ขึ้นชื่อว่า “บ้าน” แน่นอนว่าเป็นสถานที่ที่ทุกคนกลับมาเพื่อใช้ชีวิตอย่างสงบและเป็นส่วนตัว แต่ก็ต้องยอมรับว่าบ้านในโครงการจัดสรรส่วนใหญ่ยังไม่ได้ออกแบบให้เป็นส่วนตัวได้มากนัก เพราะข้อจำกัดมากมาย เช่น ต้นทุนค่าก่อสร้าง, ความคุ้มค่าของพื้นที่ใช้สอยที่ต้องจัดให้เต็มที่ดิน ทำให้โครงการที่เราได้พบเจอส่วนใหญ่มักสร้างบ้านแบบเต็มพื้นที่และจัดให้สวนอยู่รอบบ้าน

แต่มีบ้านอยู่แบบนึงที่เราเจอไม่บ่อยนัก แต่รู้สึกว่าเป็นแบบที่ได้ความส่วนตัวมากกว่าโครงการทั่วไปคือบ้านที่มี Private Courtyard อยู่ตรงกลาง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น Rare Item เลยก็ว่าได้ค่ะ

อย่างล่าสุดเราไปสำรวจกลุ่มบ้านเดี่ยว 16-30 ล้าน บนทำเลบางนาตอนต้น (ช่วงตั้งแต่แยกบางนา ถึงช่วงที่ตัดกับถนนศรีครินทร์) พบว่าส่วนใหญ่ 70% เป็นบ้านทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีสวนรอบบ้าน แต่จะมีแค่ 30% ที่ตัวบ้านออกแบบ Courtyard ไว้ตรงกลาง และมีเพียง 20% ที่วางตำแหน่ง Courtyard ไว้ด้านใน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด เพราะตัวบ้านจะโอบล้อม Courtyard ไว้ช่วยป้องกันสายตาจากเพื่อนข้างบ้านได้เป็นอย่างดี โครงการนั้นคือ Vivaldi Bangna นั่งเองค่ะ

Vivaldi Bangna ถือเป็นแบรนด์ Flagship ใหม่จาก Real Asset ที่ต้องการทำบ้านระดับ Luxury ราคาเริ่ม 16 – 30 ล้านบาท ทางโครงการตั้งใจออกแบบพื้นที่นี้ให้เกิดความเป็นส่วนตัวสูงสุดสำหรับการพักอาศัยจริง ๆ โดยการวาง Courtyard ไว้ด้านใน เพื่อให้เจ้าของบ้านได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ผ่อนคลาย และไม่ถูกรบกวนจากภายนอก

ใครสนใจ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่เลยค่ะ >> https://bit.ly/47ekb6b

Q&A

  • บ้านแบบ Private Courtyard มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร?
  • Vivaldi Bangna ราคาเท่าไหร่?
  • Facilities ที่ให้จัดเต็มขนาดไหน?
  • Vivaldi Bangna ตั้งอยู่ตรงไหน? ศักยภาพในอนาคตเป็นอย่างไร?

บ้านแบบ Private Courtyard มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร?

ข้อดีอย่างแรกของการวางตำแหน่ง Private Courtyard อยู่ด้านในตัวบ้าน ทำให้เรามีพื้นที่ Outdoor ที่ได้ความเป็นส่วนตัวที่มากกว่าแบบอื่นๆ เพราะตัวบ้านซ้ายขวาจะช่วยบังสายตาจากข้างบ้านไปได้ จะเหลือแค่ทางฝั่งหลังบ้านที่อาจมองเห็นกันอยู่บ้าง

นอกจากนี้เรายังสามารถดึงธรรมชาติเข้ามาอยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้น เพราะ Courtyard อยู่กลางบ้านจึง Connect กับห้องส่วนใหญ่ได้ทั้งหมด บ้านแบบนี้จะได้ประตู-หน้าต่างหลายตำแหน่ง จะอยู่ห้องไหนก็สามารถเปิดประตู-หน้าต่างมาสูดอากาศธรรมชาติได้ง่าย ภายในห้องก็ดูโปร่งขึ้น มีมุมมองที่กว้างขึ้น

มุมมองต่างๆ ที่เปิดโล่งเมื่อมี Courtyard กลางบ้าน

บ้านที่มี Courtyard จะมีพื้นที่ผนังเยอะกว่าบ้านปกติ จึงสามารถติดตั้งประตูหน้าต่างได้มากขึ้น ทำให้แสงส่องถึงภายในบ้านมากขึ้นและระบายอากาศได้ดี

Private Courtyard ของแบบบ้าน Primavera จัดเป็นสระว่ายน้ำ โดยมีความยาวพอให้ติดตั้ง Swim Jet สำหรับว่ายน้ำออกกำลังกายได้ และยังมีพื้นที่รอบสระให้จัดเป็นมุมนั่งเล่นริมสระ

Private Courtyard ของแบบบ้าน Inverno จัดเป็นมุมนั่งเล่น Outdoor แบบกว้างๆ

Vivaldi Bangna ราคาเท่าไหร่?

– แบบบ้าน Es’tate ราคาเริ่ม 15.9 ล้านบาท
– แบบบ้าน Inverno ราคาเริ่ม 20.29 ล้านบาท
– แบบบ้าน Primavera ราคาเริ่ม 23.39 ล้านบาท

ทุกแบบบ้านจะเป็นบ้านไซส์ใหญ่ที่ได้ 4 ห้องนอน ที่พิเศษขึ้นมาคือแบบ Inverno และ Primavera จะได้คอร์ทยาร์ดส่วนตัว และเฉพาะแบบ Primavera ที่ได้ Double Volume ในส่วนนั่งเล่นด้วยค่ะ

แบบบ้าน Private Courtyard นี้จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบความใกล้ชิดธรรมชาติ ทั้งสวนและพื้นที่ Outdoor ที่เจาะเข้ามาในบ้าน แต่ก็ทำให้พื้นที่สอยภายในบ้านลดลงไปด้วยเหมือนกันนะ แม้ว่าแบบบ้านส่วนใหญ่ในโครงการจะเป็นแบบ Private Courtyard แต่ก็จะมีแบบบ้านเริ่มต้นที่สร้างตัวบ้านแบบเต็มพื้นที่ด้วยเหมือนกัน


Facilities ที่ให้จัดเต็มขนาดไหน?

