ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50 (Supalai Elegance Phaholyothin 50) รีวิวบ้านเดี่ยวบ้านแฝดบนถนนเทพรักษ์ จาก ศุภาลัย

Supalai Elegance Phaholyothin 50 (ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50) รีวิว ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2568

พิกัด Google Maps : 13.876000338018207, 100.63836852542572
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

• โครงการมือหนึ่งโครงการเดียวที่อยู่ติดถนนใหญ่เทพรักษ์
• ใกล้ BTS ใกล้ทางด่วน ใกล้สนามบิน

แผนที่จากทางโครงการ ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50 (Supalai Elegance Phaholyothin 50) ต้องบอกว่า ณ ปัจจุบันที่นี่เป็นโครงการมือหนึ่งโครงการเดียวที่อยู่ติดถนนใหญ่เทพรักษ์ โดยจะอยู่ฝั่งขาเข้าไปยังถนนพหลโยธิน, ใกล้สนามบินดอนเมือง, ใกล้ทางด่วนฉลองรัช ดั้งนั้นใครที่ทำงานในเมืองไม่ว่าจะเป็นโซนพระราม 9, ลาดพร้าว, เกษตรนวมินทร์, ทาวน์อินทาวน์ ก็ยังสามารถขับรถไปทำงานได้ง่าย ซึ่งถ้าเทียบกับโครงการอื่นๆในระดับราคาใกล้ๆกัน ส่วนใหญ่ก็จะต้องขยับออกไปอีกบนถนนวัชรพล หรือ สุขาภิบาล 5 นะคะ

ส่วนความอุดมสมบูรณ์รอบๆ ถนนเทพรักษ์ ก็นับว่ามีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย และดูเหมือนจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมี Community Mall, ร้านค้า, ร้านอาหาร, ปั๊มน้ำมัน กระจายตัวอยู่ตลอดทาง เรียกได้ว่าหาของกินได้ง่ายๆ ภาพรวมของทำเลโครงการนี้จึงพูดได้ว่าทั้งอุดมสมบูรณ์และเดินทางสะดวกนั่นเอง ส่วนสถานที่สำคัญๆ อื่นทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ก็มีอยู่โดยรอบในระยะที่ขับรถไปไม่ไกลให้เลือกใช้บริการเช่นกัน

ปัจจุบันถนนเทพรักษ์เปิดให้ใช้งานเชื่อมต่อตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิต – พหลโยธิน – สุขาภิบาล 5 แล้วนะคะ ซึ่งในอนาคตทางกทม. มีแผนจะขยายเส้นทาง เพื่อเชื่อมต่อถนนเส้นอื่นๆอีก 1 ช่วงด้วยกันคือ การขยายถนนไปทางฝั่งตะวันออก โดยจะตัดผ่านถนนกาญจนาภิเษก ถนนหทัยราษฎร์ และไปสิ้นสุดที่ถนนนิมิตใหม่เลย ทำให้สามารถเดินทางเชื่อมโยงไปยังถนนหลักเส้นอื่นๆได้ง่ายขึ้น

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือทางด่วนฉลองรัช หรือที่เราเรียกกันในย่านนี้ว่า ทางด่วนรามอินทรา จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3 km. เท่านั้นนะคะ

นอกจากนี้ ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50 (Supalai Elegance Phaholyothin 50) ยังอยู่บนทำเลที่ไปใช้รถไฟฟ้าได้ง่ายด้วย ใกล้ที่สุดคือ BTS สายสีเขียวสถานีสายหยุด ระยะจากโครงการประมาณ 4.1 km. อยู่บริเวณหน้าแยกที่ถนนเทพรักษ์ตัดกับถนนพหลโยธิน นั่งยาวๆ เข้าสยามโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถเลย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบและพื้นที่ว่างรอการพัฒนา ซึ่งตัวโครงการปัจจุบันจะอยู่ติดถนนใหญ่เทพรักษ์เลยจึงเดินทางเข้า-ออกได้สะดวก

• ทิศเหนือ ติดกับ ถนนเทพรักษ์และบ้านพักอาศัย
• ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัย
• ทิศใต้ ติดกับ สนามฟุตบอล, บ้านพักอาศัยและที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Villa De Bua ~ 400 m.
• Market Place ~ 2.7 km.
• Venice Shopping Plaza ~ 2.9 km.
• Tesco Lotus หลักสี่ ~ 5.3 km.
• บิ๊กซี สะพานใหม่ ~ 5.5 km.
• ตลาดยิ่งเจริญ ~ 5.6 km.
• เซ็นทรัล พลาซ่า รามอินทรา ~ 6.4 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลซีจีเอช ~ 4.1 km.
• โรงพยาบาลภูมิพล ~ 7.2 km.
• โรงพยาบาลวิภาวดี ~ 12.1 km.
• โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ~ 12.2 km.

โรงเรียน

• มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~ 8.2 km.
• มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 11.7 km.

การเดินทาง

• ทางด่วนฉลองรัช (ด่านสุขาภิบาล 5) ~ 3 km.
• รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีสายหยุด) ~ 4.1 km.
• สนามบินดอนเมือง ~ 14.8 km.

ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50 (Supalai Elegance Phaholyothin 50) โครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 3 ชั้น จำนวนทั้งหมด 159 ยูนิต ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว แต่ก็มีบ้านแฝดให้จับจองอยู่ 18 ยูนิตค่ะ ที่นี่ไม่ใช่โครงการเปิดใหม่ในปีนี้ จึงมีเพื่อนบ้านเข้าอยู่กันแล้ว หากใครอยากเห็นเพื่อนบ้านก่อนตัดสินใจที่นี่ถือว่าตอบโจทย์นะคะ

ส่วนกลางโดยรวมและบรรยากาศโดยรวมเราว่าดูดีกว่าเพื่อนบ้านหลายๆ โครงการที่มีระดับราคาใกล้เคียงกันในโซนนี้ เราสรุปประเด็นที่น่าสนใจไว้ให้อย่างนี้นะ

• “Clubhouse และสวนส่วนกลางอยู่หน้าโครงการ” ดูแกรนด์มากๆ เข้ามาเจอสวนกว้างๆ และอาคาร Clubhouse ทุกครั้งที่ผ่านเข้า-ออก เป็นหน้าเป็นตาให้กับโครงการ
• ตำแหน่งของ “ฟังก์ชันส่วนกลางออกแบบให้เห็นวิวสวนทั้งหมด” ซึ่งสวนก็มีขนาดใหญ่ประมาณไร่ครึ่ง สร้างบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายมากขึ้น
• “สระว่ายน้ำได้ความเป็นส่วนตัวสูง” รอบสระจะมีพุ่มไม้บังสายตา แต่ก็ยังมองลอดไปเห็นวิวสวนได้อยู่นะ
• “ฟังก์ชันส่วนกลางไม่หลากหลายมาก แต่ดูน่าใช้งานในหลายส่วนเลย” อย่างสระว่ายน้ำก็ใช้ระบบน้ำแร่ เหมาะกับคนผิวบอบบาง แพ้ง่าย, เครื่องออกกำลังกายก็ใช้เป็นจอ Touch Screen
• “ทิศของบ้าน” บ้านส่วนใหญ่จะหันหน้าบ้านไปทางทิศเหนือและใต้เป็นหลัก ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมที่สอดคล้องกับลมประจำฤดูของไทยมากที่สุด ช่วยให้ลมไหลเวียนเข้าบ้านได้ดีอยู่แล้วนะคะ บ้านทิศเหนือฝั่งหน้าบ้านจะโดนแดดในช่วงเช้าและร่มในช่วงบ่าย ส่วนบ้านทิศใต้จะสลับกัน ซึ่งการเลือกบ้านว่าหันทิศไหนดีจะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนค่ะ
• “ค่าส่วนกลางราคาเป็นมิตร” 30 บาท/ตร.ว./เดือน เท่านั้น ถือว่าราคาดีกว่าเพื่อนบ้านหลายๆ โครงการด้วยเช่นกัน

ซุ้มประตูโครงการแยกทางเข้า-ออกอย่างชัดเจนระหว่าง Visitor กับลูกบ้าน เพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแล 24 ชั่วโมง พร้อมระบบ CCTV ที่ซุ้มประตูและภายในโครงการรวม 31 จุด

ประตูเหล็กบานเลื่อนจะเปิดอัตโนมัติด้วยระบบ VMS (Visitor management systems) พร้อม LPR อ่านป้ายทะเบียน เวลาลูกบ้านขับรถมาถึงหน้าโครงการ ประตูจะเลื่อนเปิดให้อัตโนมัติ ขับผ่านได้สะดวกเลย

