 3 (เซนโทร รามอินทรา-จตุโชติ 3)

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่