หนึ่งใน Highlight ที่ทุกคนจะต้องว้าวก็คือ Facilities ของโครงการที่จัดเต็มมาให้สุดๆ โดยเฉพาะสนามเด็กเล่นที่เป็นบ้านต้นไม้ขนาดใหญ่ รวมถึงยังมี Wellness Club (Fitness & Yoga Room) ให้ใช้งานได้ 24 ชม. ส่วนฟังก์ชันอื่นๆก็มีมาให้ครบ ซึ่งถ้าเทียบกับขนาดและจำนวนยูนิตของโครงการเพียง 110 หลัง ถือว่าให้มาเยอะมากๆเลยทีเดียว

Wellness Club 24 ชั่วโมง* มีให้ใช้งานทั้ง Fitness และ Yoga Room

สระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมสระเด็ก และ Jacuzzi ความยาวรวม 25 เมตร

Harmonic Play Station สนามเด็กเล่นที่เป็นบ้านต้นไม้ขนาดใหญ่

Co-Working Space ห้องประชุมงานแบบเป็นส่วนตัวที่ลูกบ้านสามารถจองใช้งานได้

Multi-Sport Court ที่ใช้สนามได้หลากหลายกีฬามากๆ ทั้ง Street Basketball, Badminton, Street Soccer, Pickleball, Tennis, Volleyball และยังเป็น Functional Zone ที่ตอบโจทย์การเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการเดิน-วิ่ง-ลุก-นั่งด้วยค่ะ

Jogging Track ความยาวรอบละ 750 เมตร ตามแนวใต้ร่มไม้ใหญ่


Vivaldi Bangna ตั้งอยู่ตรงไหน? ศักยภาพในอนาคตเป็นอย่างไร?

Vivaldi Bangna ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางบางนาตอนต้น ซึ่งเรียกว่าเป็นบ้านบนทำเลคอนโดก็ได้นะ เพราะเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวก ใกล้ทั้งถนนใหญ่อย่างสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ ใกล้ทางด่วนทั้งบางนาและวงแหวนกาญจนาภิเษก

ปัจจุบันหากจะหาบ้านเดี่ยวโซนต้นบางนาแบบนี้ก็หายากขึ้นแล้วนะ เพราะโครงการส่วนใหญ่จะพัฒนาที่ดินเป็นคอนโด บ้านส่วนใหญ่จะไปเปิดตัวในโซนบางนา กม. 10 ช่วงตั้งแต่วงแหวนกาญจนาภิเษกเป็นต้นไป

การเดินทางเข้าออกโครงการ Vivaldi Bangna สามารถใช้ถนนใหญ่ได้ 2 เส้นทาง คือจากถนนบางนา-ตราด (ซอยวัดคลองปลัดเปรียง) และถนนศรีนครินทร์ (ซอยศรีด่าน 22) ซึ่งก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอยู่หน้าปากซอยให้ใช้งานได้ด้วย

Vivaldi Bangna อยู่ในแหล่งความอุดมสมบูรณ์ ที่เรียงรายอยู่ตามแนวถนนบางนา-ตราดและถนนศรีนครินทร์ ทั้งศูนย์การค้า, Community Mall, โรงเรียนนานาชาติ, สนามบินสุวรรณภูมิ ที่สำคัญคือใกล้เมกา บางนา แบบมีทางลัดเลาะไปได้ผ่านถนนบัวนครินทร์โดยไม่ต้องออกถนนใหญ่บางนา-ตราดด้วยค่ะ

ในอนาคตโซนบางนายังมีศักยภาพของทำเลที่ยังพัฒนาไปได้อีกโดยมีโครงการทั้งจากทางภาครัฐและเอกชนเป็นตัวขับเคลื่อน อย่างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเงิน ที่ต่อเชื่อมจากสถานีบางนาเดิมวิ่งไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ ปัจจุบันแผนพัฒนานี้อยู่ใน M-MAP 2 ที่จะดำเนินการภายในปี 2572 นะคะ

อีกโครงการยักษ์ใหญ่ที่น่าสนใจคือ “Bangkok Mall” ว่าที่ Mixed-Use และศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในไทยที่จะอยู่บริเวณแยกบางนาตรงข้ามไบเทค ใกล้กับโครงการ Vivaldi Bangna ประมาณ 8 กม. เท่านั้นเอง จากแบบล่าสุดที่นี่จะรวมไว้ทั้งห้างและซูเปอร์มาร์เก็ต 7 ชั้น, โรงภาพยนตร์ 15 โรง, ฮอลล์แสดงคอนเสิร์ตและกิจกรรมบันเทิง, สวนน้ำ, สวนสนุก, อาคารจอดรถ, อาคารออฟฟิศอยู่รวมกับคอนโดและโรงแรมสูง 51 ชั้น ตามแผนคือจะเสร็จก่อนในปี 2571 และจะทยอยเสร็จทั้งหมดในปี 2574 ค่ะ


ใครสนใจสามารถเข้าชมโครงการได้แล้ววันนี้ คลิกดูโลเคชั่นที่นี่ค่ะ
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิกที่นี่
Add Line : @vivaldibangna หรือ คลิกที่นี่
Call Center : 1232