สวนส่วนกลาง

ผ่านซุ้มประตูเข้ามาจะเจอกับสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ เพิ่มบรรยากาศที่ดีตั้งแต่ด้านหน้าโครงการ มองเข้าไปจะเห็น Clubhouse อยู่ด้านใน ทำให้อาคารนี้ดูแกรนด์มากๆ แม้ว่า Clubhouse จะตั้งอยู่ติดถนนหลักแต่โครงการก็ออกแบบ Landscape ให้พื้นที่สวนรอบๆ ให้ช่วยบังสายตาได้เป็นอย่างดี

โดยสวนเนี่ยมีขนาดประมาณไร่ครึ่งเลยมีทั้งพื้นที่เดินเล่นชิลๆ และสนามหญ้ากว้างๆ ให้พาน้องหมามาวิ่งเล่น หรือเด็กๆ จะมาเตะบอลเล่นกันก็ยังได้เลยนะคะ

สนามเด็กเล่น

ติดกับสนามหญ้าจะมีสนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่นหลากหลายประเภทให้เด็กๆ ได้มาออกกำลังกายกัน โดยมีไม้พุ่มล้อมรอบเป็น Buffer Zone แยกพื้นที่ไม่ให้ติดกับถนนค่ะ

Clubhouse เป็นอาคาร 2 ชั้น ทรงโค้ง ทำให้แต่ละฟังก์ชันได้วิวสวนทั้งหมด

รอบๆ Clubhouse จะมีที่จอดรถเตรียมไว้ให้ลูกบ้าน บ้านไหนที่ไม่สะดวกเดินมาก็สามารถขับรถมาได้ ทางเข้าอาคารจะมีทางลาดรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุให้สามารถเข็นวีลแชร์ขึ้นลงได้สะดวก

สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำรองรับการใช้งานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นสระกลางแจ้งระบบน้ำแร่ ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น อ่อนโยนต่อร่างกาย ดวงตา และเส้นผม ไม่ทำให้รู้สึกระคายเคืองในขณะว่ายน้ำ

สระมีขนาด 8×27 เมตร ยาวกว่า Half Olympic อีกค่ะ จึงใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริงจังแต่ก็เหมาะกับการใช้งานในช่วงเย็นที่แดดร่มสักหน่อย ส่วนสระเด็กจะแยกโซนไว้เพื่อความปลอดภัยมีขนาด 5.4×8 เมตร ลึก 0.6 เมตร และหากใครไม่ชอบออกกำลังกายจริงจังก็มีมุม Jacuzzi ให้แช่น้ำผ่อนคลายด้วย

ด้านหลังสระว่ายน้ำจะมีห้องน้ำแยกชาย/หญิง อยู่คนละฝั่ง ส่วนตรงกลางจะเป็น Lobby แบบ Semi-Outdoor

Lobby & Co-Working Space

Lobby & Co-Working Space ออกแบบมาเป็น Semi-Outdoor ฝ้าเพดานสูง จัดมุมนั่งเล่นไว้ หากวันไหนที่ไม่สะดวกพาแขกเข้าบ้านก็สามารถพามานั่งพูดคุยที่นี่ได้ จากมุมนี้ก็มองเห็นสระว่ายน้ำด้วย แต่ถ้าอยากใช้ห้องแอร์ก็มี Meeting Room ที่ชั้นบนให้ขึ้นไปใช้ได้

ห้องน้ำ

ห้องน้ำมีขนาดใหญ่ทีเดียว ภายในมีห้องสุขา สุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติใช้งานง่าย, ห้องอาบน้ำ และตู้ล็อคเกอร์ครบครัน ที่ชอบคือบริเวณหน้าห้องน้ำจะมีกระจกบานใหญ่เต็มผนังให้เช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องน้ำได้สะดวก

ชั้น 2 จะมีอีก 2 ฟังก์ชันหลัก ได้แก่ Fitness และ Meeting Room ตามเราขึ้นบันไดไปชมกันต่อค่ะ

พื้นที่ในอาคารส่วนใหญ่จะเป็น Semi-Outdoor และติดแอร์เพียงบางฟังก์ชัน การออกแบบลักษณะนี้มีข้อดีที่ช่วยประหยัดค่าไฟได้ดี ทำให้ส่วนกลางของโครงการไม่แรงเลย 30 บาท/ตร.ว./เดือน เท่านั้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ดี

จากทางเดินชั้นบนเราจะมองลงไปเห็น Lobby & Co-Working Space ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่งดี

ปลายทางเดินทั้ง 2 ฝั่งจะเป็น Fitness และ Meeting Room ซึ่งเป็นห้องแอร์ทั้งคู่ ใช้งานสบาย

Meeting Room

Meeting Room วิวดีมากกกกทุกคน ได้วิวสวนแบบเต็มตา เป็นห้องที่ลูกบ้านสามารถมานั่งประชุมหรือนัดพบปะ, คุยธุระต่างๆ ได้เหมือน Lobby แต่ห้องนี้จะมีประตูกั้นเป็นส่วนตัวมากขึ้นที่สำคัญเป็นห้องแอร์ด้วยค่ะ

Fitness

ภายใน Fitness จะจัดวางเครื่องออกกำลังกายไว้ติดหน้าต่าง เพื่อให้มองเห็นสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางได้ บรรยากาศในห้องจึงดูโปร่ง ไม่อึดอัด ใน Fitness มีอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าครบครัน รองรับทั้งการออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight Training ที่พิเศษคือ จอเครื่องจะเป็นแบบ Touch Screen ใช้งานง่าย ดูทันสมัย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse ชั้น 1 ประกอบด้วย
  – Lobby
  – Co-Working Space
  – สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบน้ำแร่ ขนาด 8×27 เมตร ลึก 1-1.1 เมตร
  – แบ่งสระเด็กลึกขนาด 5.4×8 เมตร ลึก 0.6 เมตร
  – Jacuzzi

• ชั้น 2
  – ห้องออกกำลังกาย เครื่องเล่นจอ Touch Screen
  – Meeting Room
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุดขนาด 1-2-70.3 ไร่
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ จำนวน 31 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12-19 เมตร และถนนภายในกว้าง 10 เมตร
• ประตูรั้วโครงการแบบรั้วเหล็กรางเลื่อน
• จดจำป้ายทะเบียน Visitor Management System เชื่อมต่อผ่าน SABAI Application
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

บ้านของโครงการศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50 (Supalai Elegance Phaholyothin 50) ออกแบบในสไตล์ “Modern Metro” ใช้เส้นสายแบบ Modern ผสมผสานกับเส้นสายของความเป็นเมืองแบบ Metro นำมาใช้ออกแบบ Facade ของอาคาร รวมถึงการเลือกใช้สีและวัสดุที่ดูเข้ากับคอนเซปต์อย่างสีโทนเทา-น้ำตาล

พอโปรดักส์เป็นบ้าน 3 ชั้นทำให้ที่นี่ได้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะ คุ้มค่ากับราคามากเหมาะกับคนที่เน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะๆ ไม่ได้เน้นพื้นที่รอบบ้านมากนัก เมื่อเทียบกับโครงการบ้าน 2 ชั้นจะเห็นได้ชัดเจนมากว่า ในงบเท่ากัน บ้านของโครงการนี้จะได้พื้นที่ใช้สอยเยอะกว่ามาก

ถ้าเรามีเงินสัก 18 ล้านไปหาซื้อบ้านเดี่ยว 2 ชั้นบนถนนวัชรพล  อาจจะได้บ้านขนาดประมาณ 250 ตร.ม. แต่ถ้าซื้อโครงการนี้ได้พื้นที่ใช้สอย 466 ตร.ม. เยอะกว่า 200 กว่าตร.ม.เลย

และในเรื่องของราคาเริ่มต้นของที่นี่ก็น่าสนใจ ตรงที่ว่า Type  เริ่มต้นของเค้าจะเป็นบ้านแฝด 3 ชั้น ที่พื้นที่ใช้สอย 243 ตร.ม. พอเป็นบ้านแฝดไม่ต้องอยู่บนผืนที่ดินใหญ่เท่าบ้านเดี่ยว ก็เลยทำราคาให้จับต้องได้ง่ายขึ้นอยู่ที่ 9.9 ล้าน เป็นอีกตัวเลือกของคนอยากได้บ้านพื้นที่ใช้สอยเยอะๆในงบไม่เกิน 10 ล้านได้

ในส่วนของฟังก์ชันก็รองรับ 3 Generations เลย ฟังก์ชัน 4-6 ห้องนอน มีห้องนอนชั้น 1 ในทุกแบบบ้าน และในแบบบ้าน 2 ไซส์ใหญ่ จะมีลิฟต์โดยสารมาให้ในตัวด้วย ที่จอดรถก็เป็นอีก Highlight นึงเพราะให้มา 3-4 คัน ซึ่งหากจะหา 4 จอดในโครงการอื่น จะเริ่มประมาณ 20 กว่าล้านขึ้นไปแต่ที่นี่ 12.41 ล้านก็ได้ 4 จอดแล้วค่ะ ถือเป็นโปรดักส์หายากในโซนนี้ โครงการมีแบบบ้านให้เลือกดังนี้ค่ะ

• ศุภนารินทร์ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 87.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 466 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน / 8 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 2 พื้นที่พักผ่อน / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 18.13 ล้านบาท
• ศุภศรัณย์ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 69.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 พื้นที่พักผ่อน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 14.18 ล้านบาท
• ศุภศิริ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 66.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 321 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 พื้นที่พักผ่อน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 12.41 ล้านบาท
• ศุภศิลป์ บ้านแฝด 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 47.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 243 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่พักผ่อน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท

สรุปวัสดุภายในบ้าน

• โครงสร้างแบบ Conventional ก่ออิฐฉาบปูนใช้เป็นอิฐมวลเบา
• ประตูบ้านเป็นประตูเหล็กรางเลื่อน ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอัตโนมัติ
• หลังคา Flat Slab + ชายคามีเกล็ดระบายอากาศ Vinyl แบรนด์ SCG เนื้อฉนวนใยแก้วรุ่น Stay Cool หนา 6 นิ้ว
• ที่จอดรถ : เฉพาะแบบบ้านศุภนารินทร์ส่วนที่อยู่ในโซนบ้านจะลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน ส่วนที่อยู่นอกโซนบ้านลงเสาเข็มสั้น ส่วนพื้นปูกระเบื้องทุกแบบบ้าน
• ลานซักล้าง : On Ground
• ประตูหลักหน้าบ้าน เป็นประตูไม้สัก
• กรอบบานหน้าต่าง อลูมิเนียมยี่ห้อ SANKYO พร้อม Ventilation Grille
• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องพอร์ซเลน Made in Spain
• พื้นชั้น 2,3 : พื้น Hybrid Engineered
• พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องพอร์ซเลน
• บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้โอ๊ค
• สุขภัณฑ์อัตโนมัติ แบรนด์ COTTO ติดตั้งสำหรับห้องน้ำ MASTER และห้องน้ำรับแขก ห้องอื่นๆสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ 4.5 ลิตร และอ่างอาบน้ำแบบ Free Standing
• ระบบน้ำ : ระบบท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น* เฉพาะ Master Bedroom และ Powder room ส่วนห้องอื่นๆ เป็นระบบน้ำอุ่น
• ฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered หนา 10 มม. ทุกห้อง
• แอร์ทุกห้องนอน Wall Type + Cassette Type
• มีลิฟต์ให้เฉพาะแบบบ้าน ศุภนารินทร์ และศุภศรัณย์
• สีภายใน TOA Organic Care
• Wallpaper ทุกห้องนอน

เทคโนโลยีภายในบ้าน

• Magnetic Sensor ติดตั้งที่ชั้น 1 ที่บานประตูและหน้าต่างทุกบาน
• IP Camera 2 จุด บริเวณโถงกลางบ้านชั้น 1 และโรงจอดรถ
• Touch Pad 1 เครื่อง
• ระบบไฟ 3 เฟส 30(100) มี Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger

นวัตกรรมภายในบ้าน

• Home Automation แบรนด์ LifeSmart – ดูแลระบบและติดตั้ง โดย True Corporation
• Solar Cell 5 kW. On Grid ติดตั้งทุกแบบบ้าน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

แบบบ้านศุภนารินทร์

บ้านไซส์ใหญ่สุดในโครงการชื่อแบบบ้าน ‘ศุภนารินทร์’ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นที่มีถึง 6 ห้องนอนพร้อมมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง จอดรถได้ 4 คัน แต่จะเป็นแบบจอดซ้อนคัน ทำให้บ้านหลังนี้จะได้พื้นที่สนามหญ้าหน้าบ้าน สามารถจัดเป็นสวนเพิ่มความร่มรื่นให้กับตัวบ้านได้

หลังคาติด Solar Cell ขนาด 5kW. แบบ Ongrid ส่วนชายคาจะมีฝ้าพร้อมเกล็ดระบายอากาศ Vinyl แบรนด์ SCG เนื้อฉนวนใยแก้วรุ่น Stay Cool หนา 6 นิ้ว เป็นมาตรฐานของทุกแบบบ้านนะคะ

ชั้น 1 : หลักๆ จะเป็นพื้นที่รับแขก, ทานอาหาร และมีห้องนอนผู้สูงอายุพร้อมห้องน้ำในตัวครบ บ้านไหนมีผู้สูงอายุไม่ต้องกังวลเลย มาพร้อมลิฟต์ให้ครบครัน รวมถึงห้องแม่บ้านและห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน

ชั้น 2 : จัดให้มี Family Area ขนาดใหญ่ ที่ออกแบบเป็น Double Volume ซึ่งจะเปิดเชื่อมกับ Master Bedroom ได้ ภายใน Master Bedroom เป็นห้องขนาดใหญ่มีพื้นที่ Walk in closet ในตัวพร้อมห้องน้ำที่มี อ่างล้างหน้า His&Her พร้อม Bathtub ในตัวครบครัน และจะมีห้องนอนรองอีกห้องหนึ่งบนชั้นนี้

ชั้น 3 : แบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องนอนรองอีก 3 ห้องที่มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง โถงทางเดินกว้างมากสามารถจัดให้เป็นมุมนั่งเล่นที่เป็นส่วนตัวของเด็กๆ และมีระเบียงกว้างๆ ให้ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศได้ด้วย

ทางทีมงาน Thinkofliving พาไปชมแบบบ้าน ‘ศุภนารินทร์’ ไว้แล้ว ตามไปดูได้ในคลิปด้านบนนะคะ ส่วนบ้านเดี่ยว Type รอง ‘ศุภศรัณย์’ และบ้านแฝด ‘ศุภศิลป์’ เราจะเป็นคนพาไปชมทุกซอกทุกมุมของบ้านเองค่ะ

แบบบ้านศุภศรัณย์

บ้านเดี่ยว Type รองลงมาคือแบบบ้าน ‘ศุภศรัณย์’ ความพิเศษคือได้ Master Bedroom 2 ห้อง ภายในมีห้องน้ำในตัวพร้อม Bathtub ให้ใช้งานได้ทั้งคู่

ประตูรั้วเป็นซี่เหล็กโปร่ง ทำให้บ้านไม่ดูทึบ ทางโครงการจึงออกแบบให้ไม่มีช่องเปิดเยอะในบริเวณที่ตรงกับประตูรั้ว เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวภายในบ้าน เมื่อโอนบ้านแล้วทางโครงการจะมาติดตั้งมอเตอร์เปิด-ปิดอัตโนมัติให้นะคะ

ชั้น 1 : พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแบบ Open Plan เปิดโล่งเชื่อมถึงกัน แยกเฉพาะส่วนของห้องนอนผู้สูงอายุ และห้องครัวไว้ต่างหาก มาพร้อมลิฟต์ให้ครบครัน รวมถึงห้องแม่บ้านและห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน

ชั้น 2 : แบ่งออกเป็น 2 ฟังก์ชันหลักๆ โดยฝั่งหลังบ้านจะเป็น Family Area ขนาดใหญ่ เปิดโล่งเชื่อมกับโถงทางเดินและบริเวณ Double Volume บรรยากาศดีมาก ส่วนตัวชอบมุมนี้เป็นพิเศษเลยค่ะ ส่วนฝั่งหน้าบ้านจะเป็น Master Bedroom

ชั้น 3 : แบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องนอน 3 ห้อง ซึ่ง Master Bedroom ห้องที่ 2 จะได้พื้นที่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะอยู่ฝั่งหลังบ้าน มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง และจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้จัดเป็นมุมนั่งเล่นได้ด้วย

บริเวณรั้วหน้าบ้านจะติดตั้งตู้ไปรษณีย์ และถังขยะแบบเปิดได้ 2 ฝั่งไว้ให้พร้อมใช้งาน

เราสามารถทิ้งขยะจากในตัวบ้าน และพนักงานก็สามารถเก็บขยะจากนอกตัวบ้านได้โดยไม่ต้องเปิดรั้วเข้ามา

ขนาดที่ดินรอบบ้านนั้นขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินของแต่ละแปลง เราสามารถเลือกขนาดแปลงที่ดินที่เหมาะกับเราได้ ทางโครงการจะจัดสวนให้ฟรี ประกอบด้วยไม้ยืนต้น 1 ต้น มาพร้อมไม้พุ่มและไม้คลุมดิน ตามแบบในรูปเลยนะคะ

ที่จอดรถหน้าบ้านกว้างประมาณ 10 เมตร ลึกประมาณ 5.3 เมตร (ความลึกจะขึ้นอยู่กับขนาดของแต่ละแปลง) ทำให้สามารถจอดรถเรียงหน้ากระดานได้ถึง 4 คันเลย และยังจอดรถที่มีความยาวเป็นพิเศษแบบ Alphard ได้สบาย

ที่จอดรถจะมีหลังคาคลุมแค่บางส่วน ถ้าอยากจอดในร่มจะต้องต่อเติมหลังคาเพิ่มเองในภายหลัง ในส่วนของเสาเข็มของบ้าน Type นี้จะไม่ได้ลงเท่าตัวบ้านเหมือนแบบศุภนารินทร์ หากจะต่อเติมต้องปรึกษากับทางโครงการและวิศวกรอีกทีนะคะ

ภายในโรงจอดรถจะมีการติดตั้ง Outdoor Security Camera ตรวจสอบความเคลื่อนไหว และแจ้งเตือนเมื่อเกิดการบุกรุกไว้ให้ด้วยค่ะ

ภายในที่จอดรถจะมี Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger ซึ่งระบบไฟเป็นแบบ 3 เฟส 30(100) นะคะ

บริเวณประตูทางเข้าบ้านจะมีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน ใช้งานเชื่อมต่อกับโรงจอดรถได้สะดวก มีที่นั่งใส่รองเท้าหน้าบ้านและตู้เก็บของมาให้

ด้านข้างประตูบ้านจะมีตู้เก็บของพร้อมบานปิด ใช้เก็บของที่มีความสูงมากๆ อย่างพวกถุงกอล์ฟ, อุปกรณ์เดินป่า, อุปกรณ์จัด Outdoor Party ได้สบาย หรือจะทำเป็นตู้เก็บรองท้าก็ได้นะคะ

ประตูเป็นบานไม้สักจริงมีดีเทลลูกฟักเพิ่มความหรูหรา เปิดได้กว้าง เวลามีของชิ้นใหญ่อย่างเฟอร์นิเจอร์, ตู้เย็น ก็สามารถขนเข้าได้สะดวก ในส่วนมือจับประตูเป็นสแตนเลสเกรดพรีเมี่ยมแบรนด์ Hafele ดูดีทีเดียวค่ะ

เปิดประตูเข้ามารู้สึกว่าบ้านใหญ่เนอะ เพราะเค้าออกแบบให้เป็น Open Plan เปิดโล่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ และยิ่งดูกว้างจาก Double Volume บริเวณใจกลางบ้าน

Foyer 

โซนแรกจะเป็น Foyer สำหรับจัดเป็นมุมพักคอย วางของตั้งโชว์ หรือเป็นมุมเก็บของที่ใช้งานประจำอย่างกุญแจรถ, กุญแจบ้าน

Living Area

พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่บริเวณกลางบ้านเลย เป็นพื้นที่แบบ Double Volume สูงถึง 6 เมตร สามารถติดแชนเดอร์เลียยาวๆ ได้เลย พื้นที่รองรับชุดโซฟาขนาดใหญ่ 6-7 ที่นั่งได้สบาย ใช้ทีวีขนาดใหญ่แบบ 100″ ใครที่ชอบดูทีวีจอใหญ่แบบเต็มตาน่าจะชอบค่ะ

วัสดุที่น่าสนใจคือ พื้นชั้น 1 จะปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน Made in Spain มีความทนทานสูงให้ลวดลายเหมือนหินธรรมชาติ และเลือกใช้เป็นไซส์ใหญ่เพื่อเพิ่มความหรูหรา

เทคโนโลยีและนวัตกรรมภายในบ้าน

เพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตในบ้านด้วย Home Automation แบรนด์ LifeSmart ดูแลระบบและติดตั้ง โดย True Corporation ควบคุมอุปกรณ์ Smart Home ผ่าน Touch Pad

วัสดุอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ กรอบประตูหน้าต่างทางโครงการเลือกใช้เป็นอลูมิเนียมยี่ห้อ SANKYO จากญี่ปุ่น ซึ่งจะมีช่องระบายอากาศ (Ventilation System) และตามประตูหน้าต่างจะติด Magnetic Sensor ตรวจจับแจ้งเตือนเมื่อมีการเปิด – ปิด หรือเมื่อเกิดการบุกรุกที่บริเวณชั้น 1 และ มี IP Camera บริเวณโถงกลางบ้านด้วย

ถัดเข้ามาโซนหลังบ้านเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร รอบข้างดูโปร่งมากด้วยประตูกระจก และหน้าต่างบานใหญ่สูงจากพื้นเกือบถึงฝ้าเลย ได้วิวสวนรอบบ้าน ซึ่งพื้นที่ทานอาหารจะรองรับโต๊ะขนาด 6-8 ที่นั่งได้พอดีๆ

ติดกับโต๊ะทานอาหารเป็นตำแหน่งของครัวไทย

ห้องครัวไทย

ครัวไทยที่ให้มาเป็นครัวปิดมีประตูติดตั้งมาให้จึงสามารถทำอาหารที่มีกลิ่นและควันฉุนๆ ได้จริงจัง และมีหน้าต่างให้เปิดระบายกลิ่นควันได้สะดวก พื้นที่ในครัวกว้างมากทีเดียว พอที่จะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวแบบเข้ามุมทั้ง 3 ด้าน ซึ่งบ้านมาตรฐานจะให้มาเป็นห้องเปล่าๆ พร้อมเดินงานระบบไว้ให้ เราจึงสามารถออกแบบเคาน์เตอร์ได้ตามชอบเลย จากห้องครัวจะมีประตูให้เปิดออกไปลานซักล้างหลังบ้านได้

ลานซักล้าง

ลานซักล้างเป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมบังแดดบังฝนให้ใช้งานได้สะดวก ใครจะติดประตูเพิ่มให้เป็น Indoor แบบในบ้านตัวอย่างเลยก็ได้ เราว่าเหมาะจะใช้เป็น Laundry Area วางเครื่องซักผ้า หรือจะจัดเป็นครัวนอกบ้าน สำหรับใช้ทอดปลา ย่างเนื้อ ที่มีกลิ่นและควันฉุนมากๆ ก็ตอบโจทย์ดีค่ะ พื้นบริเวณนี้จะลดระดับลงมาจากตัวบ้าน จึงล้างทำความสะอาดง่าย น้ำไม่ไหลย้อนเข้าตัวบ้าน

ตำแหน่งของบันไดจะอยู่บริเวณกลางบ้านเลย ห้องน้ำส่วนกลางจะอยู่บริเวณใต้บันได และติดกันเป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน

Powder Room

ห้องน้ำชั้นล่างเป็นห้องน้ำสำหรับรับแขก ทางโครงการจึงเลือกใช้สุขภัณฑ์อัตโนมัติเพื่อเป็นหน้าเป็นตา ใช้งานสะดวก ใช้ของแบรนด์ COTTO เป็นหลัก และระบบน้ำก็ใช้เป็นระบบท่อน้ำร้อน-น้ำเย็นแบบในโรงแรมด้วยเช่นกัน

ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนผู้สูงอายุวางตำแหน่งไว้ทางหน้าบ้าน มีขนาดเพียงพอให้วางเตียง 5 ฟุตกำลังดีและติดตั้งทีวีแบบแขวนได้ สำหรับพื้นห้องจะปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน ที่ชอบคือบริเวณหน้าต่างจะติดตั้งมุ้งลวดมาให้แล้วทุกบานเลยนะคะ ภายในห้องมีห้องน้ำในตัวครบครัน

ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1

ระดับพื้นห้องน้ำจะเท่ากับพื้นห้องนอน ไม่มีพื้นที่ลดระดับเลย จึงสามารถเข็นวีลแชร์ได้สะดวก ที่ประตูทางเข้าจะมี Floor Drain เรียบๆมาให้ กันน้ำย้อนไปยังส่วนอื่น

ภายในมีหน้าต่างบานใหญ่ใช้รับแสงธรรมชาติ และเปิดให้อากาศถ่ายเทได้ โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.3 × 0.9 เมตร ถือว่ากว้างดี ใช้งานสะดวก โครงการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้พร้อมใช้งานเลย

ลิฟต์

ตำแหน่งติดตั้งลิฟต์จะอยู่ตรงโถงบันไดนี่แหละค่ะ แต่ในบ้านตัวอย่างจะยังไม่ได้ติดตั้งไว้ หากใครไม่เอาลิฟต์ก็สามารถขอเป็นส่วนลดแทนได้

ลิฟต์ที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้เป็นของยี่ห้อ ARITCO แบรนด์ดังจากสวีเดน ตัวลิฟต์ใช้ระบบสกรู ที่ขึ้นชื่อในเรื่องหน้าตาที่ดูเรียบหรูและมีระบบความปลอดภัย เช่น มีเซ็นเซอร์ที่ช่วยให้แน่ใจว่าประตูปิดสนิทโดยไม่มีอะไรติดอยู่ระหว่างลิฟต์ก่อนที่ลิฟต์จะเคลื่อนที่ เป็นต้น ขนาดของลิฟท์มีขนาดประมาณ 1.3 x 0.9 เมตร จึงเข็นวีลแชร์เข้าไปได้สะดวก

ปุ่มกดอยู่ไม่สูงมาก ถึงนั่งวีลแชร์อยู่ก็สามารถกดได้ รับน้ำหนักได้ถึง 400 kg. หรือประมาณ 5 คนเลยค่ะ

บันได

บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กปิดผิวด้วยไม้โอ๊ค ซึ่งค่อนข้างแข็งแรงทนทาน เวลาวิ่งขึ้น-ลงเร็วๆ ก็ไม่เกิดเสียงดัง มาพร้อมราวจับกันตกที่ติดตั้งให้ตลอดทาง

จากโถงทางเดินชั้น 2 จะมองเห็น Living Area ชั้นล่าง ด้วยขนาดของ Double Volume ที่มีขนาดใหญ่จึงดูโปร่งโล่งสบายตา

ข้อดีของ Double Volume ที่อยู่ตรงกลางบ้าน ทำให้ทางเดินชั้น 2 ดูโปร่งโล่งไปด้วย ฟังก์ชันหลักๆ ของชั้นนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ พื้นที่อเนกประสงค์ทางฝั่งหลังบ้าน และ Master Bedroom ทางฝั่งหน้าบ้าน

พื้นชั้น 2,3 จะปูด้วยพื้นไม้ Hybrid Engineered ได้ผิวสัมผัสที่เหมือนไม้จริง แต่ทนความชื้นและการขูดขีดสูง

พื้นที่อเนกประสงค์ ชั้น 2

พื้นที่อเกนประสงค์บนชั้น 2 มีขนาดใหญ่จริงๆ ค่ะ ใหญ่พอที่จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนทั้งพื้นที่ดูทีวีเล่นเกมส์, วางโต๊ะพูลแบบในบ้านตัวอย่างได้เลย หรือจะวางเปียโนก็สบายๆ ได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งจากหน้าต่างบานใหญ่ รับแสงธรรมชาติและวิวได้เต็มที่

Master Bedroom 1

Master Bedroom 1 จะอยู่บนชั้น 2 มีขนาดใหญ่มากจนสามารถจัดมุมนั่งเล่นดูทีวีปลายเตียงได้เลย สามารถวางเตียงขนาด 6-7 ฟุตได้ และยังเหลือพื้นที่ให้เดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ จากเตียงสามารถมองผ่านระเบียงออกไปเห็นสวนด้านนอกได้

บ้านตัวอย่างวางตำแหน่งของเตียงไว้ตรงกลางจึงเหลือพื้นที่ฝั่งหัวเตียงให้ทำ Walk-in Closet ได้ และฝั่งปลายเตียงจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ

ใครอยากได้ความเป็นสัดส่วนก็สามารถทำประตูกั้นโซน Walk-in Closet ได้นะ แม้พื้นที่ไม่กว้างมากแต่สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนานกัน 2 ฝั่งแบบสูงจากพื้นจรดฝ้า จึงมีพื้นที่เก็บเสื้อผ้าได้เยอะ ภายในโซนนี้จะมีหน้าต่างด้วยจึงเหมาะจะวางโต๊ะเครื่องแป้งรวมไว้ในโซนนี้ได้

ขยับมาที่ห้องน้ำกันบ้าง ห้องนี้จะใหญ่กว่าห้องน้ำอื่นๆ ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ ภายในห้องได้หน้าต่างบานใหญ่ทำให้ดูสว่างดีเลย แต่ไม่ต้องกลัวโป๊นะ เพราะเค้าใช้เป็นกระจกฝ้าค่ะ อ่างล้างหน้ามาแบบ His&Her ขนาดค่อนข้างกว้างเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง

โถสุขภัณฑ์ของห้องนี้ให้มาเป็นแบบอัตโนมัติ จาก COTTO พร้อมฉากกั้นเป็นส่วนตัว สำหรับ Shower Box ก็มีผนังกระจกกั้นเป็นสัดส่วนเช่นกัน มีขนาดประมาณ 1.4 x 0.9 เมตร สามารถหมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก ภายในติดตั้งฝักบัวให้ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower รวมถึงเดินระบบน้ำร้อนแบบในโรงแรมไว้ให้พร้อม เหลือแค่ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนค่ะ

Highlights ของห้องนี้คือ อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว ที่วางอยู่ริมหน้าต่าง นอนแช่น้ำชมวิวไปได้ เป็นอ่างที่นอนแช่ได้ยาวประมาณ 1.5 เมตรจาก COTTO

ระเบียงใน Master Bedroom มีขนาดประมาณ 3×2 เมตร มีหลังคาบังแดดบังฝนให้บางส่วน เอาเก้าอี้และโต๊ะสนามมาวางนั่งเล่นได้ นอกจากพื้นที่ระเบียงหลักแล้วยังมีพื้นที่ระเบียงยาวๆ ที่ล้อมห้องนอนไว้ แต่พื้นที่จะไม่กว้างมาก มีขนาดประมาณ 0.7 เมตร เหมาะจะวางกระถางต้นไม้ตกแต่งเพื่อเพิ่มบรรยากาศร่มรื่น โดยราวกันตกจะเป็นกระจก ดูโปร่ง ไม่มีอะไรบังสายตา

ถ้ายังไม่ติดลิฟต์ บริเวณโถงบันไดก็สามารถติดแชนเดอเลียร์แบบระย้า ช่วยเพิ่มความหรูหราได้

Family Area ชั้น 3

ขึ้นมาบนชั้น 3 จะมี Family Area ให้จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนของครอบครัวได้อีกโซนหนึ่ง เช่น เป็นมุมทำการบ้านร่วมกันของเด็กๆ ก่อนที่จะแยกย้ายเข้านอน หรือจัดเป็นมุมออกกำลังกายตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้

ความเก๋อย่างหนึ่งของโซนนี้คือ หน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจากพื้นจนเกือบถึงฝ้า ซึ่งจะมีพื้นที่ให้วางกระถางต้นไม้ตกแต่งด้านนอก เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่นขึ้นได้ อาจจะใช้เป็นต้นไม้ปลอมเพราะไม่ได้มีประตูให้เดินออกไปรดน้ำต้นไม้นะ

Master Bedroom 2

Master Bedroom 2 ได้พื้นที่ขนาดใหญ่พอๆ กับห้องแรกเลย ทั้งห้องนอนและห้องน้ำ จัดแปลนคล้ายกันเลยค่ะ แต่ Walk-in Closet จะไม่ได้ทำผนังกั้น จึงดูโปร่งกว่าห้องแรก ใครชอบการจัดห้องแบบไหนก็เก็บไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งได้นะคะ

ในส่วนของห้องน้ำได้พื้นที่ขนาดใหญ่เช่นเดียวกับ Master Bathroom แรก ภายในแบ่งพื้นที่แต่ละฟังก์ชันด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ทั้งห้องวางสุขภัณฑ์ ห้องอาบน้ำ และยังคง Highlight เป็นอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว ต่างกันเพียงสุขภัณฑ์ที่เป็นแบบปกติ ไม่ใช่อัตโนมัตินะคะ

ระเบียงใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่ประมาณ 3 x 1.2 เมตร สามารถวางชุดโต๊ะสนามสำหรับออกมานั่งชมวิวสวนหน้าบ้านได้

พื้นที่ฝั่งหลังบ้านแบ่งเป็นห้องนอนรอง 2 ห้องที่มีห้องน้ำในตัวทั้งคู่นะ

ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2 อยู่ในโซนหลังบ้าน พื้นที่พอให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบครัน ทั้งเตียง 5 ฟุต, โต๊ะเขียนหนังสือ, ชั้นวางทีวี, ตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำในตัวครบ เอาจริงๆ คือเราว่าอยู่สบายได้ตั้งแต่เด็กจนโตได้เลย

ในส่วนของพื้นที่แต่งตัวจะอยู่หน้าห้องน้ำเลย จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก ซึ่งตรงนี้เราสามารถทำตู้เสื้อผ้ากว้างเต็มผนังได้ ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน จัดฟังก์ชันเรียงลำดับการใช้งาน รวมถึงวัสดุและสุขภัณฑ์ต่างๆ ใช้ของ COTTO เช่นกัน

ห้องนอนรอง 3

ห้องนอนรอง 3 อยู่ในโซนหลังบ้านเช่นกัน มีพื้นที่พอกับห้องนอนรองก่อนหน้า พร้อมห้องน้ำในตัว จะจัดเป็นห้องนอนก็ได้หรือจัดเป็นห้องทำงานตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ

แบบบ้านศุภศิริ

แบบบ้านถัดมาคือ ‘ศุภศิริ’ บ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้นของโครงการนี้ มีการจัดฟังก์ชันเหมือนกับแบบก่อนหน้าเลย มี Double Volume ตรงกลางบ้าน แตกต่างกันที่ขนาดของแต่ละฟังก์ชัน แต่บ้าน Type นี้ไม่ได้มีพื้นที่สำหรับติดตั้งลิฟต์นะคะ

ชั้น 1 : พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแบบ Open Plan เปิดโล่งเชื่อมถึงกัน แยกเฉพาะส่วนของห้องนอนผู้สูงอายุ (ไม่ได้มีห้องน้ำในตัว) และห้องครัวไว้ต่างหาก รวมถึงห้องแม่บ้านและห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน

ชั้น 2 : แบ่งออกเป็น 2 ฟังก์ชันหลักๆ โดยฝั่งหลังบ้านจะเป็น Family Area ขนาดใหญ่ เปิดโล่งเชื่อมกับโถงทางเดินและ Double Volume ส่วนฝั่งหน้าบ้านจะเป็น Master Bedroom

ชั้น 3 : แบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องนอน 3 ห้อง Master Bedroom ห้องที่ 2 จะได้พื้นที่ฝั่งหน้าบ้าน แต่ไม่ได้อ่างอาบน้ำนะ ส่วนห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน

แบบบ้านศุภศิลป์

บ้านแฝดแบบเดียวของโครงการ เป็นบ้านแฝด 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท ราคานี้สามารถหาซื้อบ้านเดี่ยว 2 ชั้นในโซนนี้ได้เช่นกัน แต่พื้นที่ใช้สอยจะน้อยกว่าบ้านแฝด 3 ชั้นของที่นี่ค่ะ ซึ่งบ้านแฝดโครงการนี้จะได้พื้นที่ใช้สอยถึง 243 ตร.ม. ในขณะที่บ้านเดี่ยวราคานี้จะได้พื้นที่ใช้สอยประมาณ 180 ตร.ม. อีกทั้งขนาดที่ดินก็เริ่มที่ 47 วา เกือบเท่าบ้านเดี่ยวของโครงการอื่นๆเลย ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่พักผ่อน จอดรถได้ 3 คัน เมื่อเทียบกับโครงการรอบข้างที่จอดรถได้ 3 คัน จะเป็นบ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้น 12 ล้านขึ้นไปค่ะ

จุดที่น่าสนใจของการออกแบบบ้านนี้คือ เป็นบ้านแฝดที่มีส่วนที่ติดกันเฉพาะชั้น 1 เท่านั้น ส่วนชั้น 2-3 ซึ่งเป็นพื้นที่ห้องนอนทั้งหมด ตัวบ้านจะแยกกัน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดี เป็นบ้านแฝดที่ให้อารมณ์แบบบ้านเดี่ยวเลยค่ะ

ชั้น 1 : พื้นที่ส่วนใหญ่เป็น Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นและทานอาหารไว้ในโซนเดียวกัน ห้องครัวจะเป็นครัวปิดขนาดใหญ่พอสมควรทำอาหารได้จริงจัง ส่วนของห้องนอนชั้นล่างจะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ติดกับห้องน้ำให้ออกมาใช้งานสะดวก

ชั้น 2 : แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ Master Bedroom ขนาดใหญ่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ฟังก์ชันครบทั้งห้องน้ำในตัว, Walk-in Closet, พื้นที่นั่งเล่นและระเบียง ส่วนพื้นที่ด้านหลังบ้านจัดไว้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ใช้งานได้หลากหลาย เช่น เป็นมุมพักผ่อน, ทำงานอดิเรก โดยทั้ง 2 ห้องจะเชื่อมต่อกันได้ด้วยระเบียงขนาดใหญ่ยาวตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน ซึ่งทำให้ห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ไม่มีส่วนที่ติดกับบ้านข้างๆ เลย ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน

ชั้น 3 : แบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องนอนรอง 2 ห้อง มีขนาดใหญ่และมีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ รองรับครอบครัวที่มีลูก 2 คนและมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยได้สบายค่ะ

พื้นที่จอดรถหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คัน เราลองวัดดูแล้วกว้างประมาณ 6.85 m. ลึก 5.9 เมตร (ความลึกขึ้นอยู่กับแต่ละแปลงบ้าน) สามารถใช้งานได้พอดีๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน โครงการไม่ได้ลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้านมาให้ หากต้องการต่อเติมหลังคาหน้าบ้านเพิ่มเติมอาจจะต้องพิจารณาเรื่องการลงเสาเข็ม แนะนำให้ปรึกษาวิศวกรจะดีที่สุดค่ะ

บริเวณประตูทางเข้าบ้านจะมีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน ใช้งานเชื่อมต่อกับโรงจอดรถได้สะดวก

ภายในที่จอดรถจะมี Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger

ประตูเป็นบานไม้สักจริงมีดีเทลลูกฟักเพิ่มความหรูหรา ในส่วนมือจับประตูเป็นสแตนเลสเกรดพรีเมี่ยมแบรนด์ Hafele ดูดีทีเดียวค่ะ

เข้ามาในบ้านโซนแรกจะมีพื้นที่ให้วางตู้เก็บรองเท้า หรือ เก็บของที่ใช้เป็นประจำเวลาเข้าออกบ้าน

Living Area

Living Area มีขนาดใหญ่ รองรับชุดโซฟาขนาด 4-5 ที่นั่งได้สบายๆ บ้านตัวอย่างจะมีระยะดูทีวีประมาณ 3 เมตร สามารถติดทีวีขนาดใหญ่กว่า 60″ ได้เลย

ติดกับชุดโซฟาจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ข้างหน้าต่างฝั่งหน้าบ้าน ซึ่งเหมาะจะใช้เป็นมุมนั่งเล่นชมสวนนะคะ

ฝั่งหลังบ้านเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหาร มีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะขนาด 6-8 ที่นั่งกำลังพอดี และจากมุมนี้จะสามารถมองไปเห็นสวนรอบๆ บ้านได้ ถ้าจัดสวนข้างบ้านให้สวยๆ ก็เป็นวิวที่ดีเลย

ติดกับโต๊ะทานอาหารเป็นห้องครัวไทย ซึ่งโครงการจะมีประตูกั้นมาให้เป็นสัดส่วน

ห้องครัวไทย & Laundry Area

ภายในห้องครัวไทยมีขนาดใหญ่ ใช้งานร่วมกันได้ทีละหลายคน ซึ่งโครงการจัดไว้ให้เป็นทั้งห้องครัวและห้องซักล้าง โดยจะเดินระบบท่อสำหรับซิงค์ล้างจานและเครื่องซักผ้าไว้ให้ พร้อมปลั๊กไฟ และมีหน้าต่างสำหรับเปิดระบายกลิ่นควันได้สะดวก

Laundry Area จะได้พื้นที่เป็นสัดส่วนอยู่ด้านใน เหมาะสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าและเป็นพื้นที่เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ จากห้องครัวจะมีประตูหลังบ้าน สำหรับเปิดออกไปตากผ้าได้

ลานซักล้างหลังบ้านเป็นพื้นที่แบบ On Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้ หากจะต่อเติมเพิ่มคงต้องลงเสาเข็ม แต่หากใช้ตากผ้าเฉยๆ ไม่น่ามีปัญหาค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านเป็นห้องเก็บของ ห้องน้ำและห้องนอนรอง 1 ที่อยู่ชั้นล่าง

ห้องเก็บของ

ห้องเก็บของเป็นห้องใต้บันไดมีประตูบานปิดเรียบร้อยเป็นสัดส่วน ใช้เก็บของชิ้นใหญ่อย่างกระเป๋าเดินทาง, ถุงกอล์ฟได้ แต่จะไม่ได้มีความสูงฝ้าเท่ากันทั้งห้องเพราะเป็นพื้นที่ใต้บันไดนะคะ

ห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้นล่างของบ้าน Type นี้จัดฟังก์ชันมาครบ แยกโซนเปียกโซนแห้งมาให้ แต่ไม่ได้มีฉากกั้นอาบน้ำ หากใช้งานเป็นประจำแนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มอีกนิดจะใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนตัวคิดว่าเหมาะที่จะรองรับผู้สูงอายุที่ยังเดินยังช่วยเหลือตัวเองได้อยู่ค่ะ

สิ่งหนึ่งที่ชอบคือ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำชั้น 1 จะเป็นแบบอัตโนมัติของ COTTO จึงใช้งานได้สะดวกและส่งเสริมความหรูหราให้กับตัวบ้าน พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.9×1 เมตร พอให้ยืนอาบน้ำได้ โดยโครงการติดตั้งฝักบัวอาบน้ำมาให้เรียบร้อย

ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรอง 1 มีขนาดประมาณ 3.3 x 3.3 เมตร ถ้าจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุก็สามารถวางเตียงเดี่ยวหรือเตียง 5 ฟุตได้ ภายในห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ให้เปิดรับวิวสวนหน้าบ้าน หรือถ้าใครอยากจะปรับเป็นห้องอื่นๆ ก็ได้ เช่น ห้องนอนแขก, ห้องดูหนังเล่นเกมส์ เป็นต้น

บันได

ตำแหน่งของบันไดจะอยู่บริเวณกลางบ้านเลย เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กปิดผิวด้วยไม้โอ๊ค ซึ่งค่อนข้างแข็งแรงทนทาน เวลาวิ่งขึ้น-ลงเร็วๆ ก็ไม่เกิดเสียงดัง มาพร้อมราวจับกันตกที่ติดตั้งให้เกือบตลอดทาง

จุดหนึ่งที่ชอบคือช่องแสง โครงการออกแบบให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาได้ในหลายๆ จุด ทำให้โถงบันไดดูโปร่งโล่ง และหน้าต่างบางบานยังสามารถเปิด-ปิดได้และมีช่องระบายอากาศ Ventilation System ด้วยค่ะ

ขึ้นมาบนชั้น 2 แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่งคือ Master Bedroom จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านและห้องอเนกประสงค์จะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน ชั้นบนปูด้วยพื้นไม้ Hybrid Engineered ได้ผิวสัมผัสที่เหมือนไม้จริง แต่ทนความชื้นและการขูดขีดสูง

พื้นที่อเนกประสงค์ทางฝั่งหลังบ้าน

พื้นที่อเนกประสงค์ทางฝั่งหลังบ้าน เป็นพื้นที่นั่งเล่นของครอบครัวอีกจุดหนึ่งที่สามารถพักผ่อนได้แบบจริงจัง เพราะห้องนี้มีขนาดใหญ่ วางชุดโซฟา 3-4 ที่นั่งได้สบายๆ หรือจะแบ่งโซนเป็นที่ออกกำลังกายเล่นโยคะ ตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ เวลาคุณพ่อคุณแม่มีแขกที่ชั้นล่างลูกๆ ก็พักผ่อนที่ชั้นบนได้ไม่รบกวนกัน หรือเวลากลางคืนอยากรวมตัวดูทีวีด้วยกันก่อนเข้านอน ห้องนี้ก็ตอบโจทย์

จุดที่น่าสนใจคือห้องนี้จะเชื่อมต่อไปยังระเบียงข้างบ้านได้ด้วย จึงมีมุมที่มองออกไปชมสวนบนระเบียงได้ หรืออยากออกไปเปลี่ยนบรรยากาศพักผ่อนแบบ Outdoor ก็ได้เช่นกัน

ระเบียงข้างบ้านเป็นระเบียงขนาดใหญ่ประมาณ 1.9×9.7 เมตร น่าจะถูกใจคนที่อยากแทรกพื้นที่สีเขียวไว้ตามส่วนต่างๆ ของบ้าน เพื่อให้ใกล้ชิดธรรมชาติได้มากขึ้น เช่น เราสามารถปลูกสวนกระถาง และจัดเป็นมุมนั่งเล่นในสวนบนชั้น 2 ได้ และเจ้าระเบียงนี้ยังทำให้ผนังห้องบนชั้น 2 ไม่ติดกับเพื่อนบ้านด้วย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย

ราวกันตกของระเบียงเป็นกระจกใสช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับตัวบ้าน และสามารถมองวิวได้แบบเคลียร์ๆ ไม่มีอะไรมาบังสายตาค่ะ

Master Bedroom

Master Bedroom ดูโปร่งมากเพราะ มีประตูกระจกบานใหญ่ทั้งฝั่งหน้าบ้านและข้างบ้าน พื้นที่วางเตียงนอนสามารถวางเตียง 6 ฟุตได้และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง เราสามารถนอนมองวิวได้จากบนเตียง ซึ่งหากเราตั้งต้นไม้กระถางตามแนวระเบียงก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ร่มรื่น ใกล้ชิดธรรมชาติขึ้นได้

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นมุมนั่งเล่นที่สามารถวางชุดโซฟาได้แบบจริงจัง แต่หากใครชอบนอนดูทีวีก็อาจจะติดตั้งชั้นวางทีวีบริเวณปลายเตียงและเปลี่ยนฟังก์ชันมุมนี้เป็นพื้นที่ทำงานหรือมุมอ่านหนังสือแทนก็ได้ จุดเด่นหนึ่งของห้องนี้คือมีระเบียงขนาดใหญ่ด้านข้างที่เราพาไปชมกันก่อนหน้านี้ จึงได้ระเบียงใหญ่เชื่อมยาวไปถึงห้องอเนกประสงค์เลย

ประตูระเบียงฝั่งหน้าบ้านเป็นบานเลื่อน 3 ตอน เปิดได้กว้างถึง 1.6 เมตร ใช้งานได้สะดวก ในส่วนของระเบียงมีขนาด 2.9 x 0.6 เมตร พอให้ตั้งกระถางต้นไม้ได้

พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของเตียงเป็น Walk-in Closet ซึ่งเราสามารถทำประตูกั้นเป็นสัดส่วนตามแบบในบ้านตัวอย่าง

พื้นที่สำหรับ Walk-in Closet มีขนาดใหญ่ เมื่อ Built-in ตู้เสื้อผ้าทั้ง 2 ฝั่งแล้วยังเหลือพื้นที่ทางเดินกว้างประมาณ 1.4 เมตรเลยค่ะ แต่โซนนี้จะไม่มีหน้าต่าง หากจะวางโต๊ะเครื่องแป้งอาจจะต้องใช้แสงจากหลอดไฟช่วยในการแต่งหน้าแทนนะคะ

ห้องน้ำจัดแบ่งโซนเปียกโซนแห้งไว้เรียบร้อย สุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้ของ COTTO เช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง สุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติของ COTTO เช่นกัน  เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีขนาดใหญ่ จึงมีพื้นที่ให้ใช้วางของข้างๆ อ่างล้างหน้าได้ด้วย

ภาย Shower Box จะลดระดับลงมานิดหน่อยเพื่อกันไม่ให้น้ำไหลย้อนไปโซนแห้ง อุปกรณ์ชุดอาบน้ำที่ให้มาจะมีทั้งแบบ Rain Shower และฝักบัวอาบน้ำ ผนังด้านข้างเจาะเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.3 x 0.9 เมตร พอให้ยืนอาบน้ำได้สบายๆ

ขึ้นมาบนชั้น 3 จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องนอนรองอีก 2 ห้อง มีขนาดใหญ่และมีห้องน้ำในตัวทั้งคู่

ห้องนอนรอง 2

มาดูห้องนอนรองฝั่งหลังบ้านกันก่อน มีพื้นที่กว้างสามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือที่ให้วางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้ครบถ้วน คิดว่าอยู่อาศัยได้ตั้งแต่เล็กจนโตไม่น่ามีปัญหา มีมุมหน้าต่างที่เหมาะสำหรับเป็นจัดโต๊ะอ่านหนังสือหรือโต๊ะเครื่องแป้ง อีกฝั่งหนึ่งของห้องจัดเป็นโซนแต่งตัวได้พอดี เพราะอยู่ติดกับห้องน้ำเลย จึงสามารถใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก

สำหรับ Condensing Unit ทางโครงการก็ออกแบบให้มีที่วางไว้เรียบร้อย ไม่ต้องแขวนยื่นออกจากตัวบ้าน

ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียกแห้งมาเป็นสัดส่วน ให้สุขภัณฑ์และวัสดุหลักๆของ COTTO เช่นกัน พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.8×1.2 เมตร มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้พร้อมใช้งานเลย

ห้องนอนรอง 3

ปิดท้ายด้วยห้องนอนรอง 3 จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน มีขนาดใหญ่กว่าห้องแรกเล็กน้อย พื้นที่วางเตียงมีขนาดใหญ่วางเตียง 5-6 ฟุตได้สบาย และยังเหลือพื้นที่รอบข้างให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าหรือตู้เก็บของได้เต็มผนังเลยนะคะ

ปลายเตียงเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ที่สามารถใช้ทำเป็น Walk-in Closet หรือมุมนั่งเล่นพักผ่อนตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ ห้องนี้มีระเบียงในตัวด้วย เรียกว่าเป็นห้องนอนของลูกคนโปรดก็ว่าได้ ระเบียงมีขนาด 2.2 x 0.6 เมตร พอสำหรับการวางกระถางต้นไม้ หรือออกไปยืนรับลมค่ะ

ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียกแห้งมาเป็นสัดส่วน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้พร้อมใช้งาน สุขภัณฑ์และขนาดพื้นที่ใช้สอยพอๆ กับห้องนอนลูกห้องแรกค่ะ ใช้งานได้สะดวกตามมาตรฐาน

Supalai Elegance Phaholyothin 50 (ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50) ราคา ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2568

• ศุภนารินทร์ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 87.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 466 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน / 8 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 2 พื้นที่พักผ่อน / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 18.13 ล้านบาท
• ศุภศรัณย์ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 69.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 พื้นที่พักผ่อน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 14.18 ล้านบาท
• ศุภศิริ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 66.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 321 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 พื้นที่พักผ่อน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 12.41 ล้านบาท
• ศุภศิลป์ บ้านแฝด 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 47.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 243 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่พักผ่อน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท
• หากจองและทำสัญญาในวันเดียวกัน : บ้านเดี่ยว 150,000 บาท, บ้านแฝด 100,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50 (Supalai Elegance Phaholyothin 50) ต้องบอกว่า ณ ปัจจุบันที่นี่เป็นโครงการมือหนึ่งโครงการเดียวที่อยู่ติดถนนใหญ่เทพรักษ์ ใกล้สนามบินดอนเมือง, ใกล้ทางด่วนฉลองรัช ดั้งนั้นใครที่ทำงานในเมืองไม่ว่าจะเป็นโซนพระราม 9, ลาดพร้าว, เกษตรนวมินทร์, ทาวน์อินทาวน์ ก็ยังสามารถขับรถไปทำงานได้ง่าย ซึ่งถ้าเทียบกับโครงการอื่นๆในระดับราคาใกล้ๆกัน ส่วนใหญ่ก็จะต้องขยับออกไปอีกบนถนนวัชรพล หรือ สุขาภิบาล 5 นะคะ

นอกจากนี้ยังอยู่บนทำเลที่ไปใช้รถไฟฟ้าได้ง่ายด้วย ใกล้ที่สุดคือ BTS สายสีเขียวสถานีสายหยุด ระยะจากโครงการประมาณ 4.1 km. อยู่บริเวณหน้าปากซอยที่ตัดกับถนนพหลโยธิน นั่งยาวๆ เข้าสยามโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถเลย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ระบบรักษาความปลอดภัยของตัวโครงการถือว่าได้ตามมาตรฐานของระดับราคา โดยใช้แบบประตูเลื่อนไฟฟ้า ผ่านเข้าออกด้วยระบบ VMS (Visitor management systems) พร้อม LPR อ่านป้ายทะเบียน พร้อม CCTV รอบโครงการ 31 จุดและพี่รปภ. ดูแล 24 ชั่วโมง

ในส่วนของตัวบ้านจะติดตั้ง Magnetic Sensor เฉพาะชั้น 1 และ Indoor/ Outdoor Security Camera ตรวจสอบความเคลื่อนไหว และแจ้งเตือนเมื่อเกิดการบุกรุกที่ Living Area และ โรงจอดรถ

การออกแบบโครงการ : การวางผังจะออกแบบสวนส่วนกลางและอาคาร Clubhouse ไว้ด้านหน้าโครงการ ใช้เป็นหน้าเป็นตารับแขกได้ และเราจะได้วิวสวนส่วนกลางทุกครั้งที่เข้าออกโครงการเลย ซึ่งฟังก์ชันส่วนกลางก็ออกแบบให้เห็นวิวสวนทั้งหมด ในขณะที่สระว่ายน้ำจะได้ความเป็นส่วนตัวสูง มีไม้พุ่มบังสายตา

อีกทั้งทิศของบ้านส่วนใหญ่ในโครงการจะหันทางทิศเหนือและใต้เป็นหลัก ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมสำหรับการอยู่อาศัยเลยทีเดียว

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :

พอโปรดักส์เป็นบ้าน 3 ชั้นทำให้ที่นี่ได้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะ คุ้มค่ากับราคามากเหมาะกับคนที่เน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะๆ ไม่ได้เน้นพื้นที่รอบบ้านมากนัก เมื่อเทียบกับโครงการบ้าน 2 ชั้นจะเห็นได้ชัดเจนมากว่า ในงบเท่ากัน บ้านของโครงการนี้จะได้พื้นที่ใช้สอยเยอะกว่ามาก

ในส่วนของฟังก์ชันก็รองรับ 3 Generations เลย 4-6 ห้องนอน มีห้องนอนชั้น 1 ในทุกแบบบ้าน และในแบบบ้าน 2 ไซส์ใหญ่ จะมีลิฟต์โดยสารมาให้ในตัวด้วย ที่จอดรถก็เป็นอีก Highlight นึงเพราะให้มา 3-4 คัน ซึ่งหากจะหา 4 จอดในโครงการอื่น จะเริ่มประมาณ 20 กว่าล้านขึ้นไปแต่ที่นี่ 12.41 ล้านก็ได้ 4 จอดแล้วค่ะ ถือเป็นโปรดักส์หายากในโซนนี้

วัสดุ : หลายๆ อย่างให้มาดี เช่น กรอบประตูหน้าต่าง อลูมิเนียมญี่ปุ่น SANKYO พร้อมช่องระบายอากาศ, ติดตั้ง Home Automation ช่วยอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย, พื้นปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน ซึ่งทนทานกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ตามปกติ, ชั้นบนปูพื้นด้วย Hybrid Engineered ได้ผิวสัมผัสที่เหมือนไม้จริง ทนความชื้นและการขูดขีดสูง,ใช้โครงสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน รองรับการทุบต่อเติมในอนาคตและมี Solar Cell มาให้ทุกหลัง แต่หากจะต่อเติมหลังคาที่จอดรถหรือครัวหลังบ้านจะก็อาจจะต้องลงเสาเข็มเพิ่มค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศโดยรวมเราว่าดูดีกว่าเพื่อนบ้านหลายๆ โครงการที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน บริเวณทางเข้ามีสวนส่วนกลางและ Clubhouse ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูแกรนด์ ภาพรวมดูเรียบร้อยสะอาดสะอ้านน่าอยู่อาศัย

สาธารณูปโภค : ให้มาดี ส่วนกลางมีขนาดใหญ่ทั้งสวนและ Clubhouse ฟังก์ชันส่วนกลางไม่หลากหลายมาก แต่ดูน่าใช้งานในหลายส่วนเลย” อย่างสระว่ายน้ำก็ใช้ระบบน้ำแร่ เหมาะกับคนผิวบอบบาง แพ้ง่าย, เครื่องออกกำลังกายก็ใช้เป็นจอ Touch Screen เทียบกับค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.ว./เดือน ถือว่าไม่แพงเลยนะคะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50 (Supalai Elegance Phaholyothin 50) เทียบกับแพคเกจ 9.9 – 30 ล้านบาท, 27 สิงหาคม 2568

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – ติดถนนใหญ่เทพรักษ์ ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า
• ความปลอดภัย 8/10 – ประตูเลื่อนอัตโนมัติ, ระบบ VMS, ระบบ LPR อ่านป้ายทะเบียน, IP Camera, Magnetic Sensor
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – พื้นที่ใช้สอยใหญ่ คุ้มค่า จอดรถได้เยอะ
• วัสดุ 8/10 – หลายอย่างให้มาดี, รองรับการทุบต่อเติมในอนาคต
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – โดยรวมดูดีกว่าเพื่อนบ้านหลายๆ โครงการ
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – ขนาดใหญ่ ฟังก์ชันไม่หลากหลายมาก แต่ดูน่าใช้งานในหลายส่วน ค่าส่วนกลางราคาเป็นมิตร
• 8.4 / 10.00

ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50 (Supalai Elegance Phaholyothin 50) เหมาะกับใคร

ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50 (Supalai Elegance Phaholyothin 50) เหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับทำเลเป็นอันดับแรก ชอบโครงการติดถนนใหญ่ ซึ่งหาได้ยากค่ะ มองหาบ้านสำหรับครอบครัวใหญ่ 4-6 ห้องนอน หรือครอบครัวที่อยากอยู่อาศัยกันแบบคนละชั้น ถ้าในราคาเท่ากันแล้วต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าบ้าน 2 ชั้น บ้าน 3 ชั้นของที่นี่ตอบโจทย์เลย มองหาบ้านที่จอดรถได้เยอะ 3-4 คัน รองรับทุบต่อเติมได้ในอนาคต พร้อม Solar Cell ติดตั้งมาให้ทุกหลัง ในราคาเริ่มต้นบ้านแฝด 9.9 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 12.41 ล้านบาท หรือมีงบประมาณในการผ่อนเริ่มต้น 69,300 บาท/เดือน

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

• เศรษฐสิริ วัชรพล-เทพรักษ์
• The City วัชรพล
• Eternity รามอินทรา-วัชรพล
• นาราสิริ พหล-วัชรพล
• The Palm Residences วัชรพล

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่